3 เมษายน 2556

CAFÉ KINNOR คาเฟ่สไตล์สแกนดิเนเวียน ย่านมยองดง


Photo by cafe kinnor

เมื่อวานมินได้รับอีเมล์ฉบับหนึ่งจากคนไทย ซึ่งส่งมาบอกว่า เพื่อนของเพื่อนเธอที่เป็นชาวเกาหลีนั้น (แท้จริงคือชายหนุ่มค่ะ) เปิดร้านกาแฟที่มยองดง ชื่อว่า CAFÉ KINNOR (카페 키노르) จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทย ให้ไปเยี่ยมเยียนที่ร้านของเขากันค่ะ ซึ่งเขาได้มอบคูปองส่วนลดแนบมาด้วย ถึง 10% เลยนะคะ นี่คือข้อความในอีเมล์ที่เป็นภาษาเกาหลีค่ะ ก็แปลได้ใจความตามที่มินเอ่ยไปนั่นเอง

안녕하세요.

내 친구가 명동에서 카페 해요~

그래서 태국 여행객들이나 가이드가  카페에 많이 오면 좋을 거 같은데.

명동에 있는 카페 이름은 Cafe Kinnor 구요.

 10% 할인 쿠폰 첨부 할게요.


Kinnor ในภาษาฮิบรู เป็นชื่อเรียกของเครื่องดนตรีสายชนิดหนึ่งค่ะ นั่นก็คือพิณ หรือ Harp นั่นเอง หรือที่ชาวอิสราเอลจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า King David Harp เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่กษัตริย์เดวิด (หรือดาวิด) ที่เมื่อครั้งหนึ่งในอดีตกาล พระองค์ได้เล่นพิณนี้เพื่อใช้ในการบำบัดรักษาอาการซึมเศร้า และความวิตกกังวลทางจิตใจของกษัตริย์ซาอูลจนหายเป็นปกติ (ใช้ดนตรีบำบัด) ซึ่งในขณะนั้นกษัตริย์เดวิดยังคงเป็นเพียงนายทหารผู้เก่งกล้า และมีความสามารถในการเล่นพิณเป็นอย่างมากเท่านั้น ซึ่งประวัติความเป็นมาของเจ้า Kinnor คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ

สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้านนั้น เขาบอกว่าเป็น Coffee&Kitchen ค่ะ ที่นี่เน้นในเรื่องของการผสมผสานเมล็ดกาแฟโดยใช้ศิลปะในการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และกุญแจสำคัญคือใบชาที่มีคุณภาพสูง และเครื่องดื่มที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยสูตรของชาวนอร์มัน 

ที่นี่มีเมล็ดกาแฟ Luwak Coffee (Kopi)  จากประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้มาจากเกาะสุมาตรา หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า "กาแฟขี้ชะมด" ด้วยนะคะ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่มีราคาแพงมาก แก้วนึงตกเป็นพันบาท เรียกได้ว่าแพงที่สุดในโลก เพราะกว่าจะหามาได้นั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ ส่วนในไทยที่หากินได้ก็คือที่ร้านกาแฟดอยช้างค่ะ แก้วละ 450 บาทเท่านั้นเองงงง

เกริ่นไปเยอะแล้ว เราไปชมร้านกันดีกว่าค่ะ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้นสอง ก็เลยต้องเดินขึ้นบันไดไปแบบนี้ค่ะ

Photo by dongneno1

ขึ้นมาถึงแล้ว ก็เข้าไปด้านในเลยค่ะ

Photo by coco9553

ร้านมีขนาดเล็กๆ ตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียน ด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย


Photo by coco9553


Photo by chattelove

Photo by bangxg


Photo by joon2079


มีที่นั่งริมระเบียงไว้มองดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาที่มยองดงด้วยล่ะ อ้อ...แล้วที่นี่ก็ยังมีห้องสำหรับ Smoking Zone สำหรับคนสูบบุหรี่แยกไว้ด้วยเช่นกันค่ะ


Photo by joon2079


หากจะสั่งเครื่องดื่ม ก็สามารถเดินมาสั่งได้ที่เคาน์เตอร์นี้เลย

Photo by dongneno1

มาดูเมนูอาหารยอดนิยมของร้านบ้างดีกว่า อย่างแรกคือ Brunch เซ็ทอาหารเช้า+กลางวัน จานแรกก็คือ 헴&토마토스크램블 + 애플주스 (Ham&Tomato Scrambled + Apple Juice) ราคา 12500 วอน



Photo by coco9553

ส่วนอีกจานนึงคือ 단호박소세지베이컨+ 애플주스 (Pumpkin Sausages Bacon + Apple Juice) ราคา 15500 วอน น่ากินไม่แพ้กันเลย


Photo by coco9553

 Photo by joon2079

อันนี้คือน้ำแอปเปิ้ลที่มาในเซ็ทค่ะ

Photo by joon2079

นอกจากนี้แล้วยังมี 고르곤 졸라 피자 (Gorgonzola Pizza) ที่น่าลิ้มลองอีกด้วย ราคา 13000 วอน


Photo by chattelove

ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะที่นี่เขามีเมนูพาสต้าไว้เอาใจคนรักเส้นด้วยล่ะค่ะ 까르보나라 스파게티 (Carbonara Spaghetti) จานนี้ 12000 วอน

Photo by seoulnavi

จากอาหาร มากันที่กาแฟกันบ้างค่ะ แน่นอนว่า เมนูแนะนำประจำร้านคงหนีไม่พ้น 루왁커피 (Luwak Coffee) แก้วนี้ค่ะ ราคาก็สูงสมที่ว่าเป็นราคาแพงที่สุดในโลกจริงๆ แก้วนี้ราคา 65000 วอนค่ะ (1950 บาท!) อ่านไม่ผิด ราคานี้จริงๆ ค่ะ ^^"

Photo by seoulnavi

หรือถ้าสู้ราคาไม่ไหว จะลองสั่ง 핸드 드립 커피 (Hand Drip Coffee) มาชิมแทนก็ได้นะคะ ราคาเบากว่าแก้วละ 8000 วอน

Photo by chattelove

ส่วน 아메리카노 (Americano) ก็ 5000 วอนค่ะ

Photo by chattelove

นอกไปจากนี้ก็มีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ นอกเหนือไปจากกาแฟอีกด้วยล่ะค่ะ อย่างเช่น 자몽 주스 (Grapefruit Juice) 7000 วอน

Photo by bangxg

오미자차 (Omija Tea) 7500 วอน

Photo by seoulnavi

블루 베리 스무디 (Blueberry Smoothie) 6500 วอน

Photo by bangxg

민트 초코렛 (Mint Chocolate) 6500 วอน

Photo by bangxg

และถ้าใครไปทานในช่วงนี้ ก็มีเมนูเครื่องดื่มรับฤดูใบไม้ผลิด้วยนะคะ ซึ่งจะมีแค่ฤดูนี้ฤดูเดียว นั่นก็คือ 딸기 라떼 (Strawberry Latte) ราคา 7000 วอน

Photo by seoulnavi

หรือใครจะควงคู่กันมาสวีตด้วยมื้อค่ำที่นี่ ก็มีไวน์ 키 노르 하우스 와인 (Kinnor house wine) ไว้บริการนะคะ แก้วละ 6000 วอน หรือถ้าจะสั่งเป็นขวด ก็ราคาขวดละ 58000 วอนค่ะ

Photo by seoulnavi

ปิดท้ายกันที่ของหวานกันบ้างดีกว่าค่ะ มีของคาวแล้วจะไม่มีของหวานตบท้าย ก็ดูเหมือนจะขาดอะไรไป ^^ เมนูสุดฮิตที่นี่ก็คือ 허니 브레드 (Honey Bread) ราคา 7500 วอนค่ะ

Photo by seoulnavi

หรือจะเป็นหลากหลายเมนูเค้ก ก็มีให้เลือกค่ะ ราคา 5000-6000 วอน


Photo by seoulnavi

ส่วนเมนูที่ทางร้านแนะนำก็จะเป็น 팥빙수 (พัตบิงซู) ถ้วยนี้ค่ะ น่ากินมากๆๆๆๆ เลย 

Photo by chattelove

และความพิเศษอย่างสุดท้ายของร้านนี้ก็คือ เขามีบริการโทรศัพท์จากการท่องเที่ยวเกาหลี สามารถโทรสอบถามหรือขอความช่วยเหลือได้ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

Photo by seoulnavi


และพิเศษสุดๆ กับแฟน Seoul Cafe หากไปรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้าน สามารถแสดงคูปองด้านล่างนี้จากโทรศัพท์มือถือ เพื่อขอรับส่วนลด 10% ได้ทันทีค่ะ (แสดงคูปองก่อนสั่ง) 



*เงื่อนไขการใช้คูปอง
- ใช้เป็นส่วนลดได้ทุกเมนู ยกเว้น เมนูที่ลดราคา
- คูปองนี้ใช้ได้ถึง 30 กันยายน 2556


Address : 2F 2-2, Myeong-dong 2-ga, Jung-gu, Seoul
Tel : 02-319-2122
Open from : 7:30-02:00
Closed : New Year's Day, Thanksgiving Day
A method of payment : Cash, Credit Card
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 6 สีฟ้า ลงสถานีมยองดง (Myeongdong Station) ทางออกที่ 6 จากนั้นพอถึงตลาดมยองดงแล้ว ก็เดินตรงยาวไปตามทางเลยค่ะ จนกว่าจะเจอร้าน Teenie Weenie อยู่ซ้ายมือ ก็เลี้ยวขวาตรงนี้ค่ะ เลี้ยวมาแล้ว มองไปข้างหน้าจะเห็นตึก Olive Young (ที่มีร้านกาแฟของซีวอนอยู่ชั้นสอง) เดินเลยตึกนี้ไปนิดเดียว จะเจอร้านอยู่เยื้องๆกัน ฝั่งขวามือค่ะ ร้าน CAFÉ KINNOR นั้น ตั้งอยู่บนชั้นสองนั่นเอง (ง่ายๆ เลยก็คือ เดินไปทางเดียวกับไปโบสถ์มยองดงนั่นล่ะค่ะ) หรือใครจะมาทางสถานีอึลจิโร่อิลกา (Euljiro-il-ga Station) ก็ได้นะคะ ขึ้นสาย 2 สีเขียว และออกทางออกที่ 5 หรือ 6 ตามภาพในแผนที่เลยค่ะ

Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย














1 ความคิดเห็น:

  1. ร้านกาแฟดูเรียบมากเลยครับ เรื่องรสชาติต้องลองสักครั้ง

    ตอบลบ