รีวิวเกาหลี พาชมและเรียนรู้เรื่องราวในอดีตของเมืองปูซาน ที่ Busan Museum

Busan Museum (부산박물관 = พูซานบัคมุลกวาน) *คำว่า 박물관 แปลว่า พิพิธภัณฑ์  ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลี และวัฒนธรรมดั้งเดิมของเมืองปูซานได้อย่างดีเยี่ยม เปิดมาตั้งแต่ปี 1978 มีห้องจัดนิทรรศการถึง 7 ห้อง และได้ทำการปรับปรุงอีกครั้งในปี 2002 และเปิด Exhibition Hall เพิ่มอีก 2 Hall เรียกได้ว่าเดินชมกันจนเพลินเลยล่ะ ใครที่ชอบศึกษาเรื่องราวผ่านพิพิธภัณฑ์ และพอจะมีเวลา แนะนำให้มาที่นี่ดูค่ะ

Photo by visitkorea.or.kr

มินเองได้เคยมีโอกาสมาเที่ยวชมที่นี่ กับเพื่อนใหม่ที่ชื่อเอเลียน่าค่ะ ตามมินไปชมกันว่าในพิพิธภัณฑ์นี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เดินตามทางนี้ไปเลย

ที่นี่เข้าชมฟรีค่ะ เสียค่าเข้าชม 500 วอนค่ะ แต่พอดีมินไปวันเสาร์ ซึ่งทุกๆ วันเสาร์ เข้าฟรีค่ะ มินเลยไม่เสียเงินค่าเข้า แต่เจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วแบบนี้มาด้วย ดีเหมือนกันได้เก็บเป็นที่ระลึก ^^

ก่อนเข้าไปชมด้านใน หยิบโบรชัวร์ติดมือมาซะหน่อย

Exhibition Hall 1 จะเป็นห้องที่จัดแสดงเกี่ยวกับยุคปลายของช่วงยุคหินเก่า, สมัยอาณาจักรชิลลา, สมัยราชวงศ์โครยอ และสมัยราชวงศ์โชซอน ในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา และพระธาตุของสมัยโชซอน

บริเวณภายในห้องโถง

มาดูเรื่องราวของมนุษย์ในช่วงยุคหินเก่ากัน ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกันนะคะ

มาถึงโซนของช่วงสมัยราชวงศ์ต่างๆ ซึ่งก็มีวัตถุโบราณในสมัยก่อนจัดแสดงไว้มากมาย ล้วนแล้วแต่ควรค่าในการอนุรักษ์ และเก็บไว้ให้คนเกาหลีรุ่นหลังได้ชม

ในโซนนี้ก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวกับตำราหนังสือ และพระธาตุในสมัยโชซอน

มาดูโซนที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามทางน่านน้ำปูซาน ระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น ที่นำทัพโดยนายพล หรือพลเรือเอกอีซุนชิน (Yi Sun-shin) อันเป็นเหตุการณ์โด่งดังและถูกกล่าวถึงมากมายในอดีต (จวบจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย) ซึ่งอีซุนชิน คือแม่ทัพเรือของเกาหลีในยุคราชวงศ์โชซอน ที่มีชื่อเสียงจากการนำกองทัพเรือเกาหลีเข้าต่อสู้กับกองทัพเรือญี่ปุ่น ในการรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่น และสามารถเอาชนะกองทัพญี่ปุ่นได้ ทั้งที่มีกำลังคนและเรือน้อยกว่านั่นเองค่ะ

มากันที่ Exhibition Hall 2 กันบ้าง ที่ห้องนี้จะจัดแสดงเกี่ยวกับอดีตความเป็นมา และวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวปูซานในอดีต มาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง 

เริ่มที่แผนที่ของเมืองปูซานในอดีต

ส่วนอันนี้เป็นโปสการ์ดสมัยก่อน ที่จะเป็นภาพสถานที่ต่างๆ ในปูซาน

วิวัฒนาการของโปสการ์ด ที่เริ่มจะมีลวดลายสีสัน

มาดูพันธบัตรที่ใช้ในสมัยตอนตกอยู่ในอาณานิคมของญี่ปุ่น เคยเห็นกันมั้ยเอ่ย

ประวัติศาสตร์ของโทรศัพท์เกาหลี

มาดูเรื่องการเรียนการศึกษากันบ้าง นี่คือหนังเสือเรียนของสมัยก่อนค่ะ

หมวกของนักเรียนชาย บัตรนักเรียน และกล่องข้าวกลางวันที่เราคุ้นตา

นี่คือหนังสือวรรณกรรม นิยาย และนิตยสาร

สุดท้ายของโซนนี้กับออร์แกนค่ะ

จากห้องนี้ไปก็ยังคงมีห้องที่จัดแสดงโมเดลต่างๆ ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของชาวปูซานเช่นกัน

มาที่ห้องสุดท้าย History Experience Room ที่ห้องนี้จะมีหุ่นขี้ผึ้งที่แสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปูซานในอดีต การดำรงชีวิต มีการจำลองห้องครัว ร้านถ่ายรูป ร้านทำผม ร้านซ่อมนาฬิกา และอื่นๆ อีกมากมายให้ได้เดินชมกันอย่างเพลิดเพลิน

มินเดินชมจนทั่ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของเกาหลีและชาวเมืองปูซานได้อย่างครบถ้วน นอกจากจะมีไว้สำหรับคนเกาหลีได้เข้ามาชมมาศึกษาแล้ว ยังช่วยเปิดโลกทัศน์และเพิ่มความรู้เกี่ยวกับประเทศเกาหลีให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ อีกด้วย ใครชอบพิพิธภัณฑ์ ที่นี่คืออีกที่ที่น่าสนใจค่ะ ทิ้งท้ายด้วยภาพทัศนียภาพสวยๆ ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ ช่วงปีนั้นมินไปตรงกับฤดูใบไม้ร่วงพอดี จึงได้มีโอกาสเห็นสีสันของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีพอดีค่ะ

Address : 63, UNpyeonghwa-ro, Nam-gu, Busan
Tel : 051-610-7111
Website : museum.busan.go.kr
Open from : 9:00-18:00  
Closed : Mondays, New Year's day (January 1st)
Admission : ผู้ใหญ่ (อายุ 25-64 ปี) 500 วอน, นักเรียน (อายุ 13-24 ปี) และทหารเรือ 300 วอน, เด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี), ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) และคนพิการ เข้าชมฟรี *ทุกวันเสาร์เข้าชมฟรีทุกคน
How to go : รถไฟใต้ดินปูซานสาย 2 สีเขียว ลงสถานีแทยอน (Daeyeon) ทางออกที่ 3 ออกมาแล้วหันหลังเดินกลับไปทางสี่แยก แล้วเลี้ยวซ้ายตามถนนใหญ่ไป

Photo by Daum Map

จากนั้นเดินตรงยาวไปตามถนนประมาณ 500 เมตร เดินตามป้ายบอกทางที่เขียนว่าไป UN Memorial Cemetery เลยค่ะ

Photo by Daum Map

ป้ายบอกทางชัดๆ

พอเดินมาเจอสี่แยกใหญ่จะเจออนุสรณ์สถาน UN แบบนี้ จะเห็นป้ายสีน้ำเงินอยู่ตรงข้าม ถึงพิพิธภัณฑ์แล้วล่ะค่ะ ก็แค่เดินเลี้ยวไปทางซ้ายแล้วข้ามถนนก็ถึงแล้ว

Photo by Daum Map

อนุสรณ์สถาน UN มีธงชาติไทยด้วย เพราะทหารไทยเคยไปร่วมรบกับเกาหลีใต้และเสียชีวิตไปหลายนาย ในสงครามเกาหลีเมื่อปี 2493 และนี่จึงเป็นที่มาของการที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีได้แบบไม่ต้องมีวีซ่านั่นเองค่ะ ซึ่งจะสามารถพำนักได้ไม่เกิน 90 วัน (มีคุณงามความดีเคยช่วยเหลือเกาหลีใต้รบกับเกาหลีเหนือนั่นเอง)

Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ 2