28 พฤษภาคม 2556

เดินทางไปปูซานด้วยรถไฟมูกุงฮวา


*อัพเดทข้อมูล 28 กันยายน 2015

มาดูอีกวิธีที่เดินทางไปปูซานได้ก็คือ รถไฟแบบธรรมดา สายมูกุงฮวา (Mugunghwa) กันค่ะ วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบ มีเวลาเหลือเฟือ และงบประมาณจำกัดมากๆ เพราะราคาจะถูกกว่า KTX


ด้านในรถไฟมูกุงฮวา

มูกุงฮวา (무궁화) เป็นชื่อของ "ดอกไม้ประจำชาติเกาหลี" นั่นเองค่ะ หน้าตาของดอกไม้เป็นแบบนี้ค่ะ



สำหรับรถไฟมูกุงฮวา จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง - 5 ชั่งโมงเศษๆ มีวันละ 15 เที่ยว
ขาไป มีตั้งแต่เที่ยว 05:50-22:50 ขากลับ มีตั้งแต่เที่ยว 05:13-23:10

ค่าโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด เที่ยวละ 28600 วอน (สายที่ไปยังปูซานจะไม่มีแบบเฟิร์สคลาส) ขากลับรถเที่ยวสุดท้ายจะถึงโซลเวลา 4:27 (และรถไฟใต้ดินเปิดประมาณ 5:30) เพราะฉะนั้นถ้าใครกลับดึก ขึ้นรถเที่ยวสุดท้าย พอมาถึงโซลแล้วอาจจะต้องนั่งรอในสถานีเพื่อรอรถไฟใต้ดินเปิดถึงจะเดินทางต่อได้นะคะ เว้นว่าใครจะเรียกแท็กซี่ก็ตามสะดวก 

วิธีการซื้อตั๋ว (ทั้งรถไฟสายมูกุงฮวา และ KTX)

สามารถหาซื้อตั๋วได้เลยที่สถานีรถไฟ ถ้าในโซลก็ที่ Seoul Station (รถไฟที่ออกจากโซลไปยังปูซาน จะต้องมาขึ้นที่สถานีนี้เท่านั้น) ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล ก็มักจะไม่เต็มค่ะ แต่ถ้าเดินทางในช่วงวันหยุดยาว เช่นวันซอลลัล หรือวันชูซอก อาจจะเต็มได้ค่ะ เช็ควันหยุดเกาหลีได้ที่นี่

การซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ในสถานีนั้น สามารถจ่ายเงินสด หรือบัตรเครดิตก็ได้ หรือใครอยากจะจองไปก่อน
ก็จองที่เว็บไซต์ www.letskorail.com เช่นกัน ในเว็บไซต์จะมีเวลาเดินรถให้ดูอย่างละเอียด เพื่อวางแผนได้อย่างแม่นยำ แต่จะต้องทำการจองแล้วจ่ายเงินในทันที และจ่ายด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น


ตัวอย่างการจองตั๋วรถไฟมูกุงฮวา (ปัจจุบันหน้าเว็บมีการเปลี่ยนแปลงไปนะคะ)

หลังจากกดเลือกภาษาอังกฤษ ที่มุมบนขวามือแล้วนั้น ก็จะเข้าสู่หน้านี้ เช่นเดียวกันกับ การจองตั๋ว KR PASS ที่เอ่ยไปในเอนทรี่ก่อน แต่ให้กดเลือกที่เมนูด้านบนตรงคำว่า Booking แล้วเลือก Book Online

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


จากนั้นจะเข้าสู่หน้า Booking ก็กรอกข้อมูล วันที่ต้องการเดินทาง เลือกต้นทางคือ Seoul และปลายทางคือ Busan จากนั้นเลือกประเภทของรถไฟ ในกรณีนี้ให้เลือก Mugunghwa ตามภาพ (หรือใครจะจอง KTX ก็ได้ แต่มินไม่แนะนำ เพราะถ้าคิดจะนั่ง KTX ให้จองตั๋ว KR PASS จะคุ้มกว่ามากๆๆ) จากนั้นเลือกจำนวนผู้โดยสาร (ถ้ามีเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไปด้วย ให้เลือกตรง Child เพราะจะได้ตั๋วราคาถูกกว่าผู้ใหญ่) แล้วกด Inquire เพื่อไปยังหน้าต่อไป

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


จากนั้นก็จะมีตารางเที่ยวของรถไฟขึ้นมาให้เลือก ก็เลือกดูเวลาตามที่เราต้องการได้เลยค่ะ (กด Next เพื่อดูตารางในหน้าถัดไปได้) ตัวอย่าง มินจะเลือกเที่ยวแรกเช้าสุด พอเลือกได้แล้วก็กด Select ได้เลย

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


และหากจะดูค่าโดยสารว่าเท่าไหร่ ก็สามารถกดที่รูปแว่นขยายตรงคำว่า Fare ได้เลยค่ะ ซึ่งแต่ละเที่ยว และแต่ละวัน ราคาจะไม่เท่ากัน พอกดไปแล้ว ก็จะขึ้นหน้าต่าง pop-up ขึ้นมา แสดงรายละเอียดสายรถไฟ จุดหมายปลายทาง วันที่เดินทาง และค่าโดยสารตามภาพค่ะ โดยให้ดูราคาที่ช่อง Standard Class นะคะ (ในกรอบสีแดง) เพราะนี่คือราคาตั๋วนั่งแบบชั้นปกติ มินลองเลือกตั๋วผู้ใหญ่ 1 ที่ และเด็ก 1 ที่ค่ะ ส่วนราคาในช่อง Standing นั้น เป็นราคาของ "ตั๋วยืน" ค่ะ *ปัจจุบันค่าโดยสารมีการเปลี่ยนแปลง

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


จากนั้นพอเลือกเที่ยวรถได้แล้ว ก็จะพาเราไปยังหน้ากรอกรายละเอียดของผู้จอง (ซึ่งไม่จำเป็นต้องกรอกผู้โดยสารครบทุกคนเหมือนการจอง KR PASS) จากนั้นคลิก Next ที่มุมล่างขวามือ

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


และต่อไป ก็จะมายังหน้า Payment ค่ะ ก่อนจะกรอกข้อมูลบัตรเครดิตลงไปนั้น ให้ดูรายละเอียดด้านบนให้ถูกต้องก่อนนะคะ เพราะถ้าชำระเงินไปแล้ว จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนจะดีกว่าค่ะ 

จากในภาพจะมีรายละเอียดของเที่ยวรถไฟที่เราเลือกทั้งหมด ตั้งแต่สายรถไฟ ที่นั่ง วันเวลาเดินทาง และเวลาถึงที่หมาย รวมถึงค่าโดยสารทั้งหมดที่ต้องจ่าย ก็คือ 40900 วอน =  1,227 บาท (ราคาเที่ยวเดียวเฉพาะขาไป) เมื่อตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็กรอกข้อมูลบัตรเครดิต แล้วกด Next ค่ะ

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


สุดท้ายก็จะไปยังหน้าคอนเฟิร์มการจองนะคะ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ จากนั้นระบบจะส่ง E-Ticket มายังอีเมล์ที่กรอกไปนั่นเอง

วิธีการรับตั๋ว 
ปริ๊น E-Ticket พร้อมยื่นพาสสปอต (ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต) ไปรับตั๋วได้ที่สถานีเลย ซึ่งในโซลจะต้องขึ้นรถไฟที่สถานี Seoul Station เท่านั้น และที่ปูซาน ก็ต้องขึ้นที่สถานี Busan Station เช่นกัน

การยกเลิกการจอง
สามารถยกเลิกผ่านทางเว็บไซต์ได้ในหัวข้อ My reservation ค่ะ แต่จะต้องทำการยกเลิกก่อนถึงกำหนดวันเดินทาง โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวันที่ยกเลิกค่ะ

การเปลี่ยนแปลงเวลาเดินทาง
- หากไม่สามารถเดินทางตามเวลาที่จองไว้ได้ และต้องการเปลี่ยนเที่ยวรถไฟนั้น สามารถทำได้โดยไปติดต่อที่ช่องขายตั๋วที่สถานี และแจ้งเวลาเดินทางใหม่ พร้อมเสียค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยในการเปลี่ยนตั๋ว 
- หากไม่สามารถที่จะเดินทางได้เลย (ต้องการยกเลิกตั๋ว) สามารถติดต่อขอคืนเงินได้ โดยจะเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเช่นกัน 
- แต่หากว่าเดินทางมาถึงสถานีช้ากว่ากำหนด (รถไฟออกไปแล้ว) จะไม่สามารถขอเปลี่ยนตั๋วได้ต้องซื้อตั๋วใหม่เท่านั้น! แต่สามารถนำไป refund เงินคืนได้ โดยจะเสียค่าธรรมเนียมตามกำหนด 

*ซึ่งทั้งหมดนี้ จะไม่สามารถทำรายการผ่านทางเว็บไซต์ได้ จะต้องไปติดต่อที่เคาน์เตอร์ในสถานีรถไฟเท่านั้น

ค่าธรรมเนียม 

ในกรณีการยกเลิกการจองผ่านทางเว็บไซต์
ก่อนวันเดินทาง 2 วัน จะไม่เสียค่าธรรมเนียม
ก่อนเดินทาง 1 วัน ถึง 1 ชั่วโมง เสียค่าธรรมเนียม 400 วอน 
ก่อนเดินทาง 1 ชั่วโมง จนถึงเวลาที่รถไฟออก เสียค่าธรรมเนียม 10% ของราคาตั๋ว
หลังจากรถไฟออกไปแล้ว จะเสียค่าธรรมเนียม 15% ของราคาตั๋ว

           
ในกรณีการยกเลิกตั๋ว และขอคืนเงินที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว
ก่อนวันเดินทาง 2 วัน เสียค่าธรรมเนียม 400 วอน
ก่อนเดินทาง 1 วัน ถึง 1 ชั่วโมง เสียค่าธรรมเนียม 5% ของราคาตั๋ว 
ก่อนเดินทาง 1 ชั่วโมง จนถึงเวลาที่รถไฟออก เสียค่าธรรมเนียม 10% ของราคาตั๋ว
และหลังจากรถไฟออกไปแล้ว จะเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 15-70% ของราคาตั๋ว แล้วแต่ระยะเวลาของรถไฟ (ถ้าออกไปนานแล้ว จะเสียแพงนั่นเอง)


ส่วนการจองตั๋วขากลับ ก็ทำแบบเดียวกันค่ะ เพียงแต่เลือกต้นทางเป็น Busan และ ปลายทางเป็น Seoul แบบนี้เอง ซึ่งถ้าดูตามตาราง หากเลือกกลับเที่ยวสุดท้าย (เผื่อใครอยากใช้เวลาเที่ยวปูซานให้คุ้ม) รถไฟจะออกเวลา 23:10 และถึงโซล 4:27 ค่ะ 

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ส่วนค่าโดยสารขากลับนั้น ก็ไม่ต่างจากขามาค่ะ 

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

นี่ก็เป็นวิธีการเดินทางด้วยรถไฟมูกุงฮวา อีกหนึ่งทางเลือก พร้อมวิธีการจองตั๋วโดยละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ที่มินนำมาแนะนำกันในวันนี้นะคะ ซึ่งไม่ใช่แค่ไปยังปูซานนะคะ ยังสามารถไปได้แทบทุกเมืองทั่วเกาหลีเลย 

ส่วนตัวแล้วที่มินเคยนั่งมา ทั้งแบบเฟิร์สคลาส และแบบธรรมดา ต้องบอกจากใจเลยว่า แบบธรรมดานั้น หากนั่งไปปูซาน 5 ชั่วโมงกว่าๆ จะเมื่อยมากกกกก และไม่สบายตัวค่ะ (เหนื่อยและเพลียพอสมควร) แต่ถ้าเฟิร์สคลาส เบาะจะกว้างมาก และปรับเอนนอนได้ สบายสุดๆ ซึ่งมินเคยนั่งไปจองดงจินค่ะ (แต่ไปปูซานไม่มีเฟิร์สคลาส) เพราะฉะนั้น หากพอจะมีทุนทรัพย์ มินว่ายอมเสียเงินแพงกว่า เพื่อสบายกว่าโดยการไปด้วยรถไฟ KTX จะดีกว่านะคะ แม้ว่าจะไม่ถึงกับปรับนอนแบบมูกุงฮวาได้ แต่ก็ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ก็จะทำให้เราไม่เมื่อยสักเท่าไหร่ และทำให้เราไม่เหนื่อยจากการเดินทางด้วย สู้เก็บแรงไว้เที่ยวจะดีกว่าค่ะ


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 2





2 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ถ้าเรานั่งมูกุงฮวา แล้วมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้วย(28") ต้องเสียค่ากระเป๋าเพิ่มมั้ยคะ แล้วสามารถเก็บกระเป๋าไว้ตรงไหนได้บ้างคะ?

    ตอบลบ