27 ธันวาคม 2557

เทศกาลขึ้นปีใหม่ : Jeongdongjin Sunrise Festival


จองดงจิน (정동진) คืออีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในคืนวันขึ้นปีใหม่ กับเทศกาล Jeongdongjin Sunrise Festival (정동진 해돋이축제) ที่นี่ตั้งอยู่ที่เมืองคังนึง จังหวัดคังวอนโด


และนอกไปจากนี้ ที่นี่ยังมีสถานีรถไฟจองดงจิน สถานีรถไฟแห่งเดียวในเกาหลีและในโลกที่อยู่ติดชายทะเล ถ้าจำกันได้ สถานที่แห่งนี้คือสถานที่ที่คู่รักย๊งซอ เคยมาด้วยกัน ในรายการ We Got Married นั่นเองค่ะ หากอยากรู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่สวยแค่ไหน ตามมินมาดูกันเล้ยยย


หากอยากจะมาให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น จะต้องมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้ามืด การเดินทางมาจากโซล จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ถ้ามาด้วยรถไฟมูกุงฮวา ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด (ไม่มีรถไฟ KTX) มินมีโอกาสเคยได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่เช่นกันค่ะ แต่ไม่ได้มาในช่วงเทศกาลหรอกนะคะ ถ้าใครมาช่วงเทศกาลอาจจะต้องเจอคนเยอะหน่อย และระวังรถไฟเต็มด้วยค่ะ เอาล่ะ ตามมินมาดูบรรยากาศของจองดงจินกันดีกว่า มินเดินทางมาถึงเช้ามืดประมาณตีสี่กว่าๆ ค่ะ ฟ้ายังมืดอยู่เลย และช่วงนั้น (เดือนพฤศจิกายน) อากาศหนาวมากกกกกก แน่นอนว่าช่วงเดือนธันวาคม ต้องหนาวสุดๆ ไปเลย เนื่องจากอยู่ริมทะเลด้วย ลมจึงหนาวมากกว่าปกติ


ที่หน้าสถานีจะมีป้ายบอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้ค่ะ ซึ่งในแต่ละวัน พระอาทิตย์ก็จะขึ้นในเวลาที่แตกต่างกันออกไป อย่าลืมมาเช็คกันด้วยนะคะ เพราะอากาศหนาวๆ เราคงไม่สามารถไปนั่งเล่น หรือยืนรอที่บริเวณริมทะเลได้แน่ๆ ดูเวลาแล้วไปหลบในห้องของสถานี พอใกล้ๆ ก็ค่อยเดินออกไปค่ะ


ทุกคนก็จะเข้ามาหลบไอหนาวกันที่ห้องนี้แหละค่ะ แต่ถ้ามาช่วงเทศกาลคนจะต้องเยอะมากแน่ๆ อาจจะต้องไปหลบตามร้านรวงข้างนอก ที่พอจะมีไออุ่นให้แทน ในบริเวณนั้นก็จะมีร้านกาแฟ ร้านอาหารแบบเต็นท์ แล้วก็ร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการแล้วค่ะ


ห้องเดียวกับที่ย๊งซอเข้ามาหลบฝนนั่นเอง


แน่นอนว่าภายในห้องต้องมีลายเซ็นของทั้งคู่อยู่ด้วยค่ะ


รวมถึงลายเซ็นของสมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์ด้วย มินเองก็มองไม่ออกว่าของใคร >.<


ชุดฟอร์มของเจ้าหน้าที่รถไฟ


พอฟ้าเริ่มสว่าง ก็เดินออกมาชมทะเลสวยๆ กัน ทะเลที่นี่ไม่อนุญาตให้ลงไปเล่นนะคะ แต่ถึงเล่นได้คงไม่มีใครอุตริเล่นในช่วงหน้าหนาวแบบนี้แน่ๆ มันเย็นยะเยือกจริงๆ คุณเอ๊ยยยยยยยย




แสงอาทิตย์รำไรที่ขอบฟ้า ใกล้จะโผล่ขึ้นมาให้ได้ชมแล้วล่ะค่ะ


บรรยากาศในวันนั้น มีคนมารอชมพระอาทิตย์พอสมควร ส่วนใหญ่ก็มารถไฟขบวนเดียวกันนี่ล่ะ




ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นแล้วววว ดวงอาทิตย์เริ่มจะโผล่พ้นขอบฟ้าให้เราได้เห็นแล้วล่ะค่ะ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เลย คนเกาหลีที่มารอชมก็เริ่มจะมีเสียงฮือฮา ตอนนั้นที่มินไป (สี่ปีก่อน) ไม่มีคนไทยเลย อาจเพราะยังไม่ค่อยมีคนรู้จักที่นี่นัก


เข้าไปดูใกล้ๆ กันดีกว่า บอกเลยว่า มันสวยมากจริงๆ ค่ะ



และแล้วววว พระอาทิตย์ที่ทุกคนต่างรอคอย ก็โผล่พ้นขอบฟ้าจนเต็มดวง เป็นสีแดงกลมสวยงาม ถึงตอนนี้แล้ว อธิษฐานกันได้เลยค่ะ



ใครอยากชมความสวยงามของพระอาทิตย์ยามเช้า ก็ลองมาชมกันได้ที่นี่ ไม่จำเป็นต้องมาวันปีใหม่ก็ได้ เพียงแต่คนเกาหลีเขาจะนิยมมาชมแสงแรกของปี และอธิษฐานสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองในเช้าวันที่ 1 มกราคม เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงในปีนั้นๆ ค่ะ ใครอยากจะลองมาสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีแบบนี้ดูบ้าง ก็มาดูวิธีการไปกันเลยค่ะ


Management : Gangneung-si
Website : www.gntour.go.kr/eng 
Period : 31 December 2015 - 1 January 2016
Place : Jeongdongjin Sandglass Park                     
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน ลงที่สถานีชองนยางนี (Chongnyangni) ออกมาจากสถานีแล้วจะเจอสถานีรถไฟชองนยางนี ชื่อเดียวกันเลย

ภายในอาคารสถานีรถไฟชองนยางนี

จากนั้นให้ขึ้นรถไฟมูกุงฮวา (สถานีนี้ไม่มี KTX) ไปลงที่สถานีจองดงจินได้เลยค่ะ รถจะจอดทั้งหมด 15 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ตั๋วที่นั่งชั้นปกติราคา 20200 วอน ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส ราคา 23200 วอน มินแนะนำให้ตีตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสไปจะดีกว่าค่ะ เพราะเก้าอี้สามารถปรับนอนได้ จะได้ไม่เมื่อยเกินไปนัก เพราะเดินทางค่อนข้างไกล จะได้นอนระหว่างเดินทางได้สะดวกกว่า และหากมีเวลาเที่ยวไม่มาก ต้องการไปเพียงแค่ชมเทศกาลพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้น ก็แนะนำให้ขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย คือเวลา 23:25 เพื่อที่จะไปถึงที่นั่นเวลา 4:28 ก็จะทันได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นประมาณช่วงตีห้าถึงหกโมงเช้าพอดีค่ะ

*ตารางรถไฟจะมีเวลา 07:05, 09:10, 12:10, 14:13, 16:13, 23:25 (เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)

หรืออีกวิธีที่ไปจองดงจินก็คือ นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ไปลงที่สถานี Dong Seoul Bus Terminal จากนั้นขึ้นรถบัสจากที่นี่เพื่อไปยังสถานี Gangneung (강릉) โดยรถจะไปจอดที่ Gangneung Express Bus Terminal แล้วขึ้นรถเมล์สาย 109 ไปลงที่สถานี Jeongdongjin (정동진) รถเมล์จะมาทุกๆ 2 ชั่วโมง จึงอาจจะเสียเวลารอหน่อย ถ้ามาด้วยวิธีนี้ และช่วงเวลาจะไม่ตรงกับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น เว้นแต่ว่าจะมาเที่ยวเพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้น หรือมาเที่ยวในช่วงเดือนอื่นๆ ก็มาวิธีนี้ได้ค่ะ

*รถเมล์สาย 109 จะมาเวลา 07:00, 08:00, 10:00, 12:00, 14:00, 16:00, 18:00, 20:00


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 2




26 ธันวาคม 2557

เทศกาลขึ้นปีใหม่ : New Year Bell Ringing Ceremony


ถึงแม้ว่าในโซลนั้นจะไม่มีสถานที่ให้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในวันปีใหม่เหมือนอย่างตามจังหวัดต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าในคืนวันส่งท้ายปี จะไม่มีสถานที่ไหนให้ไป เพราะสามารถมาร่วมพิธีตีระฆังในคืนข้ามปี New Year Bell Ringing Ceremony ได้ที่หอระฆังโพชินกัค (Bosingak Belfry) ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปี เวลา 24:00 ของคืนวันที่ 31 ธันวาคม และในคืนส่งท้ายปีนั้น จะตีระฆังทั้งหมด 33 ครั้ง เป็นสัญญาณแสดงถึงการขึ้นปีใหม่






พิธีตีระฆังเริ่มต้นปีใหม่นั้น เริ่มมาตั้งแต่ปี 1953 เป็นพิธีเฉลิมฉลองที่มีมาตั้งแต่ราชวงศ์โชซอน นอกจากเป็นสัญลักษณ์ที่บอกถึงวันสิ้นปีแล้วนั้น ยังแสดงให้เห็นถึงความหวังของประชาชนในการขอพรให้ตนเองมีสุขภาพดี มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองในปีต่อไปอีกด้วยค่ะ

และหากเป็นในวันปกติธรรมดา ก็จะมีพิธีตีระฆังเช่นกัน ใครสนใจก็สามารถมาชมกันได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้เฉพาะทุกวันอังคารเท่านั้น โดยจะเริ่มในช่วงเวลา 11:45-12:10 และมีให้ชมตลอดทั้งปี (ยกเว้นวันจันทร์, วันที่ 1 มีนาคม, วันที่ 15 สิงหาคม และในช่วงฤดูหนาว) เข้าชมฟรีเช่นกันค่ะ และพอทหาร (นักแสดง) เสร็จจากพิธีตีระฆังที่นี่แล้ว ก็จะกลับไปยังพระราชวังชางด็อกกุง เพื่อเตรียมแสดงพิธีผลัดเปลี่ยนเวรยามต่อไปค่ะ


Management : Culture, Design & Tourism Headquarters of the Seoul Metropolitan Government
Website : english.seoul.go.kr
Period : 31 December 2015
PlaceBosingak Belfry
Time : 23:30-00:30
Admission : Free
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน ลงสถานีจงกัค (Jonggak) ทางออกที่ 4 ออกมาก็จะเจอหอระฆังโพชินกัคเลยค่ะ

Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
















Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, BBC Thailand


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 2



25 ธันวาคม 2557

กิจกรรมต้อนรับปีใหม่ : แจกบัตรโดยสาร Seoul City Pass Plus!


**หมดเวลาร่วมสนุก ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 5 ท่าน ตามด้านล่างเลยนะคะ ติดต่อรับของรางวัล โดยแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ในการจัดส่งของรางวัล มาที่ seoulcafe2013@gmail.com ค่ะ










สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการทำกิจกรรมไปหลายเดือนเลย กลับมาคราวนี้ มินมาพร้อมกับ "ของขวัญปีใหม่" ต้อนรับปี 2015 ที่กำลังจะมาถึง ให้กับผู้ที่ติดตามโซลคาเฟทุกท่านนะคะ ก็เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าจะประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปเที่ยวเกาหลี นั่นก็คือ บัตรโดยสาร  Seoul City Pass Plus จำนวน 5 ใบ ส่งตรงมาจากเกาหลีเลยล่ะค่ะ



สำหรับรายละเอียดและการใช้งานบัตร อ่านได้ที่นี่ 


กิจกรรมที่มินจะให้ทุกคนได้มาร่วมสนุกกันนั้นก็แค่แสดงความคิดเห็นง่ายๆ เท่านั้นเองค่ะ มินอยากรู้ว่า "คุณรู้จักทวิตเตอร์ หรือบล็อก Seoul Cafe นี้ จากที่ไหน หรือจากใคร และติดตามมานานแค่ไหนแล้ว"

กติการ่วมสนุก : คอมเม้นความคิดเห็นของคุณที่ด้านล่าง พร้อมใส่อีเมล์หรือแอคเคาท์ทวิตไว้สำหรับการติดต่อกลับ 
ระยะเวลาในการร่วมสนุก : 25-31 ธันวาคม 2557
ประกาศผล : สุ่มรายชื่อผู้โชคดี จำนวน 5 ท่าน ประกาศผลทางบล็อกและทวิตเตอร์ ในวันที่ 1 มกราคม 2558 และจะทำการติดต่อกลับไปทางอีเมล์ที่แจ้งไว้ ของรางวัลมินจะจัดส่งให้หลังประกาศผลไม่เกิน 1 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ

หากมีแพลนจะไปเที่ยวเกาหลี ก็อย่าลืมมาร่วมสนุกกันนะคะ จะได้มีบัตรโดยสารไว้ใช้แปะจ่ายค่ารถไฟใต้ดิน และอื่นๆ ในโซลได้อย่างสะดวกสบายกันค่ะ ^^

24 ธันวาคม 2557

10 สถานที่ชมบรรยากาศคริสต์มาสสุดโรแมนติกในเกาหลี


ใกล้เทศกาลคริสต์มาสเข้ามาทุกที คนไทยใจพุทธอย่างเราๆ ก็อดที่จะตื่นเต้นไปกับเขาด้วยไม่ได้ นึกถึงเมืองหนาวๆ ที่มีหิมะตก เมืองทั้งเมืองประดับประดาไปด้วยไฟและต้นคริสต์มาสสวยๆ นี่มันช่างฟินเสียนี่กระไร ยิ่งถ้าได้ไปอยู่ ณ ตรงนั้นด้วยแล้ว สุดจะบรรยาย ที่เกาหลีเอง ก็จะมีการประดับไฟเทศกาลคริสต์มาส พร้อมกับเปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศตลอดทั้งเมือง เพราะชาวเกาหลีที่เป็นคริสเตียนก็มีอยู่มากมาย ซึ่งการประดับไฟและต้นคริสต์มาสเหล่านี้นั้น จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงประมาณเดือนมกราคมในปีถัดไป เพราะฉะนั้นหากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลีในช่วงปลายปีพอดีแล้วนั้น อย่าได้พลาด 10 สถานที่ชมบรรยากาศคริสต์มาสสุดโรแมนติกในเกาหลี ที่มินนำมาฝากกันในวันนี้ค่ะ



1.ต้นคริสต์มาสยักษ์ใจกลางกรุงโซลที่ Seoul Plaza 




ในปีนี้การประดับต้นคริสต์มาสที่บริเวณโซลพลาซ่านั้นในปีนี้ จะมีให้ชมยาวไปจนถึง 8 มกราคม 2017 ต้นคริสต์มาสยักษ์นี้ มีความสูงถึง 20 เมตร ล้อมรอบไปด้วยกวางเรนเดียและเลื่อนซานต้า ไฟจากต้นคริสต์มาสจะส่องสว่างไปรอบๆ สนาม โดยมีฉากกหลังเป็นพระราชวังคยองบกกุง จัดว่าเป็นต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในโซลเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งในช่วงฤดูหนาว สำหรับชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวได้สนุกสนานเพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่ กับบรรยากาศฤดูหนาวในใจกลางกรุงโซล (ปีนี้ลานสเก็ตงดจัด)


How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน หรือ สาย 2 สีเขียว ลงสถานี City Hall ทางออก 5 หรือ 6


2.ย่านช้อปปิ้งทงแดมุน กับไฟประดับสวยๆ รอบบริเวณ




หนึ่งในย่านช้อปปิ้งที่ถูกใจขาช้อป เพราะสามารถช้อปปิ้งได้ทั้งวันทั้งคืน และในช่วงเทศกาลคริสต์มาส บริเวณห้างต่างๆ ในย่านนี้ ก็จะประดับตกแต่งไปด้วยไฟคริสต์มาสสวยๆ เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสต์มาสที่หน้าห้าง Doota หรือไฟประดับต่างๆ ที่หน้าห้าง Lotte Fitin ก็ล้วนแล้วแต่สวยงามจนน่าถ่ายรูปทั้งนั้น ช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ หากแวะเวียนไปช้อปกันแล้ว ก็จะได้ชมไฟประดับสวยๆ ที่นี่ด้วยค่ะ

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานีทงแดมุน (Dongdaemun) ทางออก 8


3.แหล่งช้อปปิ้งมยองดง กับบรรยากาศของคริสต์มาส





ที่นี่คือแหล่งช้อปปิ้งแหล่งใหญ่ของนักท่องเที่ยว รวมถึงชาวไทยเราด้วย เกือบทุกคนจะต้องมาที่นี่เมื่อมาเที่ยวที่เกาหลี ในช่วงปกติก็เรียกได้ว่ามยองดงคึกคักตลอดเวลา เพราะมีกิจกรรมและอีเว้นเกิดขึ้นที่นี่บ่อยๆ และยิ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วยแล้ว มีหรือที่จะพลาด ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสต์มาสยักษ์ หรือการประดับไฟตามร้านค้าต่างๆ ในถนมยองดง ดิสเพลย์ของห้างวัยรุ่นอย่าง LOTTE YOUNG PLAZA รวมถึงที่โบสถ์มยองดง ก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยแสงไฟสวยๆ รับเทศกาลแห่งความสุขและสนุกสนานกันทั้งสิ้น หากมาช้อปที่นี่แล้วล่ะก็ อย่าลืมที่จะถ่ายรูปไฟสวยๆ กลับไปด้วยล่ะ ซึ่งต้นคริสต์มาสใจกลางมยองดงนั้น จะจัดแสดงถึงวันที่ 15 มกราคม 2017 ค่ะ

How to go : ฝั่ง Myeongdong Shopping Street รถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานีมยองดง (Myeongdong) ทางออก 6 
ฝั่งห้าง LOTTE YOUNG PLAZA รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Euljiro 1-ga ทางออก 6


4.ไฟคริสต์มาสที่ห้างสรรพสินค้าชินเซกเย




ที่ห้างสรรพสินค้าชินเซกเยสาขาใหญ่ใกล้มยองดงนี้ จะเปิดไฟคริสต์มาสส่องสว่างหลังพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเวลา 23:00 ของทุกวัน และจะมีให้ชมถึงสิ้นเดือนมกราคม 2017 ด้านหน้าของอาคารจะประดับด้วยไฟสีแดงเหมือนต้นเบอร์รี่ และจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ เพื่อให้เข้ากับธีมคริสต์มาส รวมถึงน้ำพุที่หน้าห้าง ก็จัดแสดงเป็นไฟเกล็ดหิมะให้ความสวยงาม ส่วนดิสเพลย์ของร้านก็จะตกแต่งเป็นธีมคริสต์มาสสวยงามเช่นกัน

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานีเฮฮยอน (Hoehyeon) ทางออก 7


5.ต้นคริสต์มาสยักษ์กลางแจ้ง ที่ห้างสรรพสินค้า Times Square 



ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ลานกลางแจ้งของ Kyungbang Times Square พร้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และการประดับตกแต่งเป็นหมู่บ้านและสวนสวยด้วยไฟคริสต์มาส จัดแสดงจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2017 หากอยากมาช้อปปิ้งหรือเดินเล่นที่ห้างนี้ อย่าลืมลองแวะมาในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ด้วยนะ เพราะที่นี่เขามักจะจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่อยู่บ่อยๆ ด้วยค่ะ

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน ลงสถานียองดึงโพ (Yeongdeungpo) ทางออก 3 หรือ 6


6.บรรยากาศคริสต์มาส ที่คลองชองกเยชอน 





คลองที่อยู่ใจกลางเมืองโซล ที่พัฒนามาจากคลองที่เต็มไปด้วยน้ำเน่าเสียและชุมชนแออัดรายล้อม ได้รับการฟื้นฟูมาจนกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเกาหลีท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในเมือง และที่นี่ก็มักจะจัดกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงมีการตกแต่งประดับประดาตามฤดูกาลและตามเทศกาลอยู่บ่อยๆ ทำให้ดึงดูดใจให้ใครหลายคนอยากจะมาเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ กันที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งในปีนี้นอกจากจะได้เห็นบรรยากาศของคริสต์มาสสว่างไสวไปทั่วแล้ว ยังมีต้นคริสต์มาสยักษ์ให้ชมกันด้วย ใครอยากไปถ่ายรูปสวยๆ รีบเลย เพราะเขาจัดแสดงถึง 1 มกราคม 2017 เท่านั้นนะคะ

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 5 สีม่วง ลงสถานีควางฮวามุน (Gwanghwamun) ทางออก 5 


7.คริสต์มาสหรูหรา ที่ห้างสรรพสินค้า Galleria



ที่นี่จะมีการตกแต่งด้วยธีมคริสต์มาสสวยๆ ทุกปี ในปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ 'This is Christmas! The reinterpretation of Christmas'  โดยที่อาคารจะตกแต่งด้วยไฟ LED สวยงาม และเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ ส่วนบริเวณรอบๆ รวมถึงถนนย่านอัพกูจอง ก็จะตกแต่งไปด้วยแสงไฟประดับสวยงามหรูหรา ด้วยการใช้ไฟทั้งหมดรวมแล้วกว่า 90,000 ดวง

How to go : รถไฟใต้ดินสายพุนดัง (Bundang) สีเหลือง ลงสถานีอัพกูจอง-โรเดอโอ (Apgujeong-Rodeo) ทางออกที่ 2, 7


8.สุดสนุกกับธีมปาร์ค Christmas Festival ที่ Lotte World 



ในปีนี้พบกับธีม 'Christmas Miracle'  เพิ่มความสนุกสนานในวันหยุด ด้วยความหลากหลายของ Christmas Shows และกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสวนสนุกให้อยู่ในบรรยากาศของคริสต์มาส หรือขบวนพาเหรดและซานตาครอส ที่รอให้ความสุขอยู่ รวมถึงในระหว่างเทศกาลคริสต์มาสนี้ ทางสวนสนุกจะปล่อยหิมะปลอมลงมาให้ได้สัมผัสกันใน 2 ช่วงเวลาคือ ที่บริเวณ Adventure Park และในระหว่างที่มีการแสดง Christmas Parade ด้วยล่ะค่ะ สำหรับเทศกาลคริสต์มาส Lotte World Christmas Festival ในปีนี้ จะมีไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2016

How to go :  รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว หรือ สาย 8 สีชมพู ลงสถานีชัมซิล (Jamsil) ทางออก 4 


9.สนุกสนานไปกับ Christmas Party ที่สวนสนุก Seoul Land



เทศกาลปาร์ตี้รับคริสต์มาสที่สวนสนุกโซลแลนด์ มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน - 25 ธันวาคม 2016 ที่นี่จะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังเรื่อง Alice in Wonderland ที่มีฉากหลังเป็นสวนกุหลาบขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศคริสต์มาสที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นแสง สี เสียง และความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมสวนสนุกแห่งนี้ไว้ และในช่วงฤดูหนาว ยังสามารถสนุกสนานไปกับเทศกาลหิมะและลากเลื่อน ที่มีไว้ให้ได้สนุกกันอีกด้วย

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานี Seoul Grand Park ทางออก 2 


10.ชมบรรยากาศของ Christmas Fantasy ที่สวนสนุก Everland สถานที่ชมไฟคริสต์มาสที่สวยและโรแมนติกที่สุด




ที่สุดของบรรยากาศคริสต์มาส ที่จัดได้ว่าสวยงามและอลังการที่สุดในเกาหลี Christmas Fantasy ที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน - 31 ธันวาคม 2016 ด้วยระยะทางกว่า 500 เมตร จากประตูทางเข้า ที่สุดแสนจะโรแมนติกจากแสงจากไฟ และอุโมงค์ จากไฟ LED ถึง 120,000 ดวง รวมถึง Magic Tree สัญลักษณ์ของสวนสนุก ที่มีความสูง 13 เมตร และเส้นรอบวง 5 เมตร ที่ตั้งเด่นตระหง่านสวยงามและชวนให้หลงใหล นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรด White Christmas ที่มีหิมะเทียมและเวทมนตร์ในท้องฟ้าเป็นส่วนผสมที่สวยงามของแสงเลเซอร์และดอกไม้ไฟ ให้ได้ชมกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังพ่วงด้วย เทศกาล Romantic Illumination Festival ที่จะประดับไฟ LED ต่างๆ ให้ชมกันต่อไปอีกยาวๆ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2017 เลยล่ะค่ะ

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานีคังนัม (Gangnam) ทางออกที่ 10 ขึ้นรถบัสสาย 5002 รถจะจอดที่สวนสนุกเลย

หรืออีกเส้นทาง รถไฟใต้ดินสายพุนดัง (Bundang) สีเหลือง ลงสถานีกีฮึง (Giheung) เดินไปยังทางออกที่ 3 เพื่อขึ้นรถไฟฟ้า LRT สาย Yongin Everline ไปลงยังสถานี Jeondae-Everland แล้วนั่ง shuttle bus ไปยังสวนสนุก


ก็ครบแล้วนะคะสำหรับสถานที่ที่สามารถไปชมบรรยากาศคริสต์มาสสุดแสนโรแมนติกกันได้ สำหรับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างคริสต์มาสแล้วนั้น นอกจากจะอิ่มเอมไปกับบรรยากาศที่รายล้อมแล้ว ยังได้โลเคชั่นเก๋ๆ ในการถ่ายรูปเก็บความประทับใจของเราอีกด้วยค่ะ


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.co.kr, visitseoul.net, seoul.go.kr, seoulnavi.com