ประเทศมาเลเซียนั้น มีบริการขนส่งสาธารณะด้วยกันหลายช่องทางค่ะ เรียกได้ว่าเดินทางสะดวก ไม่ลำบากมากนัก เพราะครอบคลุมทั้งเมือง KL ด้วยบริการ Rapid KL ที่มีทั้งรถไฟ LRT และ รถไฟรางเดี่ยวที่เรียกว่าโมโนเรล รวมถึงรถเมล์หรือ BUS ที่มีไว้ให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งบริการหลักๆ ที่มินจะใช้บริการบ่อยๆ เลยก็มีอยู่ 2 บริการค่ะ คือ LRT และ MR หรือโมโนเรลนั่นเอง
เริ่มกันที่ รถไฟ LRT (Light Rail Transit) มีด้วยกัน 2 สายคือ AMPANG LINE (สายสีเหลือง) และ KELANA JAYA LINE (สายสีแดง)
AMPANG LINE (สายสีเหลือง) มีด้วยกัน 25 สถานี เส้นทางตามด้านล่างค่ะ บางสถานีจะเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสายสีแดง และ MONIRAIL LINE สายสีเขียวได้อีกด้วย ซึ่งเส้นทางเหล่านี้จะเป็นเส้นทางหลักที่เราจะใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ใน KL ที่จะมาพูดถึงกันในเอนทรี่นี้ค่ะ
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
เวลาเดินรถ ของสายนี้นั้น วันจันทร์-เสาร์ เริ่มที่ 6:00 ไปจนถึงประมาณ 23:30 (บางสถานีจะเปิดให้บริการถึง 24:00) ส่วนในวันอาทิตย์เปิด 6:00 เช่นกัน แต่จะปิดก่อนประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
ส่วน KELANA JAYA LINE (สายสีแดง) สายนี้นั้น เราอาจจะได้ทำความคุ้นเคยกับมันมากหน่อย เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะได้ใช้บริการสายนี้มากกว่าสายสีเหลืองค่ะ สายนี้มีจุดจอดทั้งสิ้น 24 สถานี โดยมีสถานีหลักเลยก็คือ สถานี KL Sentral ที่เรานั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมือง ก็จะมาจอดที่นี่ และสามารถต่อสายสีแดงนี้ เพื่อไปยังที่พักย่านอื่นๆ หรือ ต่อ MONIRAIL LINE สายสีเขียว เช่นเดียวกันค่ะ อย่างถ้าใครพักย่านบูกิต บินตังอย่างมิน ก็ต้องเดินออกจากสถานี KL Sentral เพื่อไปยังสถานีโมโนเรล แล้วถึงนั่ง MONIRAIL LINE ไปยังบูกิตบินตังได้ เพราะย่านบูกิตจะมีแค่โมโนเรลเท่านั้นนี่ผ่านค่ะ ไม่งงเนอะ
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
เวลาเดินรถ สายนี้ จะคล้ายกับสายสีเหลือง คือ วันจันทร์-เสาร์ เริ่มที่ 6:00 ไปจนถึงประมาณ 23:40 ค่ะ (บางสถานีจะเปิดให้บริการถึง 24:00) วันอาทิตย์ปิดก่อนประมาณครึ่งชั่วโมงเช่นกัน
ค่าบริการ ทั้งสองสายจะเริ่มต้นที่ 0.70 ริงกิต (หรือ 70 เซน ประมาณ 7 บาท) ถูกมากทีเดียว มินนั่งไปใกล้ๆ แค่สองสามสถานี ก็สิบกว่าบาทเท่านั้น หรือจะเช็คค่าบริการอย่างละเอียด ได้ที่นี่ โดยเลือกจากสถานีต้นทาง และปลายทาง ได้เลยค่ะ
จากนั้นมองหาทางเข้าสถานี จะมีป้ายบอกชื่อสถานีไว้ หาไม่ยาก ก็เดินลงบันไดเลื่อนเข้าไปในสถานี LRT แบบนี้เลยค่ะ
และสำหรับใครที่เคยชินกับประเทศเกาหลี ที่ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วชิดขวานั้น ถ้ามาเที่ยวที่มาเลเซีย (รวมถึงสิงคโปร์) ให้ปรับตัวใหม่นะคะ เพราะว่าสองประเทศนี้ เขา Keep Left ชิดซ้ายจ้า ซึ่งโดยมารยาทนั้น หากเดินทางไปประเทศไหนๆ ควรเรียนรู้เรื่องนี้เอาไว้บ้างก็ดีนะคะ เพราะคนประเทศอื่นๆ เขาค่อนข้างรีบ ไม่เอื่อย เฉื่อย แบบพี่ไทย เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่รีบก็ควรยืนชิดให้ถูกฝั่ง เพื่อที่คนที่เขามีธุระต้องรีบไป จะได้ไม่เสียเวลาเพราะมาติดที่เราไปยืนจังก้าอยู่กลางบันไดนะคะ (ใครอยู่ประเทศไทยแล้วทำแบบนี้ ก็เลิกซะนะคะ! ประเทศไทยเราขึ้นลงชิดขวา จำไว้นะจ้ะ)
การซื้อตั๋วเดินทางแบบเที่ยวเดียวนั้น ก็ไม่ยากค่ะ เหมือนซื้อตั๋วรถไฟฟ้า BTS รึ รถไฟใต้ดิน MRT บ้านเราน่ะแหละ (มีภาษาอังกฤษให้เลือก) แค่เลือกสถานีปลายทางที่เราจะไป จำนวนคน และก็หยอดเงิน (รับทั้งธนบัตรและเหรียญ แต่ทอนเงินเป็นเหรียญ) จากนั้นก็จะได้รับเหรียญสีน้ำเงินๆ แบบนี้มาค่ะ พอจะใช้บริการก็แค่แตะที่ตัวเซ็นเซอร์ก่อนเดินเข้าสถานี ประตูกั้นก็จะเปิด เดินเข้าไปได้เลย เหมือนบ้านเราเลย ง๊ายง่าย พอตอนจะออกก็หยอดเหรียญคืนแค่นี้เอง
หรือใครจะซื้อแบบบัตรเดินทางก็ได้นะคะ ที่นี่เขาก็มีเช่นกัน เรียกว่า My Rapid Card แม้ที่หน้าบัตรจะมีรูปรถบัสก็ตาม แต่ในความเป็นจริงจะใช้บริการได้แค่ LRT กับ Monorail เท่านั้น ซึ่งใครจะลองซื้อมาใช้ดูก็ได้นะคะ เพราะปกติการเดินทางใน KL นั้น ก็แทบจะไม่ได้ใช้บริการรถบัสเลย แต่ที่มินไม่ซื้อ เพราะเห็นว่าการซื้อตั๋วเที่ยวเดียวนั้น ก็สะดวกดีค่ะ ตู้มีเยอะ และคนก็ไม่ได้ต่อคิวเยอะจนเสียเวลาด้วยค่ะ แต่ถ้าใครสนใจซื้อเป็นบัตรนี้ไว้ ก็ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ รู้สึกว่าจะหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟทุกสถานี (ซื้อกับจนท.ที่เคาน์เตอร์) ส่วนเวลาเติมเงินนั้น ขั้นต่ำคือ 10 ริงกิตค่ะ เติมได้เองที่ตู้อัตโนมัติภายในสถานีเช่นกัน
My Rapid Card
ในสถานีก็จะมีรถไฟวิ่งสวนกันสองขบวนเช่นกันกับทุกๆ ประเทศค่ะ เพราะฉะนั้น ก่อนจะขึ้น ตั้งสติให้ดีก่อนว่า เราจะไปไหน และต้องขึ้นที่ Platform 1 หรือ 2 นะคะ เพราะถ้าขึ้นผิดขบวน ก็ต้องเสียเวลานั่งย้อนกลับมาอีก (เปลืองตังอีกตะหาก) ในสถานีทุกสถานี จะมีป้ายแบบนี้ตั้งอยู่ อย่างเช่น ดูจากภาพด้านล่าง มินอยู่สถานี Dang Wangi และหากว่าจะไปสถานี KL Sentral ก็ไปยืนรอที่ Platform 2 แต่ว่าวันนั้น มินกำลังจะไปตึกเปรโตนาส ซึ่งจะอยู่สถานี KLCC เลยต้องมายืนรอที่ Platform 1 นั่นเองค่ะ
หน้าตา Platform ในสถานี ก็เป็นแบบนี้ค่ะ จะมีชื่อของสถานีที่เราอยู่บอกไว้ แต่จะไม่มีลูกศรบอกว่ารถไฟขบวนนี้ไปทางไหน เพราะฉะนั้น กลับไปยืนดูป้ายบอก Platform ด้านบนนะคะ
ข้อห้ามของรถไฟที่นี่ อาหารและเครื่องดื่มถือเข้าไปได้ (ขนมใส่ถุงเรียบร้อย น้ำดื่มใส่ขวด เป็นต้น) แต่ ห้ามรับประทานค่ะ! ถือแก้วน้ำเข้าไปก็ไม่ได้นะคะ ดูเจตนาเอาไปดื่มชัดเจน ฝ่าฝืนโดนปรับ 500 ริงกิต (5000 บาท)
พอดีมินไม่ได้ถ่ายภาพในรถไฟมา แต่ก็จะเหมือนรถไฟใต้ดินทั่วไปแหละค่ะ เวลาถึงสถานี ก็จะมีเสียงประกาศบอกชัดเจนเป็นภาษาอังกฤษ และป้ายทางออกนั้น ที่มาเลเซียจะใช้ทั้งคำว่า EXIT และ Way Out ส่วนคำว่าทางออกในภาษามาเลย์คือ KELUAR ค่ะ
จบเรื่อง LRT ไปแล้ว ก็มาถึงอีกการบริการกันบ้าง นั่นก็คือรถไฟโมโนเรลค่ะ โดยเราจะต้องขึ้นสาย MONIRAIL LINE (สายสีเขียว) ในการเดินทางในบางย่านที่ไม่มี LRT ผ่านสถานีนะคะ (เช่น บูกิต บินตัง)
รถไฟโมโนเรลจะวิ่งระยะสั้นๆ มีจุดจอดเพียง 11 สถานี ซึ่งเพิ่งจะสร้างและเปิดให้ใช้บริการในประเทศมาเลเซียมาเพียง 10 ปีเท่านั้น (สร้างทีหลังสุด) เป็นรถไฟรางเดี่ยวที่มีเพียงโบกี้เดียวเล็กๆ จุคนได้ไม่มาก แต่ว่ามีรอบวิ่งค่อนข้างถี่ ทำนองว่า จุได้น้อย แต่มาบ่อยๆ ค่ะ มินพักย่าน บูกิต บินตัง ทำให้ได้ใช้บริการรถไฟรางเดี่ยวนี้ทุกวันในการเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งจะว่าสะดวกมันก็สะดวก แต่จะดีกว่านี้ถ้ารถไฟ LRT ผ่าน เพราะมันทำให้ต้องไปต่อรถไฟอีกทีนึง แถมเดินไกลจากสถานีอีกต่างหาก ถ้าจะบอกว่าการคมนาคมที่มาเลเซียไม่สะดวก ก็คงจะเป็นเรื่องนี้ล่ะค่ะ (แต่จะหมดปัญหานี้ เมื่อไปถึงยังสิงคโปร์ >.<)
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
หน้าตาของทางเข้าสถานีค่ะ อันนี้ที่สถานีบูกิต บินตัง
ขึ้นไปด้านบนแล้ว ก็จะมีป้ายบอก Platform เช่นกันนะคะ ดูให้ดีก่อนว่า จะเดินไปทางซ้ายหรือขวา รถจะวิ่งสองฝั่งสวนกันเหมือน LRT แต่ Platform จะอยู่คนละฝั่งเลย (คั่นกลางด้วยราง) ดังนั้น ถ้าขึ้นผิดฝั่ง ต้องเดินลงบันไดไปใหม่จ้า ส่วนการซื้อตั๋วโดยสารนั้น จะเหมือน LRT ทุกประการเลยค่ะ รวมไปถึงใช้เหรียญแบบเดียวกันเลย
และไม่ต้องห่วงว่าจะนั่งไปลงไม่ถูก เพราะทุกสถานีจะมีป้ายบอกแบบนี้เลยค่ะ
แถมมีโทรศัพท์ไว้สำหรับเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย
ส่วนหน้าตาของเจ้ารถโมโนเรล ก็เป็นแบบนี้ค่ะ ใครไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น อธิบายง่ายๆ คือจะมีลักษณะคล้ายๆ รถรางในสวนสนุกแหละค่ะ ด้านในจะมีห้องคนขับ (บังคับด้วยระบบคอมพิวเตอร์) ในส่วนของห้องโดยสาร ก็จะมีที่นั่งอยู่พอสมควร และมีที่ว่างพอให้ยืนได้
แถมมีโทรศัพท์ไว้สำหรับเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย
ส่วนหน้าตาของเจ้ารถโมโนเรล ก็เป็นแบบนี้ค่ะ ใครไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น อธิบายง่ายๆ คือจะมีลักษณะคล้ายๆ รถรางในสวนสนุกแหละค่ะ ด้านในจะมีห้องคนขับ (บังคับด้วยระบบคอมพิวเตอร์) ในส่วนของห้องโดยสาร ก็จะมีที่นั่งอยู่พอสมควร และมีที่ว่างพอให้ยืนได้
ภายในรถก็จะมีเส้นทางของสถานีบอก ว่ารถคันนี้จะวิ่งผ่านสถานีอะไรบ้าง และเมื่อถึงจุดจอดแต่ละสถานี ก็จะมีเสียงประกาศบอกเป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน (หายห่วง ไม่ต้องกลัวลงไม่ถูก)
เวลาเดินรถ จากสถานี KL Sentral ไปยัง Titiwangsa เริ่มตั้งแต่ 6:00 ไปจนถึง 23:30
และจากสถานี Titiwangsa ไปยัง KL Sentral เริ่มตั้งแต่ 6:00 ไปจนถึง 23:50 ค่ะ
ค่าบริการ จะเริ่มต้นที่ 0.70 ริงกิต (หรือ 70 เซน) เช่นเดียวกัน
สำหรับรถบัส หรือรถเมล์นั้น มินเองไม่ได้ใช้บริการเลยค่ะ เพราะ LRT กับ Monorail สะดวกกว่ามาก ออกจากที่พักมาก็เดินมาเจอสถานีโมโนเรลแล้ว รถเมล์จึงไม่มีความจำเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าใครอยากลองก็จัดไปค่ะ เช็คเส้นทางรถบัส ได้ที่นี่
เวลาเดินรถ 6:00 - 23:00
ค่าบริการ จะถูกกว่าการเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ คือเริ่มที่ 0.50 ริงกิต (หรือ 50 เซน = 5 บาท) เท่านั้นเอง
ทิ้งท้ายเอนทรี่ยาวๆ นี้ ด้วยภาพรถเมล์ของมาเลเซียนะคะ สำหรับเอนทรี่หน้า จะพาไปช้อปปิ้งย่านบูกิต บินตังกันจ้าาาา
โทดนะครับคุณมิน คุณมินอยู่สถานี Dang Wangi และหากว่าจะไปสถานี KL Sentral ก็ไปยืนรอที่ Platform 1 / อันที่จริง Platform 2 หรือป่าวตามรูป แต่ว่าวันนั้น มินกำลังจะไปตึกเปรโตนาส ซึ่งจะอยู่สถานี KLCC เลยต้องมายืนรอที่ Platform 2 /อันที่จริง Platform 1 หรือป่าวครับ
ตอบลบอ้อ เขียนสลับกันค่ะ >.< ขอบคุณคับ แก้ก่อนๆ
ลบสวัสดีครับ
ตอบลบสอบถามราคาหน่อยครับว่านั่งรถไฟจากสนามบินไป โรงแรม my hotel @ kl sentral ราคาประมาณกี่บาท แฟนบอก ประมาณ 55 myr เป็นเงินไทย 550 บาทได้ จริงเหรอครับ แพงมากๆเลยอ่ะ หรือแฟนผมเข้าใจผิด
สวัสดีครับ
ตอบลบสอบถามราคาหน่อยครับว่านั่งรถไฟจากสนามบินไป โรงแรม my hotel @ kl sentral ราคาประมาณกี่บาท แฟนบอก ประมาณ 55 myr เป็นเงินไทย 550 บาทได้ จริงเหรอครับ แพงมากๆเลยอ่ะ หรือแฟนผมเข้าใจผิด
จริงครับ ผมนั่งล่าสุดช่วงเดือนกรกฎา 2017 ราคา 55 RM แพงมากแต่เร็วดี ...
ตอบลบ