รีวิวเกาหลี พาเที่ยวสวนสัตว์ Seoul Zoo ดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Seoul Grand Park

ย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว มินเลยนึกถึงสถานที่นึงที่เคยไปมา ที่นี่นอกจากจะมีทั้งสวนสัตว์ที่น่าเดินเล่นชมสัตว์หลากหลายชนิดแล้วนั้น ยังมีสวนสนุกและสวนดอกไม้อีกด้วย รวมถึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีที่มินคิดว่าสวยที่สุดแห่งนึงในโซลเลยล่ะค่ะ สถานที่ที่มินพูดถึงนี้ก็คือ Seoul Grand Park (서울대공원) 

Seoul Grand Park แห่งนี้มีพื้นที่รวมทั้งหมด 9,157,000 ตารางเมตร กว้างใหญ่มากๆ เลยล่ะค่ะ ด้านในจะประกอบไปด้วย สวนสัตว์ Seoul Zoo, Botanical Gardens, สวนสัตว์ Children's Zoo, สวนดอกไม้ Rose Garden, สวนสนุก Seoul Land และ พิพิธภัณฑ์ Seoul Museum of Modern Art

มินได้มีโอกาสไปเดินเล่นในส่วนของสวนสัตว์ Seoul Zoo (서울동물원) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมา เลยได้เห็นบรรยากาศสวยๆ ของใบไม้เปลี่ยนสี ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสลับเหลืองทอง สวยงามและทำให้เคลิบเคลิ้มจริงๆ ตามมินมาดูบรรยากาศของที่นี่ไปพร้อมๆ กับเดินเล่นชมสัตว์นานาชนิดกันค่ะ 

พอเดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดินมา ภาพแรกที่มินเห็นเลยก็คือภาพนี้ สวนสัตว์นี้ตั้งอยู่บนเขา จึงทำให้อากาศดี เย็นสบาย และพบเห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้ก่อนที่อื่นๆ ในโซล

ใครที่มาเที่ยวโซลแล้วผิดหวังกับใบไม้เปลี่ยนสี มินแนะนำให้คุณมาที่นี่ค่ะ เพราะแค่ที่บริเวณทางเข้าก็เต็มไปด้วยสีสันของต้นไม้ใบไม้แล้วล่ะ ไม่เชื่อไปดูภาพที่มินเก็บมาฝากกัน บอกก่อนว่าภาพที่ถ่ายมาไม่สวยเท่าของจริง เพราะฝีมือการถ่ายภาพของมินอนุบาลมากๆ แถมกล้องก็ธรรมดา ไม่มีเลนส์ไวด์ เลนส์ซูม อะไรกับเค้า >.<

มองไปไกลๆ ก็จะเห็นวิวเป็นภูเขา ประดับไปด้วยสีสันของไบไม้ สวยงามมมม

วันที่มินไปเป็นวันธรรมดา มีคนมาเที่ยวพอสมควร มีทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ และผู้สูงวัย ถ้าใครมาวันหยุด ก็อาจจะเจอผู้คนหนาแน่นได้ เพราะวันหยุดคนเกาหลีชอบไปเที่ยวสวนสัตว์ สวนสนุก และสวนสาธารณะกันค่ะ

เด็กเกาหลีนี่น่ารักจริงๆ เนอะ แอบถ่ายมาหลายคนเลย อิอิ

ระหว่างเดินเข้าไปด้านใน ก็มีร้านขายของเล่น และร้าน DUNKIN' DONUTS ด้วย เลยแวะซื้อโดนัทกินเพิ่มพลังกันนิดนึง 

โดนัทที่นี่ทิ้งไว้ข้ามคืนแกะออกมากินก็ยังนิ่มอร่อยนะคะ ไม่แข็ง เพราะวันนั้นเพื่อนมินซื้อโดนัทช็อกโกแลตอันนี้แล้วลืมกิน มากินอีกทีตอนเช้า เห็นว่ายังอร่อยอยู่ 

มีรถขายไอติมด้วย แต่ไม่ได้ซื้อมาลองนะคะ ใครไปก็ไปลองชิมกันดู

เข้ามาถึงด้านในแล้ว ก็ยังเจอสีสันของใบไม้รอต้อนรับเราอีก ที่เห็นเดินในภาพคือมินเอง >.<

เดินมาถึงทางเข้า North Gate มินก็เลือกที่จะขึ้นกระเช้าแทนการเดินเข้าไปค่ะ เพราะตั้งใจมากๆ ที่จะมานั่งกระเช้าชมวิวที่นี่ แต่ถ้าใครจะเดินเข้าไปเลยก็ได้ แค่ซื้อตั๋วเข้าชมสวนสัตว์ที่เคาน์เตอร์ก่อนเท่านั้นค่ะ และหากใครมีสัมภาระรุงรัง ที่ประตูทางเข้าจะมีล็อกเกอร์ให้เช่าด้วยนะคะ ค่าบริการ กระเป๋าใบใหญ่ 1000 วอน, กระเป๋าใบเล็ก 500 วอน ฝากได้ทั้งวันเลยค่ะ

แต่ถ้าใครจะนั่งกระเช้าแบบมิน ก็ซื้อเป็นตั๋วแบบแพ็คเกจ Zoo+Lift Tickets ได้เลยนะคะ จะเลือกนั่งกระเช้าเที่ยวเดียว ไป-กลับ หรือแบบนั่งได้ 1 วันไม่จำกัดก็ได้ ส่วนมินเลือกแบบไป-กลับเลย เพราะขากลับออกมาแอบขี้เกียจเดิน >.< ราคาก็จะเป็นคนละ 12000 วอน รวมค่าเข้าสวนสัตว์

ค่านั่งกระเช้า *ราคาปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากภาพด้านล่าง
- เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 5500 วอน, นักเรียน 4000 วอน, เด็ก 3500 วอน
- ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 10000 วอน, นักเรียน 6500 วอน, เด็ก 5500 วอน
- One Day นั่งได้ไม่จำกัดเที่ยว ผู้ใหญ่ 13000 วอน, นักเรียน 9000 วอน, เด็ก 8000 วอน

อันนี้คือราคาเฉพาะค่าเข้าสวนสัตว์ และเวลาเปิดปิดค่ะ ช่วงเดือนตุลาคมที่มินไปจะปิดตอน 19:00 มินมาถึงสวนสัตว์ก็บ่ายสองแล้ว มีเวลาเที่ยวไม่มาก แนะนำว่าถ้าใครจะมาที่นี่ ขอให้สละเวลาทั้งวันเลยนะคะ เพราะสวนสัตว์ใหญ่มากจริงๆ ต้องใช้เวลาทั้งวันถึงจะชมได้ทั่ว (หรืออาจจะไม่ทั่วด้วยซ้ำ) ควรมาแต่เช้าตั้งแต่เปิดเลยก็จะดีมากๆ ค่ะ เพราะมินอยู่ที่นี่เกือบ 5 ชม. ยังเที่ยวได้ไม่ถึงครึ่งนึงของสวนสัตว์เลย

ตั๋วเข้าชม Seoul Zoo รวมสามคน 9000 วอน

ก่อนจะขึ้นกระเช้า ก็หยิบโบรชัวร์ติดมือมาสักหน่อย มี 2 ภาษาเลยล่ะ

ป้ายแผนที่สวนสัตว์ ดูสิคะว่ามันกว้างงงงงงแค่ไหน เดินทั้งวันยังไม่รู้เลยว่าจะทั่วมั้ย >.<

ได้เวลาแล้ว ไปขึ้นกระเช้ากันดีกว่า กระเช้าที่นี่ไม่น่ากลัวค่ะ เขาเซฟตี้ด้านล่างด้วยตาข่าย หากมีอุบัติเหตุตกจากกระเช้า ก็ยังมีตาข่ายรองรับไม่ตกลงไปในน้ำ และตรงที่นั่งก็มีเหล็กกั้นตัวเราไว้ไม่ให้หล่นด้วย แต่ถ้าเด็กตัวเล็กๆ นั่ง ผู้ปกครองควรนั่งขนาบข้างไปด้วยนะคะ เพราะถ้าน้องนั่งไม่นิ่ง มีหวังหลุดจากที่กั้นหล่นไปข้างล่างแน่ๆ 

มินชอบนั่งกระเช้ามากๆ มันได้ฟีลได้บรรยากาศดีค่ะ มองภูเขา มองสีสันของใบไม้ไป อากาศหนาวๆ เย็นๆ ฟินดีเหมือนกัน แนะนำเลยนะ ถ้าใครไม่กลัวความสูง ไปลองขึ้นกันดู วิวสวยจริงๆ ค่ะ ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงปลายทางรวมแล้ว 1.7 กิโลเมตร

กระเช้ามินสวนกันกับกระเช้าของครอบครัวเกาหลีที่พาลูกมาเที่ยว เลยหันไปโบกมือทักทายกัน แช๊ะมาสักหนึ่งภาพด้วยความไว น้องๆ น่ารักมากเลย

หันไปถ่ายรูปวิวด้านล่างกันบ้างดีกว่า สวยมั้ยคะ ^^ 

มองไปยังด้านล่างจะเห็น Rose Garden ด้วย ใครชอบดอกไม้ก็เข้าไปชมกันได้นะคะ Rose Garden จะอยู่ในส่วนของ Theme Gardens มีพื้นที่ 54,000 ตารางเมตร มีดอกกุหลาบถึง 203 สายพันธุ์ 

ค่าเข้า Theme Gardens (รวม Children’s Zoo และ Rose Garden)

- ผู้ใหญ่ 2000 วอน

- นักเรียน 1500 วอน

- เด็ก 1000 วอน

และถ้าหันมาอีกฝั่ง เราก็จะเห็นสวนสนุก Seoul Land ที่อยู่ใกล้ๆ กันอีกด้วย สวนสนุกแห่งนี้มีพื้นที่ถึง 817,209 ตารางเมตรเลยล่ะค่ะ และยังเป็นสถานที่ที่เคยใช้ถ่ายทำรายการรันนิ่งแมน เทปที่มีแขกรับเชิญคือ ซึงยอนและกยูริ จาก KARA , ฮยอนอา 4Minute, คริสตัล f(x) และ ซูจี Miss A อีกด้วย

พอถึงจุดจอดกระเช้า ก็ได้เวลาลงไปเดินชมสัตว์กันแล้วล่ะค่ะ ซึ่งเฉพาะ Seoul Zoo และ Botanical Gardens มีพื้นที่รวม 2,420,000 ตารางเมตร มีสัตว์ถึง 3,400 ตัว 360 สายพันธุ์ มีทั้งสัตว์ป่าแอฟริกัน สัตว์ป่าหายาก สัตว์น้ำ นก และอื่นๆ มากมายจริงๆ ค่ะ

ด้านในสวนสัตว์ลึกเข้าไป ก็ยังมีสีสันของใบไม้ให้เห็นได้ทั่วไปจริงๆ มินชอบคนสูงอายุที่นี่มาก เขาแข็งแรงกันมากๆ เลย เดินขึ้นเขา เดินออกกำลังกายกันแบบไม่มีทีท่าจะเหนื่อย 

หรือจะเป็นแบบครอบครัวก็มากันเยอะ

และถ้าใครขี้เกียจเดิน เขาก็มีบริการ Free Shuttle รถที่จะพานั่งจากโซนนึง ไปอีกโซนนึง ไม่เสียเวลาดี สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก รถนี้จะให้บริการตั้งแต่ 10:00-17:00 และจะมาทุกๆ 15-30 นาที ขึ้นได้ฟรีจ้า

ข้างในมีป้ายแบบนี้บอกทางตลอดไม่ต้องกลัวหลง แต่ก็ยังคงแอบงงนิดหน่อย ฮาาาาา

มินกับเพื่อนเลือกเดินชมสัตว์ที่โซน African Pavilion กันก่อนเลย มีสัตว์อะไรบ้าง มินเอาภาพมาฝากบางส่วนค่ะ ชนิดแรกมีชื่อเรียกว่า Gemsbok 

ม้าลายที่เราคุ้นเคย

นกกระจอกเทศแอฟริกัน 

ไข่นกกระจอกเทศ 

ยีราฟก็มี

ตัวนี้ชื่ออะไร มินจำไม่ได้

ตัวนี้ก็ด้วย ไม่รู้ชื่ออ่ะ

แน๊....มองกล้องด้วยนะตัวเองงงง

ฮิปโปวววววววววววววววววว

โซนต่อมา Ape Pavillion เจอเด็กเกาหลีอีกแล้ว

ฝูงนี้คือลิงบาบูนค่ะ จริงๆ โซนนี้มีกอริลล่าสัตว์หายากด้วยนะ แต่เสียดายเดินไปไม่ถึง

ลิงอุรังอุตัง

มาถึงโซน North Korean Pavilion กันบ้าง สัตว์ชนิดนี้คือ Fennec Fox น่ารักดีอ่ะ

นอนหลับปุ๋ยเลยยยย

และนี่คือโซนสุดท้ายที่มินกับเพื่อนเดินมาชม โซน Small Carnivores Pavilion ตัวที่เห็นนี้มันคือ เมียร์แคต นั่นเองค่ะ มินชอบมากอ่ะ อย่างน่ารักเลย

เดินชมสัตว์กันไป ฟ้าก็เริ่มมืด จึงชักชวนกันกลับ เพราะเริ่มจะเย็นมากแล้ว แถมสวนสัตว์ก็ใกล้ปิด กลัวไปติดแหง็กกันอยู่ข้างในแล้วไม่มีใครรู้ 555555 แอบเสียดายที่ยังเดินไม่ทั่วเลย อดดูโชว์ปลาโลมาด้านในเลยล่ะ ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะมาใหม่ และจะมาแต่เช้าเลย ก่อนกลับไปขึ้นกระเช้า ยังแอบแวะดูสัตว์อีกนิดนึงด้วย นกฟลามิงโก้ค่ะ เพิ่งได้เห็นตัวเป็นๆ ก็วันนี้

สุดท้ายเดินไปเดินมา ก็เจอเข้ากับสวนดอกไม้เล็กๆ เลยแวะถ่ายรูปนิดนึง

สองหนูน้อย น่ารักเนอะ ^^

ภาพบรรยากาศสุดท้ายของใบไม้เปลี่ยนสี ตอนตะวันเริ่มจะตกดินค่ะ

ใครมาเที่ยวไม่ต้องกลัวหิว เพราะมีร้านอาหาร และมินิมาร์ทด้วย รวมถึงด้านในบริเวณ Dolfhin Show Hall มีศูนย์อาหารด้วยล่ะค่ะ ก็เลือกกินกันตามสบายเลย

ได้เวลานั่งกระเช้ากลับกันละ มืดๆ แบบนี้ รู้สึกวังเวงดีค่ะ 55555

ทิวเขาตอนกลางคืนสวยดีเหมือนกันนะ

จากนั้นก็เดินออกไปทางเส้นทางเดิมที่เราเดินเข้ามา เพื่อไปยังสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ภาพสุดท้ายของที่นี่ ได้บรรยากาศสวยและโรแมนติกดีมั้ยคะ ^^

Address : 102, Daegongwongwangjang-ro, Gwacheon-si, Gyeonggi-do

Tel : 02-500-7335

Website : grandpark.seoul.go.kr

Open from : Mar.-Oct. 9:00-19:00, Nov.-Feb. 9:00-18:00

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานี Seoul Grand Park ทางออกที่ 2 จากในสถานีเดินตามป้ายบอกทางออกที่ 2 ไปเรื่อยๆ จนเจอบันไดสูงๆ แบบนี้ เป็นสัญญาณว่าถึงแล้ว เพราะเรากำลังจะเดินขึ้นเขาเบาๆ ค่ะ

พอออกมาหันหลังกลับไปจะมองเห็นสถานีแบบนี้ค่ะ

และด้านหน้าของเราก็คือทางเดินไปยัง Seoul Grand Park นั่นเอง