แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บัตรโดยสารต่างๆ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บัตรโดยสารต่างๆ แสดงบทความทั้งหมด

22 ธันวาคม 2557

บัตร Seoul City Pass Plus


มารู้จักกับบัตรโดยสารในโซลกันอีกสักหนึ่งชนิดนะคะ บัตรนี้มีชื่อเรียกว่า Seoul City Pass Plus Card บัตรที่เป็นมากกว่าบัตรโดยสาร เพราะมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ พ่วงมาด้วยค่ะ

Photo by @KittyYunho0602


Seoul City Pass Plus Card เป็นบัตรโดยสารที่มีฟังก์ชั่นของ T-money  คือเป็นบัตรแบบเติมเงิน ที่ใช้จ่ายค่าโดยสารในโซลได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ แท็กซี่ รถไฟใต้ดิน รวมถึงพิเศษกว่าทีมันนี่คือ สามารถจ่ายค่ารถไฟ (KTX, เซมาอึล, มูกุงฮวา) ได้ด้วย โดยสามารถเติมเงินในบัตรได้สูงสุดถึง 500,000 วอน นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวที่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วกรุงโซล อาทิ ใช้จ่ายค่าเข้าชมพระราชวังสำคัญทั้ง 4 พระราชวังได้ รวมถึงศาลเจ้าจงมโย และยังใช้จ่ายแทนเงินสดที่ร้านสะดวกซื้อต่างๆ ได้เช่นกัน

บัตรและคูปอง


นอกจากนี้บัตรนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนลด 5% สำหรับบริการ Seoul City Tour Bus ส่วนลด Seoul Tower 10% ส่วนลดเข้าชมการแสดงต่างๆ เช่น Miso, Jump 10% และส่วนลดอื่นๆ อีก อาทิ ร้านค้า ร้านแว่นตา และสถานเสริมความงาม ซึ่งบัตรนี้สามารถคืนเงินได้เมื่อใช้ไม่หมด และจะได้ค่าธรรมเนียมบัตรคืน 500 วอนด้วย

สถานที่ซื้อบัตร เติมเงิน และคืนบัตร
ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ อย่าง GS25, CU, Mini Stop, Buy The Way และ 7-eleven ที่มีโลโก้ T-money แบบในภาพ ราคาบัตร 3000 วอน ซึ่งหากจะใช้คูปองส่วนลด จะต้องใช้บัตรคู่กับคูปองที่แนบมากับบัตรนั่นเอง


สำหรับบัตร Seoul City Pass Plus นี้นั้น นอกจากจะสะดวกในการใช้แล้ว ยังครอบคลุมการเดินทางต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เรียกว่าบัตรเดียวเอาอยู่ แถมยังมีคูปองส่วนลดต่างๆ อีกด้วย ก็นับได้ว่าบัตรนี้ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ในการเลือกบัตรโดยสารที่เหมาะกับการใข้งานของตัวเองค่ะ

26 พฤศจิกายน 2557

บัตร Railplus


มากันอีกหนึ่งอย่าง กับบัตรโดยสารในเกาหลี วันนี้มินขอเสนอบัตรที่มีชื่อว่า Railplus Card ค่ะ บัตรนี้เริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าใหม่แกะกล่องเลยล่ะ



Railplus Card เป็นบัตรโดยสารที่มีความพิเศษกว่าบัตรชนิดอื่นๆ ตรงที่ว่า บัตรนี้นอกจากจะใช้จ่ายค่าบริการรถไฟใต้ดินในโซลและปูซานได้ทุกสาย รวมทั้ง AREX ได้แล้วนั้น ยังสามารถใช้จ่ายค่ารถเมล์ทั้งในโซลและเมืองอื่นๆ (ยกเว้นเมือง Gangjin, Gurye, Naju, Wando, Jindom Chuncheon และ Jeju) รวมถึงสามารถใช้จ่ายค่ารถไฟ และค่าทางด่วน (สำหรับคนที่ใช้รถยนต์) ได้ด้วยล่ะค่ะ แต่ไม่สามารถใช้จ่ายค่าแท็กซี่ได้ บัตรนี้มีไว้ให้ชาวเกาหลีและชาวต่างชาติใช้ เป็นบัตรแบบเติมเงิน ราคาบัตร 2500 วอน

สถานที่ซื้อบัตร
สามารถซื้อบัตรได้ที่สถานีรถไฟ (ไม่ใช่รถไฟใต้ดินนะคะ) และร้านสะดวกซื้อต่างๆ

สถานที่เติมเงิน
สามารถเติมเงินได้จากตู้อัตโนมัติในสถานีรถไฟ สถานีรถไฟใต้ดินสาย 1-8 และสาย Incheon รวมถึงร้านสะดวกซื้อ

นอกจากนี้เงินที่เติมในบัตร ยังสามารถใช้จ่ายแทนเงินสด สำหรับซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อ หรือจ่ายค่าจอดรถ ซึ่งใช้ได้เฉพาะในเมือง Seoul, Gwangmyeong, Daejeon, Dongdaegu, Ulsan, Singyeongju, Busan, Changwon และ Masan ซึ่งในอนาคตเขาบอกไว้ว่า จะขยายพื้นที่ในการใช้บัตรให้ครอบคลุมทั่วประเทศค่ะ

สามารถอ่านรานละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ (ภาษาเกาหลี)
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ +82-2-1599-7777


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr

25 พฤศจิกายน 2557

บัตร M-pass Jeju บัตรโดยสารสำหรับเที่ยวเชจู


บัตรโดยสารที่ใช้เดินทางขนส่งสาธารณะในเกาหลีนั้น มีหลายแบบ หลายประเภทให้เลือก หลายคนก็คงจะรู้จักกันไปบ้างแล้ว จากเนื้อหาในบล็อกนี้ที่มินเคยเขียนอธิบายไว้โดยละเอียด แต่ส่วนมากมักจะใช้ได้ในโซล หรือเมืองใหญ่ๆ อย่างปูซาน แทกู เป็นต้น แต่คราวนี้เขามีบัตรออกใหม่ ที่สามารถใช้ที่เกาะเชจูได้ด้วยล่ะค่ะ ดีจริงๆ บัตรนี้ชื่อว่า M-pass Card (For Jeju Island)


M-pass Card  เป็นบัตรขนส่งสาธารณะที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะบนเกาะเชจูได้ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายและเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2014 เป็นต้นไป และจะมีวางจำหน่ายที่เชจูเท่านั้น

บัตรสามารถใช้เติมเงินได้ เหมือนบัตรโดยสารทั่วๆ ไป ค่ะ และใช้สำหรับการแปะจ่ายเมื่อต้องใช้บริการรถเมล์ และรถแอร์พอร์ตบัส (ที่เกาะเชจูไม่มีรถไฟใต้ดิน) อัตราค่าโดยสารก็จะเท่ากันกับบัตรโดยสารอื่นๆ

สำหรับประเภทของบัตรจะมีดังนี้
บัตรโดยสาร 1 วัน (One-day pass) ราคา 10000 วอน
บัตรโดยสาร 2 วัน (Two-day pass) ราคา 18000 วอน
บัตรโดยสาร 3 วัน (Three-day pass) ราคา 25500 วอน
บัตรโดยสาร 5 วัน (Five-day pass) ราคา 42500 วอน
บัตรโดยสาร 7 วัน (Seven-day pass) ราคา 59500 วอน

นอกจากนี้ผู้ถือบัตรยังได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเชจูอีกด้วยค่ะ

และที่สำคัญ บัตร M-Pass นี้ไม่ได้ใช้ที่เกาะเชจูได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้กับรถไฟใต้ดินในโซลได้ด้วย แต่เฉพาะสาย 1-9 เท่านั้น (สาย Bundang, Sinbundang, Incheon, Jungang, Gyengui, Kyeongchun และ Suln ไม่สามารถใช้ได้) รวมถึงสามารถใช้กับ AREX (รถไฟใต้ดินสายสนามบิน) ได้ด้วยเช่นกัน แต่เฉพาะแบบธรรมดา (Commuter) เท่านั้น แบบด่วน (Express) ไม่สามารถใช้ได้ค่ะ

สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวเชจูด้วยแล้วล่ะก็ การมีบัตรนี้ไว้น่าจะสะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ แถมยังพกกลับมาใช้ที่โซลได้อีกด้วย ไม่ต้องมีบัตรโดยสารชนิดอื่นเลย ใบนี้ใบเดียวจบ สำหรับ บัตร M-Pass นั้น สามารถซื้อได้ที่ Tourist Information Center ที่อยู่ภายในสนามบินเชจูค่ะ

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr

7 กันยายน 2557

บัตร Cash Bee


วันนี้มินมีอีกหนึ่งบัตรโดยสารในเกาหลีที่เพิ่งออกใหมามาไม่นาน มาแนะนำให้ได้รู้จักกันนะคะ หลังจากที่เคยแนะนำถึง M-Pass Card ไปแล้ว สำหรับบัตรแบบใหม่ที่มินพูดถึงนี้ก็คือ Cash Bee Card ค่ะ

Photo by korealand.tistory.com  

Cash Bee Card เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้จ่ายค่าโดยสารต่างๆ ได้เหมือนบัตร T-money, บัตร Seoul City Pass Plus และ บัตร M-Pass แต่มีข้อจำกัดคือ บางชนิดของบัตรต้องใช้นอกโซลเท่านั้น เช่น ปูซาน แดกู คือไม่สามารถใช้ในโซลได้ แต่บางชนิดของบัตร ก็สามารถใช้ในโซลได้เช่นกัน

และเมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ที่ผ่านมา เขาได้มี Cash Bee Card แบบใหม่ คือ “One Card, All Pass” หน้าตาแบบในภาพ ซึ่งจะแตกต่างจากเดิมคือ บัตรนี้สามารถใช้จ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะทั้งรถเมล์ รถไฟใต้ดิน รถไฟ รถบัส และแท็กซี่ ได้ทั่วทุกภูมิภาคของเกาหลีเลยค่ะ สะดวกกว่าเดิมมากๆ



บัตร One Card, All Pass นั้น สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป เหมือนบัตรอื่นๆ รวมถึงวิธีการคืนบัตรก็จะเหมือนๆ กันกับบัตร T-money ทุกประการ เรียกง่ายๆ ว่า ทางเกาหลีกำลังจะเปลี่ยนจากบัตร T-money เป็นบัตร One Card, All Pass ทั้งหมดนั่นเอง ราคาบัตร  One Card, All Pass คือ 2,500-3,000 วอน แล้วแต่ชนิดบัตร (เด็ก,ผู้ใหญ่)

และตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2014 เป็นต้นไป จนถึงปี 2017 บัตร T-money จะแปรสภาพกลายเป็นบัตร “One Card, All Pass” โดยอัตโนมัติ ทันที และหลังจากนั้นไป มินคิดว่าน่าจะยกเลิกบัตร T-money ไปเลยนั่นเอง ใครที่มีบัตร T-money อยู่แล้วในตอนนี้ เมื่อนำไปใช้ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ไปจนถึงปี 2017 ก็สามารถใช้บัตรนี้แปะจ่ายค่าขนส่งสาธารณะได้เกือบทั่วทุกภูมิภาคของเกาหลีตามที่บอกไปเลยค่ะ ไม่ต้องซื้อบัตรใหม่ จนกว่าจะยกเลิกบัตร T-money ถึงตอนนั้นค่อยซื้อใหม่เป็นบัตร One Card, All Pass แทน ไม่งงกันใช่มั้ยเอ่ย

ใครไปเที่ยวเกาหลีในตอนนี้ ไม่ต้องงงว่า แล้วเราจะซื้อบัตรอะไรดี เพราะหากเดินเข้าไปซื้อบัตร T-money ที่ร้านสะดวกซื้อแล้วล่ะก็ เขาจะให้บัตรใหม่ One Card, All Pass มาแทนเลย จะเห็นได้ว่าทางเกาหลีกำลังเริ่มที่จะเปลี่ยนมาใช้บัตร One Card, All Pass แทนบัตร T-money ด้วยเพราะสะดวกและครอบคลุมพื้นที่ในการใช้มากกว่านั่นเองค่ะ

24 สิงหาคม 2557

บัตร M-Pass Seoul


ใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลี โดยเฉพาะในโซลนั้น ก็มักจะรู้จักกันดีอยู่แล้วกับ บัตร T-Money เพราะเป็นบัตรที่ใช้แปะจ่ายเวลาเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะต่างๆ ทั่วเมืองโซล รวมไปถึงที่ปูซานด้วย โดยมีลักษณะเป็นบัตรแบบเติมเงิน และมีส่วนลดในทุกๆ เที่ยวที่ใช้บริการรถไฟใต้ดินและรถเมล์ ด้วยส่วนลดเที่ยวละ 500 วอน แถมยังใช้จับจ่ายแทนเงินสดซื้อของในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11, CU และ GS25 (ต้องซื้อของราคา 1000 วอนขึ้นไป) ได้ด้วย

แต่นอกเหนือไปจากทีมันนี่แล้ว ยังคงมีบัตรโดยสารอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Seoul City Pass หรือในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น M-Pass Card ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้ตามการใช้งานกันอีกด้วยค่ะ



M-Pass Card จะคล้ายคลึงกับบัตร T-Money นั่นแหละค่ะ ต่างกันตรงที่ว่า บัตรนี้จะเป็นบัตรแบบเหมาจ่าย หรือเรียกง่ายๆ ว่าบัตรพาส (เหมือน KR PASS ทำนองนั้น) ซึ่งจะมีแบบ 1 วัน, 2 วัน, 3 วัน, 5 วัน และ 7 วัน ราคาก็ตามตารางด้านล่างเลยค่ะ


ส่วนการใช้งานนั้น จะต่างกันก็ตรงที่ บัตรนี้จะใช้บริการขนส่งสาธารณะได้วันละไม่เกิน 20 เที่ยว ยกตัวอย่าง 

ถ้าซื้อแบบ 1 day pass ราคา 10000 วอน (ประมาณ 320 บาท) จะใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือ AREX ไป-กลับสนามบินได้ 20 เที่ยว ภายใน 1 วัน

ถ้าซื้อแบบ 2 day pass ราคา 18000 วอน (ประมาณ 576 บาท) จะใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือ AREX ไป-กลับสนามบินได้ 40 เที่ยว ภายใน 2 วัน แบบนี้นั่นเองค่ะ

และบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้บัตรนี้ได้ก็ได้แก่ รถไฟใต้ดินโซล สาย 1-9, รถไฟใต้ดินอินชอน, รถไฟใต้ดิน AREX และรถเมล์ในโซลสายสีเขียว และสีน้ำเงิน

**บัตรนี้ไม่สามารถใช้ได้กับ รถไฟใต้ดินสาย Shinbundang, สาย Gyeongchun, รถไฟ AREX แบบด่วน (Express Train) และรถเมล์สายสีแดง


นอกจากนี้ บัตรนี้ยังสามารถใช้เติมเงินลงในบัตรแล้วใช้จ่ายแทนเงินสดได้ด้วย ทั้งจ่ายค่ารถแท็กซี่ทั่วประเทศ, ซื้อของในร้าน Home Plus ในโซล อินชอน และในจ.คยองกีโด ทุกสาขา, ใช้จ่ายในร้านกาแฟ Angel-in-us Coffee, Mister Donut และ Crown Bakery บางสาขา, ร้านอาหารฟาสฟู้ด McDonald's, Lotteria บางสาขา, ใช้จ่ายในร้านหนังสือ Kyobo บางสาขา, ใช้จ่ายในร้าน ETUDE HOUSE, THE FACE SHOP และ TONY MOLY บางสาขา รวมถึงใช้ซื้อของในร้านมินิมาร์ท ที่มีสัญลักษณ์ T-Money แบบนี้ ติดอยู่ที่ร้าน เช่นเดียวกับบัตรทีมันนี่ทั่วไปด้วยค่ะ โดยสามารถเติมเงินได้ที่ร้านมินิมาร์ททั้ง 7-11, CU, GS25, Ministop, Storyway และ By The Way รวมถึงเติมได้เองที่ตู้อัตโนมัติในสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วสามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้เลย สามารถเติมได้ครั้งละ 1000-90000 วอน และเติมได้สูงสุดไม่เกิน 500000 วอนค่ะ




สามารถเช็คร้านค้าต่างๆ ทั้งหมด ที่ใช้บัตร M-Pass ได้ที่นี่


เอกสิทธิ์พิเศษอีกอย่างนึงก็คือ สามารถใช้เป็นส่วนลดในการซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ อาทิ N Seoul Tower, Lotte World เป็นต้น สามารถดูได้จากตารางด้านล่างเลยค่ะ และยังสามารถใช้เป็นส่วนลด 5% สำหรับซื้อตั๋ว Seoul City Tour Bus ได้อีกด้วย (ส่วนลด City Tour Bus นี้ บัตร T-Money ก็ใช้ได้นะคะ)


สถานที่ในการซื้อบัตร
สามารถติดต่อซื้อบัตรนี้ได้ที่ Information Desk ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 1 สนามบินอินชอนที่เดียวเท่านั้น (เวลาทำการ 7:00-22:00) โดยกรอกเอกสารกับเจ้าหน้าที่ ชำระเงินค่าบัตรตามประเภทบัตรที่ต้องการ เพียงเท่านี้ก็ได้บัตรมาเรียบร้อย และสามารถเติมเงินสด พร้อมทั้งซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆ ได้ที่นี่ได้เลยเช่นกัน ส่วนการเติมเงินนั้น เติมได้ตั้งแต่ 1,000 วอน ถึง 90,000 วอน ต่อครั้ง และบัตร 1 ใบ จะสามารถเติมเงินสะสมได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 วอน

สถานที่ในการคืนบัตร
สามารถคืนได้ที่ Information Desk ที่สนามบินอินชอนเช่นกัน และที่บริเวณชั้น 1 ที่ Seoul City Tower (รถไฟใต้ดินสาย 1 หรือ 4 ลงสถานี Seoul Station ทางออกที่ 10) โดยจะได้เงินที่คงเหลือในบัตรคืน (เงินสดที่เติม) และได้ค่ามัดจำบัตร 3000 วอนคืนเช่นกัน แต่จะหักค่าธรรมเนียมบัตรไป 500 วอนนะคะ

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ส่วนคำถามที่ว่า แล้วควรใช้บัตรไหนดีกว่ากัน มินขอให้ดูจุดประสงค์และการใช้งานของแต่ละคนดีกว่านะคะ ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง แล้วนั่งรถไฟใต้ดินวันนึงบ่อยแค่ไหน (ควรจะไม่ต่ำกว่าสิบเที่ยวต่อวันถึงจะคุ้ม) สำหรับมินแล้ว เวลามินเที่ยวอยู่ที่เกาหลี มินจะใช้ค่ารถในการเดินทางวันนึงแค่ประมาณ 5000 วอนเท่านั้น (ประมาณ 160 บาท) หรือบางทีก็น้อยกว่านี้ เพราะฉะนั้นบัตรนี้จึงไม่คุ้มสำหรับมินเท่าไหร่ค่ะ กลับไปใช้ทีมันนี่เหมือนเดิม สะดวกเหมือนกัน แต่ถ้าใครมองถึงการนั่ง AREX จากสนามบินไปยัง Seoul Station เที่ยวนึงก็ 3950 วอน ซื้อบัตรนี้แบบ 1 day pass เพื่อนั่ง AREX เข้าเมือง และใช้ส่วนลดซื้อบัตรเข้าสถานที่ต่างๆ เสียเลย รวมถึงในวันแรกที่มาถึง ก็นั่งรถไฟใต้ดินไปเที่ยวนั้นมานี่ในโซล ก็อาจจะคุ้มค่าได้อยู่บ้างค่ะ ยังไงก็ไปลองพิจารณา ไปคำนวณส่วนต่างกันดูนะคะ ว่าเราเหมาะกับบัตรแบบไหนมากกว่ากัน

สามารถอ่านรานละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Airport Main Information Desk : +88 32-743-3270 หรือ 3272
และที่ Korea Smart Card Service Desk : +88 1644-0088 ถึง 9

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก www.seoulcitypass.com

2 เมษายน 2556

วิธีเติมเงินบัตรโดยสารที่ตู้อัตโนมัติ


เอนทรี่นี้มินจะมาพูดถึง "วิธีเติมเงินบัตรโดยสารที่ตู้อัตโนมัติ" กันบ้างนะคะ สำหรับบางคนที่อาจจะกังวลว่าจะเติมเงินในบัตร T-money หรือ บัตร Korea Pass ยังไงดี มินมีภาพประกอบพร้อมคำอธิบายอย่างง่ายๆ มาให้ชมกันค่ะ

เราสามารถเติมเงินลงในบัตรได้ด้วยตนเอง เพียงมองหาตู้หน้าตาแบบนี้ ซึ่งจะมีตั้งอยู่ในทุกๆ สถานีรถไฟใต้ดินค่ะ และมักจะอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าไปยังชานชาลา เรียกได้ว่าถ้ามาถึงสถานีแล้วเงินในบัตรดันหมดเสียก่อน แต่ต้องนั่งรถไฟใต้ดินต่อไปอีก ก็หมดกังวลค่ะ เพราะมีตู้ดักรอแบบนี้เพียบเลยล่ะ



เข้าไปดูที่หน้าจอใกล้ๆ เป็นจอแบบทัชสกรีนนะคะ ก็แตะเลือกภาษาอังกฤษตามภาพเลยค่ะ



จากนั้นก็วางการ์ดลงไปแบบนี้ค่ะ ได้ทั้งทีมันนี่ และโคเรียพาส เลย



จากนั้น ที่หน้าจอก็จะขึ้นแบบนี้ค่ะ มีจำนวนเงินคงเหลือในบัตรบอกให้เราทราบด้วย (ซึ่งถ้าใครอยากจะแค่เช็คจำนวนเงิน ก็สามารถนำมาเช็คที่ตู้แบบนี้ได้เลย) ก็แตะเลือกจำนวนเงินที่เราจะเติมได้ที่หน้าจอเลยค่ะ ซึ่งสามารถเติมได้ตั้งแต่ 1000,5000,10000 และ 50000 วอน เลือกตามต้องการ



เงินในบัตรมินเหลือน้อยเต็มที ก็เลยเลือกเติม 10000 วอนค่ะ (ประมาณ 280-300 บาท) ซึ่งปกติมินก็จะเติมที่ละ 10000 วอนนี่ล่ะ พอใกล้หมดแล้วค่อยเติมใหม่ หมื่นวอนนี่ก็ใช้ได้หลายวันเหมือนกันค่ะ เพราะค่ารถไฟใต้ดินที่นั่น เที่ยวละพันกว่าวอนเท่านั้นเอง...พอแตะเลือกจำนวนเงินแล้ว ก็จะขึ้นหน้าจอแบบนี้ เช็คดูอีกทีนะคะ ว่าตรงกับที่เราเลือกรึเปล่า 



ถ้าจำนวนเงินถูกต้องแล้ว ก็สอดเงินไปแบบนี้เลย ซึ่งตู้สามารถรับได้ทั้งธนบัตรและก็เหรียญค่ะ




ระบบก็จะประมวลผลเมื่อเราสอดเงินเข้าไปในเครื่อง รอไม่กี่วินาที หน้าจอก็จะขึ้นแบบนี้ค่ะ เห็นคำว่า Complete ก็แปลว่า เสร็จเรียบร้อยแล้วววว อย่าลืมเช็คเงินในบัตรอีกที ก่อนจะนำบัตรออกมานะคะ




เห็นมั้ยคะว่าไม่ยากเลยจริงๆ แบบนี้มือใหม่คงหายกังวลกันแล้วนะคะ ^^

27 กุมภาพันธ์ 2556

บัตร Korea Pass




มาพูดถึงบัตรโดยสารสารพัดประโยชน์ชนิดที่สองกันต่อดีกว่านะคะ นั่นก็คือ บัตรโคเรียพาส ค่ะ มินขออธิบายอย่างละเอียด เพื่อที่หลายคนจะได้เข้าใจสิทธิประโยชน์ วิธีการใช้ ความคุ้มค่า และการตัดสินใจ ว่าระหว่างโคเรียพาส กับทีมันนี่ เราเหมาะกับบัตรไหนมากกว่ากันค่ะ

Korea Pass Card นั้น มีทั้งแบบที่ใช้ในโซลและใช้ที่ปูซาน ความแตกต่างของบัตรนี้กับทีมันนี่ก็คือ  บัตรนี้สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ นอกเหนือไปจากค่าโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรมที่พัก (ในเครือที่กำหนด) ค่าเข้าชมสถานที่ (บางแห่ง) และช้อปปิ้งในร้านค้าต่างๆ เช่น ดิวตี้ฟรี และอื่นๆ อีกมากมายได้ ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ "บัตรเดบิต" นั่นเอง

การใช้จ่ายด้วยโคเรียพาสนั้น สถานที่ต่างๆ ที่จะใช้บัตรโคเรียพาสได้ จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขของ LOTTE ผู้เป็นเจ้าของบัตร เช่น ใช้ซื้อบัตรผ่านประตู เข้าสวนสนุก LOTTE WORLD พร้อมส่วนลด 20% และใช้ซื้อบัตรเข้าชมหอดูดาวที่โซลทาวเวอร์ พร้อมส่วนลด 10% เป็นต้น แต่ต้องตัดคูปองด้านหลังของหนังสือมาใช้คู่กันนะคะ ถ้าไม่มีคูปองก็ลดไม่ได้ค่ะ ยุ่งยากเนอะ ^^" ส่วนหนังสือที่ว่า จะมาพร้อมกับบัตรโคเรียพาส ตอนเราไปซื้อนั่นแหละค่ะ หน้าตาหนังสือและคูปองที่ว่าเป็นแบบนี้



นอกจากนี้ยังมีส่วนลดให้ 5000วอน  เมื่อใช้ซื้อของใน LOTTE MART มากกว่า 70000 วอนขึ้นไป  หรือ ลด 3000 วอน เมื่อซื้อของที่ LOTTE Super เกิน 50000 วอน รวมทั้งยังใช้จ่ายในมินิมาร์ทได้เหมือนทีมันนี่อีกด้วย แต่ต้องซื้อครั้งละเกิน 1000 วอน ขึ้นไปเท่านั้นค่ะ ถึงจะใช้ได้ 

สามารถเช็คสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้ ที่นี่  โดยเลือกหัวข้อทางซ้ายมือ >> AFFILIATES


ส่วนการใช้จ่ายแทน ค่าโดยสาร สำหรับเดินทางในโซลนั้น *จะต้องเติมเงินต่างหากค่ะ* งงใช่มั้ยคะ? ตอนแรกมินก็งงเหมือนกัน แต่ถามไปถามมา ถึงได้ความว่า บัตรนี้นั้น วงเงินหน้าบัตรจะใช้แทนบัตรเดบิตได้ ในการใช้จ่ายค่าเข้าสถานที่ รึซื้อของต่างๆ ตามข้างต้น แต่จะไม่นับรวมไปถึงจ่ายค่าโดยสารค่ะ ซึ่งหากจะใช้บัตรนี้ควบคู่ไปกับการจ่ายค่าโดยสาร โดยที่ไม่ต้องซื้อบัตรทีมันนี่เพิ่มอีกใบนึง ง่ายๆก็คือ เติมเงินลงบัตรเหมือนทีมันนี่ทุกประการค่ะ (ทั้งสถานที่และวิธีการเดียวกันเป๊ะค่ะ) อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บัตรทีมันนี่ 

*และบัตรโคเรียพาส ไม่สามารถ ใช้เติมเงินแล้วจ่ายค่าโดยสาร รถแอร์พอตบัส ได้ค่ะ (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่มันใช้ไม่ได้ ในขณะที่ทีมันนี่ใช้ได้สบายมากค่ะ


สถานที่ซื้อบัตร 

ในโซล สามารถซื้อได้ที่ บูธ HanaBank ที่สนามบินอินชอน (อยู่ใกล้กับ Gate 5) และสนามบินคิมโป รวมทั้งสาขาของธนาคารในโซลบางสาขา,บูธ Airport Railroad ที่สนามบินทั้งสองแห่ง,Lotte Mart หรือ 7-11  (บางสาขา) และที่ KTO (ตึกตั้งอยู่ที่ควางฮวามุน) บัตรราคา 50000/100000/300000 และ 500000 วอน เลือกตามความพอใจ

ส่วนที่ปูซาน หาซื้อได้ที่สนามบินคิมแฮ, บูธ Information ที่ท่าเรือปูซาน, สถานีรถไฟใต้ดินปูซาน และ Lotte Mart  หรือ 7-11 เช่นกัน บัตรราคา 50000 วอน มีให้เลือกราคาเดียวค่ะ และเวลาซื้อนั้น จะต้องใช้พาสสปอตด้วย ตามจำนวนคนค่ะ เช่นว่าต้องการซื้อสามใบ ก็ต้องใช้พาสสปอตสามเล่มจ้า

**ซึ่งการจะเลือกซื้อเท่าไหร่นั้น มินขอให้ดูการใช้ และคำนวณกะเกณฑ์ให้ดี เพราะบัตรนี้จะต่างจากทีมันนี่ตรงที่ว่า ถ้าใช้เงินในบัตรเหลือน้อยกว่า 20% ของราคาหน้าบัตร จะได้รับเงินคืนตามจำนวนทั้งหมด แต่ถ้าเหลือมากกว่า 20% จะโดนหักค่าปรับ 5% 


บูธ Hana Bank ที่สนามบินอินชอน

การคืนบัตร ในหนังสือที่ได้มาด้วยนั้นบอกว่า หากเหลือมากกว่า 20% จะคืนได้ที่บูธ Tax Free เพียงที่เดียว แต่ถ้าเหลือน้อยกว่า 20%สามารถคืนเงินที่ 7-11ได้อีกทาง แต่ในความเป็นจริงตอนอยู่ที่นั่น มินโทรไปถามเจ้าหน้าที่ที่ 1330 มา เขาบอกว่า จะคืนได้ที่บูธ Tax Free ได้ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งบูธ Tax Free จะมีอยู่สองที่คือที่สนามบินอินชอน และที่ห้าง Doota ที่ทงแดมุนค่ะ  และเมื่อเอาบัตรไปคืน จะโดนหักค่าบัตร 500วอน (สำหรับที่โซล) และ 200 วอน (สำหรับที่ปูซาน) ส่วนมินนั้นใช้ให้หมดค่ะ เพราะขี้เกียจเอาไปคืน ก็แค่ใช้จ่ายแทนเงินสดเวลาเข้า 7-11 ทุกครั้ง และก็ใช้จ่ายที่ Lotte Mart ก็หมดแล้วล่ะค่ะ อิอิ


มินิมาร์ทที่เกาหลี มีขนมและเครื่องดื่มให้เสียเงินได้ทุกวัน อิอิ

ก็ลองพิจารณากันดูนะคะ ว่าการไปเที่ยวของเรานั้น เหมาะกับการใช้บัตรประเภทใดมากกว่ากัน เรามีโอกาสจะใช้จ่ายกับสิ่งไหนบ้าง และมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คิดไว้ว่าสักเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้เลือกบัตรให้ตรงความต้องการ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุดค่ะ

คำแนะนำ หากจะใช้เป็นแค่บัตรโดยสาร มินว่าแค่ทีมันนี่ก็พอค่ะ เราคุมค่าใช้จ่ายได้ เติมเงินทีละน้อยๆ เท่าที่ใช้ เผื่อว่าขี้เกียจเอาไปแลกคืนจะได้ไม่เสียดายเงินในบัตร (ส่วนตัวมินใช้ทั้งซื้อของในมินิมาร์ทและจ่ายค่ารถค่ะ) แถมบัตรทีมันนี่ยังไม่มีวันหมดอายุด้วย

ส่วนใครที่ดูแล้วว่า เราได้ใช้สิทธิประโยชน์อย่างเต็มขั้น มั่นใจว่าจะซื้อของใน Lotte Mart เยอะแน่ๆ ใช้โคเรียพาสไปเลยค่ะ คุ้มกว่า เพราะมีส่วนลดมากมาย แต่เช่นกันว่า คำนวณให้ดี และพยายามใช้ให้หมดจะดีกว่า เพราะเวลาแลกคืนจะยุ่งยากกว่าทีมันนี่ ที่สำคัญ บัตรมีอายุประมาณ 4 ปี นับจากวันที่ซื้อ หากเหลือเงินในบัตรเยอะ แล้วไม่มีเวลาไปแลกคืนหรือเที่ยวจนลืม ภายในสี่ปีหากไม่ได้กลับมาเที่ยวเกาหลีอีก ก็จะเสียเงินในบัตรไปเปล่าๆ นะคะ เสียดายแย่ค่ะ เงินทองหายากเนอะ ^^

หากใครมีข้อสงสัยอย่างอื่น รึยังไม่ค่อยเข้าใจ รึเลือกไม่ถูก ทิ้งคำถามไว้ที่คอมเม้นด้านล่างได้นะคะ มินจะเข้ามาตอบให้จ้า


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 1



20 กุมภาพันธ์ 2556

บัตร T-Money


การเดินทางในโซลนั้นถือว่าสะดวกสบายอย่างที่สุดค่ะ เพราะมีบริการขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั้งเมือง ให้เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างง่ายดายแถมประหยัดอีกด้วย ซึ่งการจะเที่ยวโซลให้คุ้มค่านั้น ควรจะต้องมีบัตรโดยสารคู่ใจเพื่อใช้จ่ายแทนเงินสด นอกจากจะประหยัดเวลาไม่ต้องไปซื้อตั๋วในแต่ละเที่ยวแล้วนั้น ยังช่วยประหยัดเงินกระเป๋าได้อีกด้วยกับส่วนลดในทุกๆ ครั้งที่ใช้ 

ในโซลนั้นมีบัตรโดยสารให้เลือกใช้หลักๆ อยู่ 2แบบคือ บัตรทีมันนี่ (T-Money Card) และ บัตรโคเรียพาส (Korea Pass Card) *คนละอย่างกับบัตร KR Pass ที่ใช้ขึ้นรถไฟ KTX* สองบัตรนี้มีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยในเรื่องของสิทธิประโยชน์ แต่ที่เหมือนกันก็คือ “สามารถใช้จ่ายค่าโดยสารได้ ไม่ว่าจะรถเมล์ รถไฟใต้ดิน หรือแท็กซี่” 

ซึ่งในเอนทรี่นี้ มินจะขออธิบายถึงบัตรทีมันนี่ก่อนนะคะ (อาจจะยาวนิดนึง)


ตัวอย่างบัตรทีมันนี่คู่ใจของมินเอง

บัตรทีมันนี่ สามารถใช้จ่ายค่าบริการขนส่งสาธารณะได้ทั้งหมด รวมไปถึงแท็กซี่ ซึ่งหากใช้บัตรทีมันนี่แตะจ่ายแทนเงินสด ก็จะลดค่าบริการทั้งรถเมล์และรถไฟใต้ดินลงเที่ยวละ 100 วอน ทุกระยะทาง เช่น จาก 1350 วอน จะเหลือ 1250 วอน (ค่าบริการเริ่มต้นนี้ ปรับขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2015) เพราะฉะนั้นในการไปเที่ยวโซล เพื่อความคุ้มค่าและสะดวกสบาย ควรซื้อบัตรทีมันนี่ไว้ใช้  นอกจากลดค่าบริการแล้ว  ยังใช้แทนเงินสดเพื่อจับจ่ายซื้อของในมินิมาร์ทได้อีกด้วยทั้ง 7-11, CU (Family Mart) และ GS25

บัตรทีมันนี่ สามารถซื้อได้ที่ร้านมินิมาร์ทที่เอ่ยไปทุกสาขา หรือจะซื้อกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้องในสถานีรถไฟใต้ดิน หรือซื้อด้วยตนเองกับตู้ขายตั๋วอัตโนมัติก็ได้ ซื้อแล้วก็เติมเงินเสียเลยสะดวกดี (มีวิธีใช้ที่ตู้เป็นภาษาอังกฤษกำกับ) ค่าบัตรราคา 2500 วอน และบัตรไม่มีหมดอายุใช้ได้ตลอด ของมินตั้งแต่ปี 2010 ทุกวันนี้ก็ยังใช้ได้ค่ะ

**ปัจจุบันนี้ เขาได้เปลี่ยนจากบัตรทีมันนีแบบธรรมดานี้ มาเป็นบัตร Seoul City Pass Plus แล้วนะคะ และราคาบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 3000 วอน แต่ได้สิทธิประโยชน์ดีๆ เพิ่มขึ้นด้วย อ่านรายละเอียด


วิธีใช้บัตรโดยสารคือ เติมเงินลงในบัตร โดยเติมเองที่ตู้เติมเงินในสถานีรถไฟใต้ดิน หรือเติมกับพนักงานในร้านมินิมาร์ทก็ตามแต่สะดวก และเวลาคืนบัตรก็ทำได้ทั้งสองช่องทางเช่นกัน โดยจะได้ค่าบัตร 2500 วอนคืนด้วย แต่ถ้าใครอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือเอาไว้ใช้ครั้งต่อไปเมื่อมาเยือนโซลอีกก็ได้ เพราะซื้อครั้งเดียวเก็บไว้ใช้ได้อีกหลายครั้ง โดยไม่ต้องซื้อใหม่ และ ไม่มีวันหมดอายุ

ความจริงแล้วบัตรทีมันนี่นั้นมีหลายรูปแบบและหลายการใช้งานค่ะ ซึ่งรูปแบบนั้นก็มีทั้งแบบการ์ดหน้าตาธรรมดาๆ หรือการ์ดที่มีรูปของศิลปิน หรือเป็นแบบพวงกุญแจการ์ตูนน่ารักๆ ซึ่งแบบพวงกุญแจนั้นหาซื้อได้ในร้านมินิมาร์ท ส่วนการ์ดรูปศิลปินนั้น หาได้ตามร้านขายของที่ระลึกศิลปิน เช่น ร้านค้าในสถานีรถไฟใต้ดิน แต่สนนราคาก็จะแพงกว่าแบบธรรมดาตามปกติที่มีออพชั่นเสริม เพราะมีราคาตั้งแต่ 3000 ไปจนถึง 10000 วอนก็มี ส่วนการ์ดรูปศิลปินราคาใบละ 10000-12000 วอน


T-Money Card ในรูปแบบต่างๆ

Photo by herbandlace.com

Photo by seoulistic.com


Photo by @KittyYunho0602


วิธีใช้บัตรทีมันนี่เมื่อขึ้นรถไฟใต้ดิน ก็จะคล้ายๆ กับของบ้านเราค่ะ เพียงแตะบัตรแล้วเดินผ่านเข้าไปยังชานชาลา หากต้องเปลี่ยนสาย (ทรานส์เฟอร์) ก็แค่แตะบัตรอีกครั้งระหว่างเดินไปเปลี่ยนสาย และขาออกก็แตะอีกทีเพื่อเดินออกไปเท่านั้นเองไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ซึ่งเวลาเปลี่ยนสายก็จะคิดค่าบริการประมาณ 200-400 วอน แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล

สำหรับรถเมล์นั้น จะแตะบัตรที่ประตูหน้าข้างคนขับ และแตะบัตรตอนลงที่ประตูอีกครั้ง แต่หากขึ้นรถเมล์แล้วอยากจ่ายเงินสด ก็สามารถทำได้ โดยหยอดเงินลงกระป๋องที่ข้างคนขับ ถ้าค่าโดยสารไม่พอดี คนขับจะกดทอนเงินให้เองค่ะ

ส่วนการจ่ายค่าแท็กซี่นั้น สามารถใช้บัตรทีมันนี่ยื่นจ่ายแทนเงินสดได้เลย ง่ายและสะดวกมากๆ

หรือจะดูรายละเอียดบัตรแบบอื่นๆ เพิ่มเติม ก็ดูได้ ที่นี่ เลยค่ะ เขามีอธิบายไว้เป็นภาษาอังกฤษเรียบร้อย และในเอนทรี่ต่อไป มินจะมาอธิบายถึง บัตรโคเรียพาส กันบ้างค่ะ


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 1