28 เมษายน 2562

พระราชวังชางคยองกุง จะเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืน เริ่มตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป


ปกติแล้วทุกพระราชวังในโซลจะเปิดให้เราเข้าชมเป็นเวลา และโดยมากก็จะเปิดให้ชมถึงแค่ช่วงเย็น หากจะมีเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืน ก็มักจะเป็นอีเว้นท์พิเศษต่างๆ ตามที่มินเพิ่งลงไปนั่นเองค่ะ แต่สำหรับพระราชวังชางคยองกุง (Changgyeonggung) นั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนเวลาเข้าชมใหม่ ให้เข้าชมตอนกลางคืนได้ด้วยค่ะ ที่สำคัญเริ่มตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป


พระราชวังชางคยองกุง ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ติดกันกับ พระราชวังชางด็อกกุง เดิมถูกสร้างขึ้นเป็นพระราชวังซูกังกุง โดยกษัตริย์องค์ที่ 4 ของราชวงศ์โชซอน ก็คือกษัตริย์เซจงได้สร้างไว้ให้สำหรับพระบิดาของเขา นั่นก็คือกษัตริย์แทจงนั่นเอง และพระราชวังนี้ก็ถูกใช้เป็นที่พักอาศัย สำหรับพระราชินีและนางสนม ก่อนที่ในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ซองจง พระราชวังได้รับการปรับปรุงบูรณะใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นพระราชวังชางคยองกุงในที่สุดค่ะ


แม้พระราชวังนี้ จะไม่ค่อยได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก เพราะมีขนาดเล็กกว่าพระราชวังคยองบกกุง และพระราชวังชางด็อกกุง พระราชวังยอดนิยมทั้งสองแห่ง แต่ก็นับว่าเป็นอีกพระราชวังที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืนด้วยแล้วนั้น ก็เรียกได้ว่า น่าจะเป็นการเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่พระราชวังนี้กันบ้างได้ไม่มากก็น้อยค่ะ


นอกจากนี้ใครที่จะไปชมพระราชวังตอนกลางคืน อย่าพลาดที่จะเช่าโคมชองซาโชรง (청사 초롱) โคมไฟเกาหลีแบบดั้งเดิม ที่มีสีน้ำเงินและแดง และใส่เทียนไว้ข้างในเพื่อแสงสว่าง กันด้วยนะคะ โดยจะมีให้เช่าฟรี วันละ 200 คนแรกของวันเท่านั้น เริ่มเปิดให้เช่าตั้งแต่เวลา 17:30 เป็นต้นไป ซึ่งในอดีตนั้น โคมชองซาโชรงจะถูกนำมาใช้แขวนในพิธีแต่งงาน แต่ในปัจจุบันได้มีการนำโคมนี้มาใช้อย่างกว้างขวางในกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ของเกาหลีใต้ค่ะ




นอกจากนี้ในช่วงเวลากลางคืนที่เปิดให้เข้าชม ยังมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมาย เช่น การแสดงดนตรีดั้งเดิม ที่บริเวณ Tongmyeongjeon ซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นของกษัตริย์และสถานที่จัดงานเลี้ยง รวมถึงการแสดง King Jeongjo และ Changgyeonggung Palace ด้วยค่ะ


Address : 185 Changgyeonggung-ro, Jongno-gu, Seoul
Tel : 02-762-4868
Websitecgg.cha.go.kr
Open from : 9:00-21:00 (เข้าได้ถึง 20:00) 
Closed : Mondays
Admission : ผู้ใหญ่ 1000 วอน / เด็กอายุ 7-18 ปี 500 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี, ผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่สวมชุดฮันบก เข้าชมฟรี
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม  ลงสถานีอันกุก (Anguk) ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงไปตามถนน  เลยพระราชวังชางด็อกกุงไป แต่จะเดินไกลพอสมควร แนะนำอีกวิธีสำหรับคนขี้เกียจเดิน ขึ้นรถเมล์สาย 100, 102, 104, 151, 171, 272, 301, 601 และ 710 ลงที่ป้าย Changyeonggung Palace. Seoul University Hospital (창경궁.서울대학교병원) ก็จะถึงประตูทางเข้าวังเลยค่ะ


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, ilyo.co.kr, news.sbs.co.kr

27 เมษายน 2562

เข้าชม Moonlight Tour ที่พระราชวังชางด็อกกุง


อีกหนึ่งพระราชวังที่มีการเปิดให้เข้าชมในตอนกลางคืน พร้อมด้วย Moonlight Tour ทัวร์ชมวังในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ก็คือ พระราชวังชางด็อกกุง วังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อให้เห็นถึงความงดงามและยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ค่ะ


บริการ Moonlight Tour ที่พระราชวังชางด็อกกุง จะมีให้บริการเฉพาะในคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ 4-28 เมษายน 2019 เวลา 20:00-22:00 และ 9 พฤษภาคม - 9 มิถุนายน 2019 จะมีสองเวลาคือ 19:00-21:00 / 20:00-22:00 ใช้เวลาในการทัวร์รวม 2 ชั่วโมงค่ะ 


ส่วนโปรแกรมทัวร์จะมีดังนี้ค่ะ
- ทัวร์ชมพระราชวังชางด็อกกุงตอนกลางคืน : มีบริการไกด์ (ใช้เวลา 90 นาที)
- ชมการแสดงศิลปะดั้งเดิม : การแสดงเงา, ศิลปะการชงชาเกาหลีและชิมขนมที่ Yeonggyeongdang Hall (ใช้เวลา 30 นาที)

** เส้นทางทัวร์ : Donhwamun Gate (ทางเข้าพระราชวัง) → Geumcheongyo Bridge และ Jinseonmun Gate → Injeongjeon Pavilion → Nakseonjae Hall → Sangryangjeong Pavilion (ชมการแสดงดนตรี Daegeum) → Buyongji Pond → Bullomun Gate → Aeryeonjeong Pavilion → Yeongyeongdang Hall (การแสดงศิลปะดั้งเดิม & ช่วงเวลาจิบน้ำชา) → Huwon Secret Garden Forest Trail → Donhwamun Gate (เสร็จสิ้นทัวร์)

ซึ่งในแต่ละวันจะให้บริการสำหรับชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวแตกต่างกัน ตามนี้ค่ะ
วันพฤหัสบดี - วันเสาร์ เปิดให้บริการสำหรับคนเกาหลี
วันอาทิตย์ เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ



สำหรับใครที่สนใจเข้าชม สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ >> bit.ly/2DDaHDe  โดยสมัครสมาชิกก่อน แล้วถึงทำรายการจองได้ (มีภาษาอังกฤษ) ราคาค่าเข้าชมคนละ 30000 วอน สามารถจองได้สูงสุด 2 ใบต่อคน โดยจะเปิดให้เข้าชมได้เพียงรอบละ 100 คนเท่านั้นค่ะ หรือสามารถจองได้อีกช่องทางคือทางโทรศัพท์ เบอร์ 1566-1369 (โดยต้องโทรเมื่ออยู่ในประเทศเกาหลี) วิธีโทรจองตามภาพด้านล่างเลยค่ะ


คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ตั๋วเข้าชมจะออกตั๋วได้ในวันทัวร์ตามที่เราจองไว้ หลังจากทำการยืนยันการจองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราจะได้หมายเลขการจองมาไว้ก่อน พร้อมกับโปรแกรมทัวร์ แล้วถึงวันทัวร์จึงนำหมายเลขการจองไปออกตั๋วที่จุดลงทะเบียนค่ะ

** จำเป็นต้องมีการตรวจพาสสปอตก่อนเข้าชม เพราะฉะนั้นจะต้องพกพาสสปอตไปด้วยนะคะ  หากถึงวันทัวร์แล้วลืมนำพาสสปอตมา ทัวร์ที่จองไว้จะถูกยกเลิกอัตโนมัติ และไม่สามารถขอคืนเงินได้
** เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมทัวร์ เพื่อเป็นการรักษามารยาท และเพื่อความปลอดภัย
** เด็กอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป สามารถเข้าชมได้ปกติ และจ่ายค่าตั๋วในราคาเต็ม


ข้อปฏิบัติระหว่างการทัวร์
- ลงทะเบียน : เริ่มตั้งแต่ก่อนถึงเวลาทัวร์ 40 นาที
- จุดลงทะเบียน : โต๊ะลงทะเบียนอยู่ด้านหน้าบูธขายตั๋วเข้าชมพระราชวัง
- สิ่งที่ต้องนำมา : พาสสปอตของผู้ที่ทำการจองตั๋วล่วงหน้า พร้อมหมายเลขการจอง
- สิ่งที่ต้องปฏิบัติระหว่างทัวร์ : สามารถถ่ายรูปได้ปกติ แต่ห้ามใช้แฟลชและขาตั้งกล้อง
- ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามา และห้ามรับประทานด้วย
- ผู้เข้าชมที่มีการดื่มแอลกอฮอลล์มาก่อน จนดูไร้สติสัมปชัญญะ จะไม่สามารถเข้าชมทัวร์พระราชวังได้
- ผู้เข้าชมที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือไม่สุภาพต่อผู้อื่นในระหว่างทัวร์ จะถูกเชิญให้ออกจากทัวร์และไม่สามารถขอคืนเงินได้

เงื่อนไขการขอยกเลิก
- หากต้องการยกเลิกการจอง (ทางเว็บไซต์) สามารถยกเลิกได้ถึงเวลา 11:00 ของวันเสาร์ก่อนวันทัวร์ 1 วัน
- หากต้องการยกเลิกการจอง (ทางโทรศัพท์) สามารถยกเลิกได้ถึงเวลา 17:00 ของวันศุกร์ก่อนวันทัวร์ 2 วัน
**ทำรายการจองทางไหน ให้ยกเลิกทางนั้นนะคะ

กรณีที่มีฝนตก
- หากมีการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 5 mm ในช่วงเวลา 11:00 ของวันทัวร์ ทัวร์จะถูกยกเลิก
- ในกรณีที่ฝนตก การยกเลิกทัวร์จะประกาศให้ทราบ และสามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน
** การยกเลิกทัวร์จะทำการคืนเงินเท่านั้น ไม่สามารถขอเลื่อนหรือเปลี่ยนเป็นวันอื่นได้


Website : www.chf.or.kr
Period : ช่วงที่ 1 : 4-28 April 2019 / ช่วงที่ 2 : 9 May - 9 June 2019 (Every Thursday - Sunday) **ชาวต่างชาติเข้าชมได้เฉพาะวันอาทิตย์
Time : ช่วงที่ 1 : 20:00-22:00 / ช่วงที่ 2 19:00-21:00 และ 20:00-22:00 
Admission : 30000 วอน
Reservation : ticket.auction.co.kr (ต้องสมัครสมาชิกเว็บไซต์ก่อน) 
How to go : ดูเส้นทางการไปพระราชวัง ได้ที่นี่


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ +82-70-4422-3388 (Korean, English)

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitseoul.net

22 เมษายน 2562

พระราชวังคยองบกกุง เปิดให้เข้าชมตอนกลางคืน


พระราชวังคยองบกกุง พระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโซล นอกจากจะเที่ยวชมความอลังการของพระราชวังในตอนกลางวันได้แล้วนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมความสวยงามของพระราชวังในตอนกลางคืนได้อีกด้วย เพราะทางการเกาหลีเตรียมจะเปิดให้เข้าชมตอนกลางคืนได้ตลอดฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วงเลยล่ะค่ะ


กิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 26 เมษายน - 31 ตุลาคม 2019 (ยกเว้นเดือนสิงหาคม) โดยจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือน และจำกัดจำนวนคนเพียงคืนละ 500 คนเท่านั้น และไม่เพียงแต่จะได้ชมความสวยงามของพระราชวังยามค่ำคืนเท่านั้น ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างด้านใน และมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองให้ชมอีกด้วยค่ะ



สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถซื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังแบบ Night Time ได้ที่บูธขายตั๋วหน้าพระราชวังเลยค่ะ  ซึ่งราคาค่าเข้าช่วงกลางคืนนั้น จะราคา 3000 วอน (ไม่รวมเข้าพระราชวังตอนกลางวัน) รวมถึงทุกวันพุธสุดท้ายของเดือน (Culture Day) ที่เข้าชมทุกพระราชวังฟรี จะเข้าฟรีแค่เฉพาะตอนกลางวันเท่านั้นค่ะ


Period : 26 April - 31 October 2019
Place : Gyeongbokgung Palace
Time : - 26 April - 5 May 19:00-21:30
- 19 May - 1 June 19:00-21:30
- 16-29 June 19:30-22:00
- 21 July - 3 August 19:30-22:00
- 12-15 September (Chuseok Holiday) 19:00-21:30
- 22 September - 5 October 19:00-21:30
- 20-31 October 19:00-21:30
*Last Admission 1 ชั่วโมงก่อนปิด
*Closed : Tuesdays
Admission : 3000 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม  ลงสถานีคยองบกกุง (Gyeongbokgung) ทางออกที่ 5

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr

21 เมษายน 2562

เทศกาลดอกไม้บาน (เดือนเมษายน) : Taean Narcissus Festival



อีกหนึ่งเทศกาลชมดอกไม้ในช่วงนี้ที่สวนแทอัน นอกไปจากดอกทิวลิปแล้ว ก็ยังมีเทศกาลชมดอกนาร์ซีซัส (แดฟโฟดิล) ด้วยล่ะค่ะ เทศกาลนี้คือ Taean Narcissus Festival (수선화축제) ซึ่งจะจัดแสดงควบคู่ไปกับดอกทิวลิปเลย



เทศกาลจัดขึ้นที่บริเวณสวน Korea Flower Park เช่นเดียวกันค่ะ ที่เดียวกับเทศกาลดอกทิวลิป แต่แบ่งโซนกัน ซึ่งหากใครไปชมเทศกาลทิวลิปแล้ว สามารถแวะชมเทศกาลดอกนาร์ซีซัสได้ด้วย แถมยังรอค่ำเพื่อชมเทศกาลไลท์ติ้งได้อีก ไปทีเดียวคุ้มเลยค่ะ แต่ว่าสวนดอกนาร์ซีซัสจะเสียค่าเข้าแยกกันต่างหากนะคะ







ซึ่งดอกนาร์ซีซัสที่จัดแสดงในเทศกาลนั้น มีกว่า 80 สายพันธุ์เลยล่ะ ใครชื่นชอบดอกไม้ ก็น่าลองไปเที่ยวกันดู รับรองได้รูปสวยๆ กลับมาเพียบแน่นอน







ที่สำคัญอย่าเพิ่งรีบกลับ รอค่ำเพื่อชมเทศกาลไลท์ติ้งด้วยเลย เพราะจะมีการเปิดไฟประดับตามดอกไม้ต่างๆ ให้ชมกันด้วย สวยไปอีกแบบ แต่ว่าอาจจะต้องดูเวลาหน่อยนะคะ เพราะเมืองแทอันอยู่ไกลพอสมควร อาจจะหารถกลับลำบากหน่อยค่ะ





Management : Taean Flower Festival Promotion Committee / Nature Farming Cooperatives, Adaram Agricultural Corporation, Taean Lily Export Agricultural Association Corporation
Website : kp575.bver.co.kr
Period : 5 April - 1 May 2019
Place : Korea Flower Park
Time : 9:00-23:00
Admission : ผู้ใหญ่ 9000 วอน, เด็ก 7000 วอน, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 7000 วอน
How to go : ขึ้นรถบัสสาย Honam Line จาก Central City Terminal (รถไฟใต้ดินสถานี Express Bus Terminal) ไปลงยัง Taeun Bus Terminal ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 10 นาที ค่ารถชั้นประหยัด เที่ยวละ 9800 วอน จากนั้นขึ้นรถเมล์จากป้ายรถเมล์ของสถานี สาย 1001 (꽃지) ไปลงที่ป้าย 꽃지해수욕장 (โกตจีแฮซูยกจาง) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที *รถเมล์จะมีตั้งแต่เวลา 8:00-17:40 จากนั้นเดินต่อไปยังสวนประมาณ 400 เมตร


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, kp575.bver.co.kr, koreaflowerpark.co

13 เมษายน 2562

เทศกาลดอกไม้บาน (เดือนเมษายน) : Taean Tulip Festival


นอกไปจากเทศกาลดอกทิวลิปที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีแล้วนั้น ในเกาหลียังมีเทศกาลดอกทิวลิปสุดยิ่งใหญ่อีกหนึ่งที่ค่ะ นั่นก็คือเทศกาล Taean Tulip Festival (태안 세계튤립축제) ที่เมืองแทอัน จ.ชุงชองนัมโดค่ะ



เทศกาลดอกทิวลิปเมืองแทอันนั้น จัดได้ว่าเป็นเทศกาลดอกทิวลิปที่ใหญ่ระดับโลก ซึ่งในปี 2015 และ 2017 ก็ได้รับรางวัล 1 ใน 5 เทศกาลดอกทิวลิปที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวที่สุดในโลก จาก World Tulip Summit (WTS) ด้วยล่ะค่ะ






งานนี้จัดขึ้นที่บริเวณสวน Korea Flower Park ซึ่งที่สวนแห่งนี้ไม่ได้จัดแสดงแค่ดอกทิวลิปเท่านั้นนะคะ แต่ตลอดทั้งปียังมีงานแสดงดอกไม้ชนิดอื่นๆ สลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอีกด้วย ดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ : Tulip Festival, Narcissus Festival
ฤดูร้อน : Allium Festival
ฤดูใบไม้ร่วง : Autumn Flowers Festival
ตลอดทั้งปี : Lighting Festival

และในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ที่สวนแห่งนี้จะจัดแสดงดอกทิวลิปที่สวยงามและมีชีวิตชีวาบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ และแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ซึ่งได้รับการตกแต่งในรูปแบบที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวลิปหลากสีสันและธีมที่สร้างสรรค์ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงยังมีกิจกรรมต่างๆ และการแสดง ดนตรี ให้ได้ชมกันในงานอีกด้วย และในทุกๆ คืนตลอดเทศกาล (รวมถึงตลอดทั้งปี) จะมีไฟ LED ติดประดับตามดอกไม้ให้ได้ชมกันด้วยค่ะ






แม้ว่าสถานที่จัดงานจะอยู่ไกลจากโซลสักหน่อย แต่หากว่าพอจะมีเวลาและอยากชมความสวยงามอลังการของหนึ่งในเทศกาลดอกทิวลิปที่ดีที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในเกาหลีแล้วนั้น ก็คงต้องแนะนำแรงๆ ว่าคงต้องหาเวลาไปเที่ยวกันให้ได้สักครั้งแล้วล่ะค่ะ



Management : Taean Flower Festival Promotion Committee / Nature Farming Cooperatives, Adaram Agricultural Corporation, Taean Lily Export Agricultural Association Corporation
Period : 13 April - 12 May 2019
Place : Korea Flower Park
Time : 9:00-23:00
Admission : ผู้ใหญ่ 12000 วอน, เด็ก 9000 วอน, ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 10000 วอน
How to go : ขึ้นรถบัสสาย Honam Line จาก Central City Terminal (รถไฟใต้ดินสถานี Express Bus Terminal) ไปลงยัง Taeun Bus Terminal ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 10 นาที ค่ารถชั้นประหยัด เที่ยวละ 9800 วอน จากนั้นขึ้นรถเมล์จากป้ายรถเมล์ของสถานี สาย 1001 (꽃지) ไปลงที่ป้าย 꽃지해수욕장 (โกตจีแฮซูยกจาง) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที *รถเมล์จะมีตั้งแต่เวลา 8:00-17:40 จากนั้นเดินต่อไปยังสวนประมาณ 400 เมตร


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, kp575.bver.co.kr, koreaflowerpark.co, koreatriptips.com 

8 เมษายน 2562

ตารางดอกไม้ & ดอกพ็อตโกต (ซากุระ) บาน ปี 2019


ในปีนี้ดอกไม้ที่เกาหลีบานไวกว่าทุกปีที่ผ่านมาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกพ็อตโกต ดอกแคนารี หรือดอกจินดัลแร ทำให้ตารางพยากรณ์ออกมาไวกว่าทุกครั้ง มินก็เลยอัพเดตลงบล็อกไม่ทันเพราะค่อนข้างจะยุ่งๆ ตอนนี้ดอกพ็อตโกตหรือซากุระเกาหลี ก็เริ่มบานเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เทศกาลต่างๆ ก็เริ่มแล้วเช่นกัน แต่มินก็จะขอมาอัพเดต ตารางดอกไม้บานของปี 2019 ย้อนหลังไว้สักหน่อย เพื่อที่ว่าปีหน้าจะได้มีข้อมูลไว้เปรียบเทียบกันค่ะ



ดอกพ็อตโกต หรือซากุระเกาหลีนั้น จะเริ่มบานจากทางใต้ไล่ขึ้นไปทางเหนือ ในปีนี้จะบานไวกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 4-7 วัน เริ่มบานตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมีนาคมเลยล่ะค่ะ และบานไล่ไปเรื่อยๆ จนทั่วประเทศราวๆ ต้นเดือนเมษายน ซึ่งในโซลปีนี้คาดว่าช่วงเวลาที่พีคที่สุดน่าจะเป็นก่อนถึงสงกรานต์ค่ะ ปีนี้ใครที่จองตั๋วไว้ช่วงวันหยุดสงกรานต์ อาจจะต้องลุ้นกันหน่อยนะคะ ว่าดอกพ็อตโกตจะยังอยู่ถึงมั้ย เพราะถ้าดอกไม้บานไว ก็แปลว่ามีแนวโน้มจะร่วงไวกว่าทุกทีด้วยค่ะ


ดอกพ็อตโกต จะเริ่มบานที่เกาะเชจูในวันที่ 21 มีนาคม และเริ่มบานไล่ไปยังเมืองปูซาน ควางจู ชอนจู แทกู และทางภาคใต้ทั้งหมดประมาณช่วงวันที่ 22-31 มีนาคม ส่วนทางภาคกลางและตะวันออกอย่างเมือง แทจอน ชองจู คังนึง รวมถึงทางเหนืออย่าง อินชอน และชุนชอน นั้น จะเริ่มบานราวๆ วันที่ 31 มีนาคม - 7 เมษายน สุดท้ายกับเมืองโซลจะเริ่มบานในวันที่ 3 เมษายนค่ะ


สำหรับเทศกาลชมดอกซากุระนั้น ก็มีหลายเทศกาลด้วยกันค่ะ ที่โด่งดังและนิยมมากที่สุดก็คือ เทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 1-10 เมษายน ที่เมืองชางวอน จ.คยองซังนัมโด อ่านรายละเอียด

หรือเทศกาลที่นิยมมากในโซลก็เช่น เทศกาล Yeongdeungpo Yeouido Spring Flower Festival ที่บริเวณสวนสาธารณะยออึยโด ปีนี้เทศกาลจะมีวันที่ 5-11 เมษายน 2019 ค่ะ อ่านรายละเอียด


นอกจากนี้แล้วในช่วงเทศกาลยังมีการเปิดไฟประดับที่ต้นซากุระให้ชมตอนกลางคืนอีกด้วย ได้บรรยากาศสวยและโรแมนติกไปอีกแบบ มินได้รวบรวมสถานที่ต่างๆ ไว้ให้แล้ว คลิกอ่านหัวข้อ '6 จุดชมดอกซากุระเกาหลีตอนกลางคืน' 



ไหนๆ แล้วก็ขอพ่วงด้วยตารางของดอกไม้อีก 2 ชนิดอย่างดอกแคนารี หรือ Forsythia และดอกจินดัลแร หรือ Azalea ด้วยแล้วกันค่ะ



อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าปีนี้ดอกไม้บานค่อนข้างไว ทำให้ดอกไม้สองชนิดนี้ที่จะบานก่อนดอกพ็อตโกตนั้น จะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งไวกว่าปีที่แล้วถึง 1-4 วันเลยล่ะค่ะ



ดอกแคนารีจะเริ่มบานในวันที่ 11 มีนาคมที่เกาะเชจู ก่อนจะแพร่กระจายไปยังปูซาน ยอซู ควางจู แทกูและภาคใต้อื่นๆ ระหว่างวันที่ 12-23 มีนาคม ไล่จนมาถึงโซล อินชอน แทจอน และภาคกลางอื่นๆ ประมาณวันที่ 22-31 มีนาคม

ส่วนดอกจินดัลแร ดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง คาดว่าจะเริ่มบานที่เกาะเชจูในวันที่ 15 มีนาคม และแพร่กระจายไปทั่วภาคใต้ระหว่างวันที่ 22-27 มีนาคม และไปถึงภาคกลางช่วงวันที่ 24 มีนาคม - 2 เมษายนค่ะ


สำหรับเทศกาลชมดอกแคนารีที่โด่งดัง ก็จะมี เทศกาล Gurye Sansuyu Festival ที่เมืองกูเร จ.ชลลานัมโด เทศกาลปีนี้จะมี วันที่ 16-24 มีนาคม 2019 อ่านรายละเอียด

และอีกที่ที่อยู่ในโซล ก็คือ เทศกาล Eungbongsan Forsythia Festival ที่เขาอึงบงซาน เป็นอีกเทศกาลที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เทศกาลจะมี วันที่ 29-31 มีนาคม 2019 ค่ะ อ่านรายละเอียด



ปิดท้ายกันที่เทศกาลชมดอกจินดัลแรกันบ้าง เทศกาลที่โด่งดังและเป็นที่นิยมก็คือ เทศกาล Hapcheon Hwangmaesan Royal Azalea Festival ที่ Hwangmaesan County Park เมืองฮาปชอน จ.คยองซังนัมโด ค่ะ ในปีนี้เทศกาลจะมี วันที่ 27 เมษายน - 12 พฤษภาคม 2019  อ่านรายละเอียด 


สำหรับใครที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ที่เกาหลีตอนนี้ ก็อย่าลืมตามไปชมดอกไม้ตามเทศกาลต่างๆ กันนะคะ รับรองว่าสวยจนต้องถ่ายรูปกลับมารัวๆ เลยล่ะ



*หมายเหตุ ตารางพยากรณ์ดอกไม้บานอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศต่างๆ รวมถึงความแตกต่างของอุณหภูมิและระดับน้ำฝน


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, lafent.com, bbkk.kr, wlwlwltn.tistory.com