25 สิงหาคม 2562

รีวิวบริการรับส่งสนามบิน Traveloka


สวัสดีค่ะ หลังจากที่มินได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวที่ปีนังตามที่รีวิวไปบ้างแล้วนั้น ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังมีอีกบริการนึงที่มินยังไม่ได้พูดถึง นั่นก็คือ 'บริการรับส่งสนามบิน' ซึ่งบริการที่ว่านี้ ไม่ใช่บริการรับส่งที่สนามบินในต่างประเทศไปยังที่พักหรือโรงแรมนะคะ แต่ว่าเป็นบริการรับส่งจากบ้านเราที่ไทยไปยังสนามบินดอนเมืองหรือสุวรรณภูมินั่นเอง เก๋มั้ยล่ะ


บริการรับส่งสนามบินนี้จัดว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่ต้องเดินทางไปสนามบินแต่เช้าหรือดึกดื่น ที่หารถแท็กซี่ หรือ Grab ไปไม่สะดวก เช่นมิน เนื่องจากบ้านที่อยู่นั้นอยู่แถบชานเมือง แม้จะไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองนัก แต่การจะหารถออกไปจากหมู่บ้านที่พักอยู่นั้นไม่ง่ายเลยล่ะค่ะ ยิ่งถ้าเดินทางเช้าตรู่หรือไฟลท์ดึกอย่างเวลาไปเกาหลีด้วยแล้วนั้น ต้องหารถไปสนามบินให้วุ่นเลยล่ะ

จนมินมาเจอว่ามันมีบริการรถรับส่งไปสนามบินดอนเมืองจาก Traveloka ที่มาได้ถูกที่ถูกเวลามากๆ เพราะมินกำลังจะมีไฟลท์แต่เช้าไปปีนังพอดี ก็เลยได้ลองใช้บริการค่ะ ซึ่งการใช้บริการก็ไม่ยากเลย แค่เข้าไปที่เว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่น Traveloka แล้วเลือกหมวด 'บริการรับส่งสนามบิน' ก็ทำรายการจองได้แล้วล่ะค่ะ ง่ายมากๆ

ทางไปจองรถรับส่งสนามบิน กับ Traveloka >> https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer

มินระบุเวลาตอนจองไปว่าให้รถมารับที่บ้านเวลา 7 โมงเช้า รถมาถึงก่อนเวลาเกือบครึ่งชม.เลยค่ะ สอบถามได้ความว่า พี่คนขับบ้านอยู่ไม่ไกลบ้านมินพอดี ก็เลยมาถึงไว ดีมากๆ เลย รถที่จะมารับเราตอนจองจะมีระบุไว้เลยนะคะ ว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร รุ่นไหน อย่างที่มินจองไปจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวสำหรับเดินทาง 2 คน ก็จะได้เป็นรถ Toyota Camry ค่ะ


บริการนี้จะให้บริการผ่านบริษัทรถรับส่ง Sino Thai Bangkok โดยให้บริการทั้งมารับจากบ้านไปสนามบิน และจากสนามบินกลับมาบ้าน ใครที่ไม่อยากใช้บริการแท็กซี่ที่สนามบิน เพื่อความสบายใจ ปลอดภัย มินก็แนะนำบริการนี้เลยค่ะ


ด้วยเพราะเป็นรถรุ่นแคมรี่ จึงทำให้ห้องโดยสารค่อนข้างกว้างขวาง นั่งสบาย ไม่อึดอัด ต่างจากแท็กซี่และ Grab ที่มักจะเป็นรถรุ่นอื่น



แม้ว่าบ้านมินจะอยู่ไม่ไกลสนามบินดอนเมืองนัก แต่กลับใช้เวลาในการเดินทางนานกว่าที่คาดไว้ เพราะรถค่อนข้างติดพอสมควรในช่วงเช้า โชคดีที่มินออกจากบ้านมาก่อนเวลานัดหมาย จึงพอจะมีเวลาเหลือๆ ซึ่งคิดถูกมากๆ ค่ะ ที่เลือกใช้บริการรับส่งสนามบินนี้ เพราะถ้าหากรอเรียก Grab (เช้าๆ แบบนี้มักจะไม่ค่อยกดรับ) หรือโบกแท็กซี่ ต้องเสียเวลาในการรอไปพักใหญ่แน่นอน


สุดท้ายมินก็มาถึงสนามบินดอนเมืองได้ทันเวลา และยังพอจะมีเวลาเหลืออยู่บ้างทำให้ไม่ต้องรีบร้อนนัก ซึ่งบริการรับส่งสนามบินจาก Traveloka นั้น จัดว่าสะดวก สบาย มากๆ ค่ะ ช่วยให้เราวางแผนการเดินทางได้ จะมีบินไฟลท์เช้า ไฟลท์ดึก ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเลย มารับตรงเวลา และพาเราถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ในราคาที่จ่ายได้ เลิฟเลย


บริการดีประทับใจขนาดไหน มินเลือกจองขากลับไปด้วยเลย เพราะกลับจากปีนังมาไฟลท์ดึกมากๆ ค่ะ และทางเข้าบ้านมินค่อนข้างลึก เวลาเรียกแท็กซี่จากสนามบินไปทีไร พี่คนขับมักจะชอบบ่นและหัวเสีย มินเองก็ไม่อยากหงุดหงิด เลยตัดปัญหา เลือกจองบริการนี้กับ Traveloka ดีกว่า ซึ่งเมื่อถึงเวลาเครื่องลง มินก็ออกมารอที่จุดรอในอาคารตามเวลานัดหมาย พอรถมาก็มาจอดรอที่หน้าอาคารแบบนี้ค่ะ


ซึ่งพอเดินมาถึงที่รถ ก็แอบตกใจเล็กน้อย ที่พี่คนขับคือคนเดียวกับที่มารับขามา ถามได้ความว่า พี่เขาบอกว่าพอมีงานเรียกเข้าให้ไปส่งที่หมู่บ้าน XXX ก็จำชื่อได้ว่าเพิ่งเข้าไปรับมาเมื่อ 2-3 วันก่อน เลยเดาว่าน่าจะเป็นมิน ก็เลยเลือกมารับเพราะว่าบ้านไม่ไกลกัน เสร็จงานจะได้กลับบ้านเลยค่ะ เอ้าาาา ดีไปอีก ดันเจอคนบ้านใกล้เรือนเคียง 5555555


ก็จบรีวิวการใช้ 'บริการรถรับส่งสนามบิน' แล้วนะคะ สำหรับบริการนี้มินว่าดีมากๆ สำหรับคนบ้านไกล หรือหารถไปสนามบินยาก หรือเดินทางดึกๆ ไม่มีรถ เพราะเราไม่ต้องคาดเดาเวลาว่าจะได้ขึ้นรถตอนไหน แต่เราสามารถจองล่วงหน้าได้ ถึงเวลานัดรถก็มารับได้เลย ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสี่ยงไปสนามบินไม่ทัน เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ ไปเลยค่ะ

13 สิงหาคม 2562

[รีวิวปีนัง] #ตอนที่ 2# เช่ารถเที่ยว 1 วันไปปีนังฮิลล์


หลังจากตอนที่แล้ว มินพาทุกคนไปเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินตามสถานที่ต่างๆ แล้วนั้น มาถึงตอนนี้จะมาพาไปเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเมืองปีนังกันบ้าง ที่เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้มาเหมือนมาไม่ถึงปีนังนะเออ! ที่นี่คือ ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) นั่นเองค่ะ


Penang Hill and The Habitat หรือที่คนมาเลเซียเรียกกันว่า Bukit Bendera เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ชอบป่าชอบเขา และอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ของเมืองปีนัง มินก็แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่นี่กันค่ะ ซึ่งที่นี่จะอยู่ห่างจากตัวเมือง George Town ประมาณ 6-7 กิโลเมตร และสามารถนั่งรถบัสจากตึก Komtar มาได้ หรือจะเรียก Grab มาก็ได้เช่นกัน แต่ว่ามินเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับค่ะ เนื่องจากอยากไปหลายที่ในวันเดียว และไม่อยากเหนื่อย+เสียเวลาในการต่อรถ ก็เลยตัดสินใจใช้ บริการ 1 Day Tour Penang จาก KKday ค่ะ

ซึ่งการใช้บริการก็ไม่ยาก มินจองผ่านแอพมือถือมาจากบ้านแล้วเรียบร้อย ถึงเวลารถและคนขับก็มารอรับเราอยู่ที่หน้าโรงแรมตามที่เราระบุไว้เรียบร้อยค่ะ ง่ายดายมากๆ แต่เราต้องระบุที่ตั้งของที่พักให้ชัดเจน รวมถึงนัดเวลาให้ดี และมาตรงเวลา รับรองว่าไม่มีพลาดแน่นอน ของมินแจ้งเวลาไปว่าให้มารับที่โรงแรมเวลา 10:00 ค่ะ มินลงมาก่อนเวลาเล็กน้อย ก็พบรถจอดรออยู่แล้วแบบนี้



พอทักทายถามไถ่กันเรียบร้อยว่ามารับไม่ผิดคน ก็ได้เวลาออกเดินทางเที่ยวแล้วค่ะ ซึ่งตรงนี้มินก็แนะนำอย่างนึงค่ะว่า ควรมีเบอร์มาเลเซียหรืออินเตอร์เน็ตใช้ เพราะต้องใช้ติดต่อกับคนขับหลังจากไปส่งเราที่หมายแล้ว เขาจะกลับมารับเราตามเวลาที่เราแจ้งค่ะ ซึ่งถ้าใครไม่มีเบอร์มาเลเซีย (กรณีใช้ซิมจากไทย) แนะนำให้โหลดแอพ What's App ติดเครื่องไว้หน่อยนะคะ เพราะคนที่นั่นไม่นิยมใช้ LINE จะได้มีช่องทางติดต่อค่ะ เอาล่ะ ออกเดินทางมาไม่นานก็มาถึงที่แรกของเรากันแล้ว ปีนังฮิลลลลลลลลลล์


ถ้ามารถส่วนตัวเองแบบนี้ใช้เวลาเดินทางไม่นานเลยค่ะ แค่ 20-25 นาทีเท่านั้น สะดวก สบาย มากๆ ประหยัดเวลาได้เยอะเลย เพราะยิ่งมาถึงไวเท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องต่อคิวขึ้นรถรางนานค่ะ มาถึงแล้วก็รีบไปต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นรถรางก่อนเลย ค่าขึ้นรถรางไป-กลับ Penang Hill อยู่ที่คนละ 30 RM หรือประมาณ 224 บาท ใครรีบอยากไป Fast Lane ก็จ่ายได้ในราคา 80 RM ได้ลัดคิวขึ้นก่อนเลยค่ะ แต่มินคิดว่าถ้ามาช่วงสายๆ หน่อย คนยังไม่เยอะมาก ซื้อแบบธรรมดาก็รอไม่นานค่ะ


จากนั้นก็ไปต่อแถวรอกันค่ะ ใช้เวลาขึ้นไปราวๆ 15 นาที ก็ถึงข้างบนแล้วค่ะ รูปซ้ายคือเส้นทางของรถรางที่พาเราขึ้นมา ส่วนรูปขวาคือวิวด้านบนค่ะ


ข้างบนนี้ก็จะเป็นจุดชมวิวค่ะ เราจะสามารถเห็นเมืองปีนังได้แบบพาโนรามา ด้วยความสูง 820 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำได้ข้างบนนี้อากาศดีและสดชื่นมากๆ อุณหภูมิจะต่ำกว่าด้านล่างด้วย เย็นสบายไม่ร้อนแบบข้างล่างเลยค่ะ



แต่น่าเสียดายที่อากาศวันที่ไปนั้นฟ้าไม่ค่อยโปร่ง เลยทำให้เห็นเมือง George Town ได้ไม่ชัดนัก แต่ลมเย็นดีมากๆ เลย


ขึ้นมาถึงข้างบนแล้ว ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อยค่ะ สังเกตรูปดูว่า ฟ้ามัว หมอกเยอะมาก


จริงๆ แล้วถ้าขึ้นรถราง 30 ริงกิตมาแค่ดูวิวตรงนี้แล้วกลับลงไป ก็ดูเหมือนจะมาเสียเที่ยว เพราะที่ Penang Hill ยังมีอีกสถานที่ที่น่าสนใจและเป็นไฮไลท์ที่ใครๆ ต้องมา นั่นก็คือ "The Habitat" เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่างๆ ใครสายธรรมชาติอย่างมินต้องไม่พลาดค่ะ เดินลึกจากโซนชมวิวมาเรื่อยๆ ตามป้ายบอกทาง ก็จะมาเจอกับบริเวณนี้


จากบันไดทางขึ้นซ้ายมือในภาพบน เดินขึ้นไปชมโซนใหม่ได้นะคะ เป็นที่กล้องกุญแจแบบเกาหลีเลย เกร๋ๆ


และใกล้ๆ กันก็จะมีบูธขายตั๋วเข้าชม The Habitat ค่ะ ค่าเข้าคนละ 53 RM ประมาณ 395 บาท ราคาแรงพอสมควรเลย มินก็จัดแจงซื้อมาค่ะ 2 ใบ


จากนั้นพอได้ตั๋วมา ก็ไปรอรถตรงจุดขึ้นรถที่เขาบอกไว้นะคะ เพราะมันต้องขึ้นเขาไปอีก รถที่จะพาเราขึ้นไปก็จะเป็นรถกระบะค่ะ นั่งท้ายไปโลด พอไปถึงทางเข้า ก็จะมีจุดให้เราสแกนตั๋วเข้า-ออกค่ะ หน้าตาของตั๋วเป็นแบบนี้จ้า


เข้ามาด้านในแล้ว ก็จะพบเจอกับธรรมชาติแบบมากๆๆๆๆๆ มีกลิ่นของความเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ



เส้นทางในการเดินศึกษาธรรมชาติที่นี่นั้น ถูกออกแบบมาให้เดินชมง่าย ไม่ลาดชันหรืออันตราย รวมถึงมีที่ให้แวะนั่งพักได้เรื่อยๆ อากาศสดชื่นมากๆ เลยค่ะ



ภายในจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชแปลกตาและน่าอนุรักษ์ รวมทั้งพืชประจำถิ่นต่างๆ ให้เราได้ชมได้ศึกษาด้วย





เดินลึกเข้าไปก็จะเจอกับ Giant Swing ที่เหมือนเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของที่นี่



เดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ ก็จะมาถึงจุดไฮไลท์ที่สอง นั่นคือ สะพานแขวนที่อยู่บนยอดต้นไม้ แต่กว่าจะเดินมาถึงตรงนี้บอกเลยว่า เริ่มเหนื่อยนิดๆ แล้ว





ไปต่อกันที่จุดไฮไลท์จุดต่อไปกันเลยดีกว่า ที่นี่คือ Tree Top Walk เป็นระเบียงที่มีทางเดินเป็นวงกลมสูงเหนือยอดไม้ไปอีก เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาเลยล่ะ มีทางขึ้นเป็นบันได้ให้เราเดินขึ้นไปได้ค่ะ






บรรยากาศวิวด้านบนค่ะ วันนี้ฟ้ามัวทั้งวันจริงๆ ><





ชมวิวเสร็จก็เตรียมกลับลงไปด้านล่างค่ะ เดินย้อนออกไปตามทางเดิมที่เข้ามา สแกนตั๋วออกตรงร้านขายของที่ระลึก แล้วไปยืนรอรถมารับเรา ลงไปตรงบูธที่เราซื้อตั๋วขึ้นมานั่นเอง ถ้าใครหิวที่บริเวณด้านล่างนั้นจะมีโซนร้านอาหารนะคะ แนวๆ แบบฟู้ดคอร์ท ราคาไม่แพงค่ะ รสชาติโอเคเลยนะ อย่างจานนี้เป็นข้าวผัดพริกกระเทียมไข่เจียว จานละ 7 RM ค่ะ (52 บาท) เครื่องดื่มก็มีขาย โค้กก็ขวดละ 4 RM (30 บาท) ประมาณนี้


อิ่มแล้ว โทรนัดบอกเวลากับคนขับรถเรียบร้อย ก็เตรียมตัวขึ้นรถรางกลับลงไปกันค่ะ


ลงมาข้างล่างอากาศนี่ต่างจากข้างบนสุดๆ อากาศที่ปีนังร้อนมากจริงๆ เลยต้องหาอะไรเย็นๆ กินสักหน่อย จัดไปเลย กาแฟที่ร้าน OLD TOWN WHITE COFFEE ร้านดังของมาเลเซีย มาเที่ยวต้องลองสักครั้งนะคะ กับกาแฟที่มีสูตรเฉพาะตัวแบบนี้ ร้านนี้จะอยู่ตรงบริเวณใกล้ๆ ที่ขายตั๋วรถรางเลยค่ะ แก้วนี้ของมินราคา 5.7 RM ก็ 42 บาทเท่านั้นเอง ถูกมวากกกกกกกก


มินใช้เวลาอยู่ข้างบนรวมแวะกินข้าวด้วยก็ประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ (สายธรรมชาติ เดินเพลินนนน) ลงมาข้างล่างรอคนขับรถมารับก็ประมาณบ่ายสามโมงแล้ว ก็เลยไปยังที่เที่ยวต่อไปเลยก็คือ วัดเก็กลกสี่ (Kek Lik Si) วัดจีนพุทธนิกายมหายาน ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในวัดดังของปีนังเลยล่ะ เนื่องด้วยมินมารถส่วนตัว และเริ่มเหนื่อยจากการเดิน >< เลยให้คนขับรถขึ้นไปส่งที่ด้านบนตรงที่เป็นจุดชมวิวและมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมอยู่เลยค่ะ ไม่ได้แวะชมวัดที่ด้านล่าง แต่ถ้าใครมาเองก็เที่ยวด้านล่างแล้วก็สามารถขึ้น Sky Lift ไปด้านบนได้ค่ะ หรือถ้าเช่ารถแบบมินก็ให้พาขึ้นมาได้เหมือนกัน ใช้เวลาแค่เพียง 10 นาทีจากปีนังฮิลล์ค่ะ

ด้านบนจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่เชียวล่ะ


ส่วนองค์นี้เป็นองค์ใหม่ สร้างขึ้นทีหลังองค์ข้างบน คุณลุงคนขับบอกไว้


และที่ด้านบนของวัดเก็กลกสี่ ก็สามารถชมวิวเมืองได้ 360 องศาเช่นกัน ซึ่งอากาศในตอนนี้นั้น ร้อนสุดๆ ค่ะ แดดแรงมากจ๊ะแม่



บรรยากาศรอบๆ ค่ะ ร่มรื่นทีเดียว



 ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อย


จบจากตรงนี้ก็ จริงๆ แล้วตั้งใจว่าจะไปเที่ยวต่ออีกที่นึง แต่ตอนนั้นยอมรับเลยว่าร่างกายเริ่มเหนื่อยและล้าจากการเดินขึ้นเขาแล้วค่ะ ก็เลยบอกคนขับรถว่ากลับโรงแรมเลยดีกว่า อยากไปนอนแช่อ่างจากุซซี่ที่โรงแรมแล้วววววว ลุงคนขับก็เลยถามว่าชอบช็อกโกแลตมั้ย ถ้าชอบจะพาไปร้านช็อกโกแลต นี่ก็โดนป้ายยาไง ก็เลยบอกไปค่ะ! แล้วคุณลุงก็พามาที่ร้าน Harriston Signature 


เล่าประวัตินิด ช็อกโกแลตที่ Harriston Signature นั้น ผลิตจากเมล็ดโกโก้ที่ปลูกในมาเลเซียเลยค่ะ และเจ้านี้คือดังมาก และเป็นที่นิยมมาก ร้านมีหลายสาขาทั่วประเทศรวมถึงที่ปีนัง เป็นผู้ผลิตช็อกโกแลตอันดับหนึ่งในประเทศ ซึ่งมาเลเซียจัดว่าเป็นผู้ส่งออกเมล็ดโกโก้รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยนะ



ที่นี่มีช็อกโกแลตเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก เยอะมากจริงๆ เขาว่ามีมากถึง 150 รสเลย พนักงานจะคอยแนะนำเรา พาเราชม และชิม! ชิมมันทุกรสเลย เบาหวานจะขึ้นตาาาาาา แต่รสชาติอร่อยหลายอันเลยนะ ไม่ใช่ช็อกโกแลตปลอมๆ ใส่น้ำตาลเยอะๆ แบบที่มุสตาฟาแน่นวล ใครที่เป็น Chocolate Lovers คือต้องมาอ่ะ รับรองชอบแน่ๆ เพราะมีรสแปลกๆ ใหม่ๆ เยอะเลย รวมถึงผงโกโก้กับไวท์คอฟฟี่ขายด้วยนะคะ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมาก ซื้อง่ายขายคล่องเลย และพนักงานขายเก่งมากกกก 555555




ทีเด็ดของช็อกโกแลตที่นี่เลยก็ครือออออออ ช็อกโกแลตรสทุเรียนจ้าาาาา ต้องบอกเลยว่าเจ้านี้เขาเคลมว่าเขาเป็นเจ้าแรกของโลกเลยนะที่ผลิตช็อกโกแลตรสทุเรียน แล้วคนมาเลย์นี่กินทุเรียนกันจริงจังมากเวอร์ ขนม ของกิน ทุกอย่าง มีรสทุเรียนทั้งนั้น ส่วนช็อกโกแลตรสทุเรียน มินลองชิมไป บอกเลยว่า.... ไม่ไหวจริงๆ อ่ะ แง้ มันเหมือนทุเรียนกวนสุดๆ แล้วนี่ไม่ชอบทุเรียนกวนไง แต่ถ้าใครชอบ จัดไปเลย!


พนักงานจะพาเราเดินชิมจนทั่ว ถ้าใครไม่ใคร่ซื้อเขาก็ไม่ว่านะคะ ตามแต่สมัครใจ แต่เชื่อเถอะว่าถ้ามาแล้ว อดไม่ได้ต้องได้ติดมือกลับไปสักนิดล่ะนะ มินเองก็โดนมาหนึ่งตัวค่ะ เป็นช็อกโกแลตรสทิรามิสุข้างในมีอัลมอนด์ด้วย ชิมแล้วอร่อยดี เลยซื้อกลับมาพร้อมกับ White Coffee ค่ะ


ด้านในเขามีคาเฟ่ด้วยนะ จะแวะนั่งพักเหนื่อย จิบเครื่องดื่มดับร้อนกันก่อนได้


จบจากที่นี่ก็บ่ายสี่โมงครึ่งได้ค่ะ จริงๆ รถที่มินเช่าไว้ จะให้บริการได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง มินแจ้งเวลาไว้ว่าจะใช้บริการตั้งแต่ 10:00-18:00 เวลายังเหลือเยอะเลย แต่ว่าเหนื่อยมากแล้ว อากาศร้อนนี่เผาผลาญพลังงานไปเยอะเลย ก็เลยตัดสินใจกลับโรงแรมไปนอนแช่น้ำดีกว่า สุดท้ายคนขับรถก็มาส่งมินที่โรงแรมเรียบร้อยค่ะ จบการให้บริการด้วยความประทับใจสุดๆ บริการดี เอาใจใส่ แถมเป็นไกด์ให้ได้ด้วย


ใครที่สนใจอยากใช้ บริการเช่ารถเที่ยว 1 วันที่ปีนัง จาก KKday ก็สามารถจองผ่านเว็บไซต์หรือแอพลิเคชั่นมือถือได้เลย ยิ่งถ้ามาเป็นครอบครัว เป็นหมู่คณะ ยิ่งแนะนำเลยค่ะ การเดินทางไปปีนังฮิลล์หรือแม้แต่ที่อื่นๆ ก็จะสะดวก สบาย ยิ่งขึ้น เราสามารถเลือกสถานที่ได้เองตามใจชอบ หรือจะเลือกแผนการเดินทางที่เขามีแนะนำไว้ก็ได้เช่นกันค่ะ

จองรถเที่ยวปีนัง กับ KKday คลิกเลย!