รีวิว Namsan Guesthouse 4

ทุกคนคงจะรู้จักที่พักสุดฮิตของคนไทยอย่าง Namsan Guesthouse กันดีอยู่แล้วนะคะ เพราะด้วยปากต่อปาก และการบอกต่อจากคนไทยที่เคยไปพัก ทำให้ใครๆ ที่จะไปเที่ยวเกาหลี มักจะนึกถึงที่พักที่นี้เป็นแห่งแรก ด้วยเพราะความสะดวกสบายของทำเลที่ตั้ง ที่อยู่ตรงข้ามกับมยองดงแบบเดินไม่กี่นาทีถึง! และความเป็นกันเองของสตาฟคนไทยที่คอยดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงเจ้าของที่เป็นคนไทยอย่างคุณผิงที่พร้อมอ้าแขนรับชาวไทยอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นที่ที่คนไทยหลายคน อยากไปพัก

มินได้มีโอกาสไปพักที่ Namsan Guesthouse มาค่ะ ก็ต้องขอบคุณคุณผิงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ที่ได้เชิญมินไปพักและให้การดูแลต้อนรับอย่างดี จนต้องกลับมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักที่นี่กันมากยิ่งขึ้น มินได้ไปพักที่  Namsan Guesthouse 4 ที่เพิ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่นานค่ะ ตามมาดูรีวิวกันเลย

ที่บริเวณส่วนกลาง เราก็จะพบกับเคาน์เตอร์ ที่สามารถเช็คอินได้ที่นี่ รวมถึงสอบถามข้อมูลต่างๆ จากสตาฟได้ตลอดเวลา สตาฟที่นี่มีหลายคนก็ทำงานสลับสับเปลี่ยนกันไป ส่วนสตาฟคนไทยชื่อว่า น้องจี ค่ะ เป็นชายหนุ่มน่ารักทีเดียว

ที่บริเวณห้องส่วนกลางนี้ ติดกับเคาน์เตอร์ก็จะเป็นโซนครัวและโต๊ะไว้สำหรับนั่งทานอาหารได้ค่ะ

อาหารที่มีไว้บริการในครัวก็จะมีบะหมี่ถ้วย ขนมปัง กาแฟ และน้ำดื่ม ซึ่งที่นี่ดีมากตรงที่ว่า สามารถทานได้ตลอด 24 ชม.เลย

นอกจากนี้ในครัวยังมีตู้เย็นไว้สำหรับแช่ของได้ ที่ตู้จะมีสติ๊กเกอร์ไว้ให้เราเขียนชื่อตัวเองแปะลงบนของที่เราเอามาแช่ได้ด้วยล่ะ

หรือใครอยากจะหาแผนที่ต่างๆ ก็หยิบได้ตามสะดวกเลยค่ะ 

ทีนี้เรามาดูบริการของที่นี่กันบ้างนะคะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากบริการคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต สำหรับใครที่ต้องการใช้ปริ๊นเตอร์ ก็ติดต่อสตาฟที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ

ส่วน WiFi นั้น ที่มีก็มีเช่นกัน และสัญญาณก็แรงไปถึงห้องพักทุกห้องและทุกชั้นเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ใครที่ต้องการเช่าเราท์เตอร์ปล่อยสัญญาณ WiFi ก็สามารถติดต่อเช่าที่นี่ได้เลย เผื่อว่าลืมเช่ามาจากที่สนามบินนะคะ ส่วนราคาก็สอบถามที่เคาน์เตอร์เช่นกัน

และก็ยังมีบริการโทรศัพท์ข้ามประเทศฟรี (ผ่านทางสไกป์) อีกด้วย ใครมีธุระ หรืออยากเซย์ฮัลโหลหาใครที่ประเทศไทย ก็มาใช้กันได้

บริการดีๆ สำหรับแขกที่มาพักยังไม่หมดเท่านี้นะคะ เพราะยังมีบริการสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่มารับประทานที่ที่พักได้ อาทิ ไก่ทอด จาจังมยอน หรือคูปองส่วนลดร้านอาหารต่างๆ ก็สามารถหาได้ที่นี่เช่นกัน รวมถึงใครอยากส่งพัสดุกลับประเทศไทย ก็เรียกใช้บริการได้ โดยทางที่พักจะเป็นคนจัดการส่งพัสดุให้คุณเอง ไม่ต้องเหนื่อยไปไปรษณีย์ แต่จะมีแค่บริการ EMS เท่านั้นนะคะ (ไม่มีทางเรือ และทางเครื่องบิน) ราคาก็มีติดบอกไว้เสร็จสรรพ ว่านน.กี่กิโล ราคาเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเอาใจกันสุดๆ

และถ้าใครพักชั้นบน ที่นี่เขามีลิฟต์ขนกระเป๋าให้ด้วยนะคะ สามารถใช้บริการเองได้เลย ตั้งแต่เวลา 7:00-24:00 เพราะว่าต้องเดินขึ้นบันได ใครแบกกระเป๋าหนักๆ มา อาจต้องพึ่งพาลิฟต์นี้ค่ะ 

สุดท้ายกับบริการที่นี่ ก็คือ มีชุดฮันบกให้ลองใส่ เผื่อใครอยากใส่ถ่ายรูปสวยๆ ไม่ต้องไปที่อื่นเลย เพราะที่นี่มีให้บริการเรียบร้อย แถมยังมีเครื่องชั่งน้ำหนักด้วย! เอากะเขาสิ!

คราวนี้เรามาดูห้องพักกันบ้างนะคะ นี่เป็นทางเดินไปห้องพัก มินพักที่ชั้นสองค่ะ ก็เดินขึ้นบันไดมาเลย

มินพักห้อง 206 ก็เดินตามลูกศรไปค่ะ

ก่อนอื่นต้องถอดรองเท้าเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ก่อนนะคะ ใส่ตามเบอร์ห้องเลย ห้องใครห้องมัน

ถึงห้องพักแล้ว!

ห้องที่มินพักจะเป็นห้องคู่ มีขนาดกว้างพอสมควรทีเดียว ชนิดที่ว่ามีพื้นที่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ สองใบได้สบายๆ และเหลือพื้นที่ให้เดินให้นั่งได้ค่ะ

ในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีแอร์ มีไม้แขวนเสื้อ มีผ้าเช็ดตัว (ผืนเล็ก) ทีวี และก็มีตัวแปลงปลั๊ก หรืออะแดปเตอร์ให้ด้วยล่ะค่ะ ดีจริงๆ (สำหรับใครที่ไม่ได้มาพักที่นี่ ก็ต้องเตรียมตัวแปลงปลั๊กหน้าตาแบบนี้ไปด้วยนะคะ) 

ละก็มีไดร์เป่าผม หวี และกระดาษทิชชู่ให้ 

คราวนี้มาดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ที่นี่ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวหมด (ยกเว้นเพียงห้องดอร์ม) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ห้องน้ำมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ และไม่ถึงกับคับแคบจนเกินไปนัก 

ที่นี่จะมีแชมพู และครีมอาบน้ำให้ด้วย รวมถึงยาสีฟัน เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องพกอะไรมาเองเลยล่ะค่ะ สะดวกมากๆ

ส่วนนี่เป็นกฏระเบียบของที่พัก ที่ติดไว้ที่ประตู หลักๆ เลยก็คือ "ห้ามสูบบุหรี่" และก็เวลาเช็คเอาท์คือ ก่อน 11:00 ใครสนใจพักห้องคู่ก็ราคาคืนละ 70000 วอนต่อห้องต่อคืน (ประมาณ 2100 บาท) ค่ะ

จากห้องคู่ เราไปดูห้องดอร์ม หรือห้องรวมกันบ้างดีกว่า เพราะที่นี่มีห้องพักแบบดอร์มที่แตกต่างจากสาขาอื่นๆ นั่นเองค่ะ 

ห้องดอร์มที่นี่จะเป็นคล้ายๆ ห้องแคปซูลที่ญี่ปุ่น คือกั้นเป็นห้องใครห้องมัน ค่อนข้างจะส่วนตัวมากๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบที่แคบๆ ก็อาจจะอึดอัดนิดนึง

ภายในห้อง(ส่วนตัว) ก็จะมีทีวีทุกห้องเลยนะคะ เริ่ดจริงๆ

ในห้องจะมีล็อกเกอร์ให้ด้วย ไว้สำหรับเก็บของสำคัญ

ส่วนห้องน้ำนั้น จะใช้ห้องน้ำรวมค่ะ ห้องน้ำก็จะอยู่ภายในห้องนั่นเอง มีขนาดกว้างพอสมควรเลยล่ะ และด้านในก็มีแชมพู ครีมอาบน้ำ และยาสีฟัน เตรียมไว้ให้พร้อมเช่นกันค่ะ

หากใครอยากจะประหยัดขึ้นนิดนึง หรือว่ามาพักคนเดียว ก็เลือกพักห้องดอร์มแบบนี้ก็ได้นะคะ ที่นี่เขามีแยกห้องชาย-หญิง ให้ด้วย จะได้ไม่เคอะเขินมากนัก ราคาก็คืนละ 30000 วอนต่อคนต่อคืน (ประมาณ 900 บาท) ก็ถือว่าไม่แพงมากค่ะ

ใครที่สนใจมาพักที่นี่ ก็มีวิธีเดินทางมาจากสนามบินได้ไม่ยาก ทั้งรถบัสและรถไฟใต้ดิน ดูเวลาเดินรถตามภาพเลย

หรือถ้าใครมาพักแล้ว ขากลับอยากจะใช้บริการแท็กซี่ไปสนามบินแทนเพราะสัมภาระเยอะ ก็แจ้งทางสตาฟให้เรียกรถให้เราได้เลย

นี่ก็เป็นรีวิวฉบับเต็มๆ ของ Namsan Guesthouse 4 ที่มินได้ไปพักมานะคะ ก็หวังว่าน่าจะช่วยประกอบการตัดสินใจให้ใครหลายคนได้ หรือเป็นทางเลือกของคนที่กำลังมองหาที่พักที่เดินทางสะดวก อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ก็ต้องบอกว่านัมซานเกสเฮ้าส์ตอบโจทย์ข้อนี้ได้ค่ะ ซึ่งนัมซานเกสเฮ้าส์นั้นมีหลายสาขา และอยู่ใกล้ๆ กันเลย และที่ Namsan Guesthouse 2 ก็จะมีปาร์ตี้กันบ่อยๆ ที่แขกทุกคนไม่ว่าจะพักสาขาไหนที่มยองดงก็สามารถมาจอยกันได้ ซึ่งที่ Namsan Guesthouse 2 ก็จะมีในส่วนของชั้นดาดฟ้าที่ให้ขึ้นมานั่งเล่นรึชมวิวสวยๆ ของโซลทาวเวอร์ได้อีกด้วยล่ะค่ะ

ใครสนใจพักห้องแบบไหน สาขาไหน ก็เลือกได้ตามชอบใจ ตอนนี้เขาก็เพิ่งจะเปิดสาขาที่ 5 ที่มยองดงแล้วด้วย ก็ลองคลิกเข้าไปดูรายละเอียด หรือจองที่พักได้ที่เว็บไซต์ www.namsanguesthouse.com หรือกดติดตามแฟนเพจในเฟซบุ๊คเพื่อจะได้ไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ พร้อมสอบถามข้อมูลต่างๆ จากสตาฟคนไทยได้ที่ www.facebook.com/namsanguesthousethaifamily ค่ะ

และจากที่มินได้ไปพักมา ก็ต้องบอกว่าที่นี่ค่อนข้างจะสะดวกสบายมากๆ ทั้งทำเล ที่ตั้ง และการเดินทาง เพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกับมยองดงย่านสุดฮิต เรียกได้ว่าไม่เงียบไม่เหงาเลยล่ะค่ะ แถมน่าจะถูกใจชาช้อปมากๆ และร้านอาหารก็เยอะแยะมากมาย ปากซอยก็มีร้านสะดวกซื้อ ไม่ต้องกลัวอดกันเลยทีเดียว หากใครกำลังมองหาที่พักที่มีครบทุกอย่างอย่างที่ต้องการ Namsan Guesthouse น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่มินแนะนำค่ะ