29 กันยายน 2562

รีวิวเกาหลี พาชมพระราชวังชางคยองกุง (Changgyeonggung) ยามค่ำคืน


ในช่วงปลายฤดูร้อนก่อนที่จะย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงนั้น บรรยากาศต่างๆ ในเกาหลีอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรน่าเที่ยวหรือน่าสนใจนัก เพราะไม่ได้มีสีสีนของดอกไม้หรือใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ที่คุ้นเคย แต่ในความจริงแล้วนั้น ใช่ว่าในช่วงนี้จะไม่มีสถานที่ที่น่าสนใจนะคะ เพราะหากว่าใครเคยไปเที่ยวพระราชวังในโซลแล้วนั้น ก็ต้องบอกว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชมวังยามค่ำคืนกันบ้างค่ะ



นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่พระราชวังชางคยองกุง (Changgyeonggung) ได้ขยายเวลาในการเปิดให้เข้าชมจากปกติเปิดถึงแค่ 18:00 แต่นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป จะเปิดจนถึงเวลา 21:00 เลยล่ะค่ะ มินเองก็มีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลีเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เลยถือโอกาสแวะเที่ยวชมวังตอนกลางคืนดูบ้างค่ะ ก่อนอื่นก็ซื้อตั๋วเข้าชมวังตามปกติก่อน ค่าเข้า 1000 วอนเท่านั้นเอง


วันที่ไปด้านหน้ามีปิดซ่อมอยู่นิดนึง เลยไม่ได้เก็บภาพด้านหน้าของวังมาฝาก ไว้ครั้งหน้าจะกลับไปอีกสักรอบค่ะ วังชางคยองกุงเป็นวังที่มีขนาดเล็กๆ จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากันสักเท่าไหร่ ทางการจึงขยายเวลาให้เข้าชมความสวยงามของพระราชวังตอนกลางคืนบ้าง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว


แม้ว่าวังจะมีขนาดเล็กและไม่ได้เป็นพระราชวังหลักอย่างคยองบกกุงหรือชางด็อกกุง แต่การที่ได้เข้ามาชมตอนกลางคืนก็สวยงามน่าเที่ยวไปอีกแบบนะคะ


ประวัติคร่าวๆ ของพระราชวังชางคยองกุงก็คือ ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยกษัตริย์เซจง เดิมพระราชวังแห่งนี้มีชื่อว่า 'Suganggung' ได้สร้างขึ้นเพื่อกษัตริย์แทจง พระราชบิดา และสร้างมาไว้สำหรับเป็นที่พักของพระราชินีและนางสนม ก่อนจะถูกรีโนเวทในช่วงรัชสมัยกษัตริย์ซองจง พระราชวังได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็นพระราชวัง Changgyeonggung ก่อนที่จะกลายเป็นสวนสาธารณะที่มีสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ในช่วงการปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่น บริเวณพระราชวังคงอยู่ในลักษณะนี้จนถึงปี 1983 ก่อนจะได้รับการบูรณะให้กลับมาเป็นพระราชวังอย่างเก่าเสร็จสมบูรณ์ให้ได้ชมกันในปัจจุบัน




และถ้าใครมาชมพระราชวังชางคยองกุงตอนกลางคืนแล้วนั้น เขาจะมีโคมชองซาโชรง (청사 초롱) โคมไฟเกาหลีแบบดั้งเดิม ให้หยิบไปใช้ฟรีด้วยนะคะ แต่มีจำกัดแค่วันละ 200 คนแรกของวันเท่านั้น เริ่มแจกตั้งแต่ 17:30 เป็นต้นไป ตอนมินไปวังใกล้ปิดแล้ว เลยทำให้เหลือโคมไม่มากนัก และก็เหลือแต่แบบพังๆ นั่นคือไฟไม่ติดค่ะ ร้องห้ายยยย แต่ก็หยิบมานะ เอามาถือถ่ายรูปเก๋ๆ แทน >.<


พระราชวังมีขนาดเล็กๆ จึงทำให้ใช้เวลาเดินเที่ยวเดินชมไม่นานค่ะ เหมาะกับคนที่เที่ยวมาทั้งวันจนฟ้าใกล้มืดแล้วไม่รู้จะไปเที่ยวไหนต่อ ก็แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่นี่ดู อาจจะไม่ได้โอ่อ่าสวยงามแบบพระราชวังใหญ่ๆ แต่เทียบกับค่าเข้าไม่ถึงคนละ 30 บาท แวะมาเดินเล่นถ่ายรูปตอนกลางคืนก็ถือว่าไม่เสียหายนะคะ




ไปเที่ยวเกาหลีครั้งหน้า ลองหาเวลาแวะไปเที่ยวชมพระราชวังชางคยองกุงในตอนกลางคืนกันดูค่ะ หรือจะชวนคนรู้ใจไปเดินเล่นสวีตหวานกันก็ได้นะ บรรยากาศตอนกลางคืนดีทีเดียว อ้อ...หากเข้าชมพระราชวังในเวลากลางคืนแบบนี้สวมชุดฮันบกเข้าฟรีเหมือนตอนกลางวันด้วยค่ะ



Open from : 9:00-21:00 (เข้าได้ถึง 20:00)
Closed : Mondays
Admission : ผู้ใหญ่ 1000 วอน / เด็กอายุ 7-18 ปี 500 วอน
*เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี, ผู้ใหญ่อายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่สวมชุดฮันบก เข้าชมฟรี / วันพุธสุดท้ายของทุกเดือนเข้าฟรี
How to go : เดินทางด้วยรถเมล์สะดวกสุดค่ะ ขึ้นรถเมล์สาย 100, 102, 104, 151, 171, 272, 301, 601 และ 710 ลงที่ป้าย Changyeonggung Palace. Seoul University Hospital (창경궁.서울대학교병원) ก็จะถึงประตูทางเข้าวังเลยค่ะ

25 กันยายน 2562

6 จุดที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ไฟโซล


ในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีเทศกาลดอกไม้ไฟนานาชาติจัดขึ้นในโซล เป็นหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี และจะมีชาวเกาหลีมารอชมกันอย่างล้นหลามรวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ด้วย ซึ่งหากว่าใครเคยมีประสบการณ์ไปชมมาแล้วนั้น จะรู้เลยว่าผู้คนมากมายมหาศาลขนาดไหน และเบียดเสียดสุดๆ ในช่วงเวลาหลังงานเลิกที่ต้องแย่งกันขึ้นรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์เพื่อเดินทางกลับ มินก็เลยไปเสาะหามาว่า ถ้าเราอยากไปชมดอกไม้ไฟสวยๆ แต่ไม่อยากไปเบียดกับผู้คนนั้น เราจะสามารถเดินทางไปชมที่จุดชมวิวตรงไหนได้บ้าง วันนี้มินจึงรวบรวมมาให้แล้วค่ะ กับ '6 จุดที่ดีที่สุดในการชมดอกไม้ไฟโซล'



1.Sayuksin Park (사육신공원) - สวนสาธารณะซายุกชิน เป็นสวนสาธารณะที่อยู่บนเขา ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำฮันและสถานีนอรยางจิน ทำให้ตรงจุดนี้จะมองเห็นวิวแม่น้ำฮันชัดเจน และเห็นตึก 63 ด้วย ทำให้เป็นจุดที่ดีในการชมดอกไม้ไฟโซล





Address : 191 Noryangjin-ro, Dongjak-gu, Seoul  
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1, 9 ลงสถานีนอรยางจิน (Noryangjin) ทางออกที่ 1 เดินเท้าต่อไปอีก 15 นาที หรือรถเมล์สาย 152, 500, 504, 654, 751, 5516, 5517, 5535, 5536 ลงที่ป้าย 사육신공원 (ซายุกชินกงวอน)


2.63 Building - ตึก 63 ที่เราคุ้นเคย ที่นี่เหมาะมากสำหรับคู่รัก ที่นี่สามารถไปดินเนอร์สวีทกันพร้อมชมวิวจากบนตึกและชมดอกไม้ไฟโซลไปพร้อมกันได้ด้วย 




Address : 50, 63-ro, Yeongdeungpo-gu, Seoul  
How to go : - รถไฟใต้ดินสาย 5, 9 ลงสถานียออึยโด (Yeouido) ทางออกที่ 5
- รถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานีแซตกัง (Saetgang) ทางออกที่ 1
- รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานียออึยนารุ (Yeouinaru) ทางออกที่ 4
จากนั้นไม่ว่าจะมาจากสถานีไหน ก็สามารถไปรอยังป้ายรถเมล์เพื่อรอขึ้นรถฟรีชัตเติ้ลบัส 63 Square ไปยังตึกได้เลย เช็คจุดขึ้นรถและเวลารถวิ่ง


3.Seonyudo Park (선유도공원) - สวนสาธารณะซอนยูโด ตั้งอยู่บนเกาะซอนยู เป็นหนึ่งในเกาะที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำฮัน ปัจจุบันถูกดัดแปลงให้เป็นสวนนิเวศวิทยา ตรงจุดนี้จะไกลจากจุดที่แสดงดอกไม้ไฟโซลออกไปหน่อย แต่ก็เป็นจุดที่เห็นวิวชัดอีกที่หนึ่งเลย





Address : 343 Seonyu-ro, Yeongdeungpo-gu, Seoul 
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานีซอนยูโด (Seonyudo) ทางออกที่ 2 เดินเท้าต่อไปอีก 700 เมตร หรือรถเมล์สาย 603, 761, 5714, 7612 ลงที่ป้าย 선유도공원 (ซอนยูโดกงวอน)


4.Nodeul Island (노들섬) - เกาะโนดึล หรือโนดึลซอม เป็นเกาะเทียมเล็กๆ ที่อยู่บนแม่น้ำฮัน เป็นสวนนิเวศวิทยา เกาะนี้จะอยู่ใกล้กับจุดแสดงดอกไม้ไฟโซลเลย ซึ่งในอนาคตจะมีการสร้างสะพานเชื่อมให้เป็นจุดชมวิว ที่สามารถชมวิวได้ 360 องศา และมีลานกิจกรรมต่างๆ คาดว่าจะเสร็จและเปิดใช้ในปี 2021




Address : 445, Yangnyeong-ro, Yongsan-gu, Seoul 
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 9 ลงสถานีโนดึล (Nodeul) ทางออกที่ 2 เดินเท้าต่อไปอีก 700 เมตร หรือรถเมล์สาย 150, 151, 152, 500, 501, 504, 506, 507, 605, 750A, 750B, 751, 752, 6211, N15 ลงที่ป้าย 노들섬 (โนดึลซอม)


5.Ichon Hangang Park (이촌한강공원) - สวนสาธารณะอีชนฮันกังพาร์ค ตรงนี้จะอยู่ตรงข้ามเยื้องกันกับ Yeouido Hanggang Park เลย ทำให้เป็นจุดนึงที่เห็นดอกไม้ไฟโซลชัดมากๆ




Address : 62, Ichon-ro 72-gil, Yongsan-gu, Seoul 
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1,4 ลงสถานีอีชน (Ichon) ทางออกที่ 4 เดินเท้าไปอีก 500 เมตร


6.Namsan Park (남산공원) - สวนสาธารณะนัมซาน ที่นี่จะอยู่ไกลจากจุดแสดงดอกไม้ไฟโซลมากที่สุด แต่คนก็แออัดน้อยสุดด้วยเช่นกัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในการไปชมดอกไม้ไฟกันค่ะ ซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมดอกไม้ไฟได้จากด้านบนของ Seoul Tower เลย




Address : 231 Samil-daero, Jung-gu, Seoul 
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 4 ลงสถานีมยองดง (Myeongdong) ทางออกที่ 1 เดินเท้าไปอีก 10 นาที ก็จะถึงสวนสาธารณะ หรือถ้าอยากขึ้นไปยัง Seoul Tower สามารถออกทางออกที่ 3 แล้วขึ้นรถบัส Namsan Sunhwan Shuttle Bus สาย 02 และ 05 ก็จะไปถึงยังด้านบนทาวเวอร์ได้ค่ะ


ใครที่มีแพลนอยากไปชมดอกไม้ไฟโซลสักครั้ง ก็นับว่านี่เป็นอีกทางในการชมดอกไม้ไฟได้แบบที่ไม่ต้องแออัดกับฝูงชน แต่ก็เชื่อว่าในแต่ละสถานที่ที่มินนำมาฝากนั้น ในวันเทศกาลก็คงจะเต็มไปด้วยคนมากมายเช่นกัน แต่ความแออัดน่าจะน้อยกว่าบริเวณที่จัดงานมาก เอาเป็นว่าใครสะดวกไปชมจากจุดไหนก็ไปกันได้ตามลายแทงด้านบนได้เลยจ้า


Cr.ภาพประกอบจาก visitseoul.net, visitkorea.co.kr, www.hulutrip.com, news.chosun.com, brunch.co.kr, naksoo.tistory.com, photoguide.com, www.crowdpic.net, blog.daum.net/korea-korean

24 กันยายน 2562

ตารางใบไม้เปลี่ยนสี ปี 2019


ใกล้จะถึงฤดูที่หลายคนรอคอยกันแล้วนะคะ กับฤดูใบไม้ร่วง ฤดูที่สุดแสนจะโรแมนติก ส่วนตัวมินเองก็ชอบฤดูนี้มากเช่นกัน เพราะมองไปทางไหนก็สวยไปหมด บรรยากาศที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองแดงงามอร่ามตาไปทั่วเมืองนี่มันดีต่อใจจริงๆ ค่ะ ใครที่มีแพลนกำลังจะไปเที่ยวในช่วงนี้แล้วล่ะก็ มาดูตารางพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีปี 2019 กันดีกว่า ว่าปีนี้จะเริ่มเปลี่ยนสีเมื่อไหร่ค่ะ



พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของปีนี้นั้น คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วเลยค่ะ นั่นคือใบไม้เปลี่ยนสีใบแรกน่าจะได้เห็นราวๆ ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป และค่อยๆ ไล่ไปเรื่อยๆ ตามแนวเขาจนถึงกลางเดือนตุลาคม ก็จะเริ่มเห็นใบไม้เปลี่ยนสีไปทั่วบริเวณแล้วล่ะค่ะ

แน่นอนว่าที่เทือกเขาซอรัคซาน (Seoraksan) จะเป็นที่แรกที่เราจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีกัน โดยคาดว่าจะเห็นใบไม้สีเหลืองแดงในวันที่ 27 กันยายน ก่อนจะกระจายไปยังพื้นที่ของภาคกลางและโซลในช่วงวันที่  14-17 ตุลาคม ในขณะที่ทางภาคใต้แถบเทือกเขาจิราซานใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนในช่วงวันที่ 11-20 ตุลาคม 


เทือกเขาซอรัคซาน

ส่วนในช่วงพีคของฤดู หรือช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีปกคลุมเต็มพื้นที่แล้วนั้น ที่เทือกเขาซอรัคซานและโอแดซาน จะพีคในช่วงระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม ซึ่งช่วงนี้ในโซลเพิ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีเองค่ะ และภาคกลางกับโซลนั้นก็จะไปพีคในช่วงระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคม สุดท้ายกับทางภาคใต้ ก็จะพีคในช่วงระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายนค่ะ และหลังจากที่อยู่ช่วงพีคแล้ว ก็จะยังคงให้เห็นความสวยงามไปอีกระยะหนึ่งราวๆ 1-2 สัปดาห์ ก่อนจะแห้งและร่วงไปนั่นเองค่ะ


เทือกเขาแนจางซาน


มาดูตารางกันดีกว่าค่ะ สำหรับในช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสีนั้น จะเป็นช่วงที่ใบไม้สีเหลืองและสีแดงของต้นไม้ตามเทือกเขาครอบคลุมพื้นที่กว่า 80% ของภูเขา ซึ่งอาจจะช้าหรือเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้ 



ช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีใบแรก / ช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสี ปี 2019 
เทือกเขาซอรัคซาน (จ.คังวอนโด) เริ่มเปลี่ยนสี 27 กันยายน ช่วงพีค 16 ตุลาคม
เทือกเขาโอแดซาน (จ.คังวอนโด) เริ่มเปลี่ยนสี 1 ตุลาคม ช่วงพีค 14 ตุลาคม
เทือกเขาชีอัคซาน (จ.คังวอนโด) เริ่มเปลี่ยนสี 8 ตุลาคม ช่วงพีค 23 ตุลาคม
เทือกเขาวอลลัคซาน (จ.ชุงชองบุคโด) เริ่มเปลี่ยนสี 11 ตุลาคม ช่วงพีค 23 ตุลาคม
เทือกเขาจิริซาน (จ.ชลลานัมโด) เริ่มเปลี่ยนสี 11 ตุลาคม ช่วงพีค 22 ตุลาคม
เทือกเขาบุคฮันซาน (จ.คยองกีโด - ใกล้โซล) เริ่มเปลี่ยนสี 14 ตุลาคม ช่วงพีค 29 ตุลาคม
เทือกเขาคายาซาน (จ.คยองซังบุคโด) เริ่มเปลี่ยนสี 14 ตุลาคม ช่วงพีค 27 ตุลาคม
เทือกเขาซกริซาน (จ.ชุงชองบุคโด) เริ่มเปลี่ยนสี 15 ตุลาคม ช่วงพีค 30 ตุลาคม
เทือกเขาฮัลลาซาน (เกาะเชจู) เริ่มเปลี่ยนสี 15 ตุลาคม ช่วงพีค 30 ตุลาคม
เทือกเขาคเยรงซาน (จ.ชุงชองนัมโด) เริ่มเปลี่ยนสี 17 ตุลาคม ช่วงพีค 27 ตุลาคม
เทือกเขาแนจางซาน (จ.ชลลาบุคโด) เริ่มเปลี่ยนสี 17 ตุลาคม ช่วงพีค 3 พฤศจิกายน

*ตารางนี้เป็นเพียงการพยากรณ์ล่วงหน้า วันที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.co.kr

7 กันยายน 2562

วันเปิดปิดของสถานที่และร้านค้าต่างๆ ในช่วงเทศกาลชูซอก ปี 2019


หนึ่งในวันหยุดที่สำคัญที่สุดในประเทศเกาหลี ก็คือวันหยุดเทศกาลชูซอก หรือวันขอบคุณพระเจ้าค่ะ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 15 ของเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันที่ 13 กันยายน 2019 ทำให้เทศกาลชูซอกในปี  2019 นี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน และชาวเกาหลีหลายคนจะกลับบ้านเกิด เพื่อร่วมฉลองกับครอบครัว และทำพิธีไหว้บรรพบุรุษกัน ทำให้บริษัท สถานที่ และร้านค้าต่างๆ ปิดทำการ เพื่อให้ทุกคนได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดกัน



นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาหลีในช่วงเทศกาลนี้ สามารถตรวจสอบวันเปิดปิดของสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ และร้านค้าต่างๆ ในเกาหลีได้ตามด้านล่างเลย มินได้รวบรวมมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ



สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในโซลและคยองกีโด

Korean Folk Village (เมืองยงอิน จ.คยองกีโด)  เปิดให้ทำการปกติ
Korea House (โซล)  ปิดวันที่  12-15 กันยายน
Insadong (โซล)  ร้านค้าปิดบางร้าน
The National Museum of Korea (โซล)  ปิดวันที่  13 กันยายน
National Folk Museum of Korea (โซล)  ปิดวันที่  13 กันยายน
The War Memorial of Korea (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Seodaemun Prison History Museum (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Royal Tombs of the Joseon Dynasty (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Gyeongbokgung Palace (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Changdeokgung Palace (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Changgyeonggung Palace (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Deoksugung Palace (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Jongmyo Shrine (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
63 CITY (โซล)  เปิดเฉพาะส่วนของ 63 Sky Art และ Aqua Planet 63
N Seoul Tower (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Namsan Cable Car (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Hangang River Cruise (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
COEX Aquarium (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Lotte World (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Seoul Land (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Everland (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Seoul Grand Park (โซล)  เปิดให้ทำการปกติ

**ช่วงเทศกาลชูซอก เข้าทุกพระราชวังฟรี (เฉพาะช่วงกลางวัน)


ศูนย์วัฒนธรรมและศิลปะการแสดง
The National Theater of Korea (โซล) เปิดให้ทำการปกติ
Myeongdong NANTA Theatre (โซล) เปิดให้ทำการปกติ
Jeongdong Theater (โซล) เปิดให้ทำการปกติ
National Museum of Modern and Contemporary Art
- MMCA Gwacheon, MMCA Deoksugung: เปิดให้ทำการปกติ
- MCA Seoul: ปิดวันที่  13 กันยายน
Seoul Arts Center (โซล)  เปิดเฉพาะส่วนของ Exhibitions
Seoul Namsan Gugakdang (Traditional Theater) (โซล) เปิดให้ทำการปกติ
Sejong Center (โซล) เปิดให้ทำการปกติ
Dongdaemun Design Plaza (DDP)  ปิดวันที่  13 กันยายน (อาจมียกเว้นบางกิจกรรมหรือร้านค้าบางร้าน)


สถานที่ช้อปปิ้งและห้างสรรพสินค้า
Starfield COEX Mall (โซล) เปิดให้ทำการปกติ (อาจมียกเว้นบางกิจกรรมหรือร้านค้าบางร้าน)
Itaewon (โซล) ร้านค้าปิดบางร้าน
Myeongdong (โซล) ร้านค้าปิดบางร้าน 
- Myeong-dong Tourist Information Center: ปิดวันที่  13 กันยายน 
TIMES SQUARE  เปิดให้ทำการปกติ (อาจมียกเว้นบางกิจกรรมหรือร้านค้าบางร้าน) 
Lotte Department Store (เฉพาะสาขามยองดง) ปิดวันที่  12-13 กันยายน
Hyundai Department Store (เฉพาะสาขาอัพกูจอง) ปิดวันที่  13-14 กันยายน
Shinsegae Department Store (เฉพาะสาขามยองดง) ปิดวันที่  13-14 กันยายน
Lotte Mart (ทุกสาขาในโซล)  เปิดให้ทำการปกติ
Dongdaemun Shopping Complex (โซล) ปิดวันที่  12-15 กันยายน
Namdaemun Market (โซล) ปิดวันที่  12-15 กันยายน


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในปูซาน
Nurimaru APEC House  ปิดวันที่  8-20 กันยายน
Busan Cinema Center  ปิดวันที่  12-15 กันยายน
SEA LIFE Busan Aquariaum  เปิดให้ทำการปกติ
Gukje Market  ร้านค้าปิดบางร้าน
Shinsegae Centum City  ปิดวันที่  12-13 กันยายน
Lotte Department Store (สาขาซอมยอน)  ปิดวันที่  12-13 กันยายน


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในแทกู
E-World  เปิดให้ทำการปกติ
E-World 83 Tower  เปิดให้ทำการปกติ
Seomun Market  ร้านค้าปิดบางร้าน
Apsan Observatory & Cable Car  เปิดให้ทำการปกติ


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในคังวอนโด
Seoraksan National Park (ซกโช)  เปิดให้ทำการปกติ
Daegwallyeong Sheep Farm (พยองชาง)  ปิดวันที่  13 กันยายน
Namiseom Island (ชุนชอน)  เปิดให้ทำการปกติ
Unification Observatory (โกซอง)  เปิดให้ทำการปกติ
DMZ Museum (โกซอง)  เปิดให้ทำการปกติ


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอื่นๆ
Jeonju Hanok Village (จอนจู)  ร้านค้าปิดบางร้าน
Hanhwa Aqua Planet Yeosu (ยอซู)  เปิดให้ทำการปกติ
Suncheonman Bay Wetland Reserve (ชุนชอน)  เปิดให้ทำการปกติ
Suncheonman Bay National Garden (ชุนชอน)  เปิดให้ทำการปกติ
Seonamsa Temple (ชุนชอน)  เปิดให้ทำการปกติ
Bulguksa Temple (คยองจู)  เปิดให้ทำการปกติ
Gyeongju National Museum (คยองจู)  ปิดวันที่  13 กันยายน
Andong Hahoe Folk Village (อันดง)  เปิดให้ทำการปกติ


สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เกาะเชจู
Hallasan National Park  เปิดให้ทำการปกติ
Teddy Bear Museum  เปิดให้ทำการปกติ
Yeomiji Botanical Garden  เปิดให้ทำการปกติ
O’sulloc Tea Museum  เปิดให้ทำการปกติ
Hanhwa Aqua Planet Jeju  เปิดให้ทำการปกติ


นอกจากนี้ พวกร้านอาหาร ร้านกาแฟ ต่างๆ มักจะปิดในวันที่ 13 กันยายน ที่ตรงกับวันชูซอกพอดี ส่วนวันอื่นๆ ก็เปิดปกติ หรือในขณะเดียวกัน บางร้านในเขตดาวน์ทาวน์ ก็ยังคงเปิดให้บริการปกติทุกวันตลอดเทศกาลค่ะ


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr