31 ตุลาคม 2562

รีวิวเกาหลี พาเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟปูซาน Busan International Fireworks Festival


เทศกาลดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ของเกาหลีกำลังจะวนเวียนกลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ กับเทศกาลดอกไม้ไฟปูซาน Busan International Fireworks Festival (BFF) ที่ในปี 2019 นี้จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้นั่นเอง ใครที่แพลนว่าปีนี้จะไปชม แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไง หรือว่าไปชมตรงบริเวณไหนดี ตามมินมาเลยค่ะ เพราะมินทำรีวิวมาให้อ่านกันแล้ว เมื่อครั้งที่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ปูซานมาครั้งนึงค่ะ


ก่อนอื่นเลยการเดินทางจากโซลมายังเมืองปูซานนั้น สามารถมาได้ 3 วิธีคือ เครื่องบิน รถไฟ และรถบัสค่ะ ส่วนตัวมินเคยเดินทางครบทั้ง 3 วิธีแล้ว ก็พบว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อย่างเครื่องบินก็จะราคาแพงสุด แต่ถึงไวมาก เดินทางแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เหมาะกับคนที่อยากซื้อเวลา ส่วนรถบัสราคาถูกสุด ประหยัดสุด แน่นอนว่าเดินทางนานสุดเช่นกัน สุดท้ายกับรถไฟ ที่มีทั้ง KTX, ITX และมูกุงฮวา ที่ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ 2 ชั่วโมงครึ่ง - 6 ชั่วโมง อันนี้สามารถเลือกได้ตามความสะดวก เพราะราคาก็ต่างกันไป แน่นอนว่ามินเลือกวิธีเดินทางด้วยรถไฟ KTX ที่มินคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของเวลาและราคาที่เหมาะสมค่ะ มินออกจากโซลค่อนข้างช้า เพราะว่าวันนั้นติดส่งลูกทัวร์ Seoul Cafe Tour กลับไทย เลยกว่าจะได้ขึ้นรถไฟก็ได้เที่ยว 13:55 นู่นแล้ว และจะถึงปูซาน 16:22 ก็คำนวนจากเวลาแล้วยังสามารถไปยังเทศกาลดอกไม้ไฟปูซานได้ทันค่ะ



ด้วยความที่มินกับเพื่อนรีบมากันมากๆ เลยไม่มีเวลาทานมื้อกลางวัน ก็เลยแวะที่ E-mart เพื่อซื้อเสบียงง่ายๆ มากินบนรถไฟแทนค่ะ จริงๆ แล้วสามารถหาซื้อข้าวกล่องต่างๆ ที่สถานีรถไฟเลยก็ได้นะคะ มีขายเยอะเลย แต่มินชอบของกินที่ E-mart ก็เลยแวะซื้อที่นั่น ไว้จะมารีวิว E-mart แบบเต็มๆ ให้ดูกัน


ระหว่างนั่งรถไปไม่ต้องกลัวแบตมือถือหมด ชาร์ตแบตบนรถไปเลยจ้า


นั่งมา 2 ชั่วโมงครึ่งได้ ก็ถึงสถานีปูซานแล้วค่ะ มินเลือกที่จะเข้าไปยังที่พักเพื่อเอาเป้ที่พกมาจากโซลไปเก็บก่อน แล้วค่อยไปยังสถานที่จัดงานเทศกาล แต่ถ้าใครมาถึงแล้วอยากตรงดิ่งไปยังเทศกาลเลยนั้น สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินที่หน้าสถานีปูซานไปได้เลยค่ะ โดยนั่งสาย 1 สีส้ม ที่หน้าสถานีไปลงยังสถานี Seomyeon แล้วต่อสาย 2 สีเขียว ไปลงที่สถานี Geumnyeonsan ทางออก 1, 3 แต่ถ้าใครมาจากแฮอุนแด ก็ลงที่สถานี Gwangan ก็ได้ค่ะ ทั้งสองสถานีสามารถเดินไปยังหาดควางอัลลีได้เหมือนกัน แค่ระยะทางใกล้ไกลต่างกันเท่านั้นเอง ไม่ต้องกลัวเดินไปไม่ถูกเลยค่ะ เดินตามคนเยอะๆ ไปได้เลย เพราะทุกคนมีจุดหมายปลายทางเดียวกันคือไปดูดอกไม้ไฟปูซาน



จากที่พักมินมาถึงหาดควางอัลลีก็ประมาณทุ่มนึงได้ค่ะ ซึ่งดอกไม้ไฟปูซานจะเริ่มแสดงเวลา 20:00 ก็ยังพอจะมีเวลาในการเดินหาจุดชม ต้องบอกเลยว่าเทศกาลดอกไม้ไฟปูซานนี้เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมมาก ทั้งจากชาวเกาหลีเองและจากนานาชาติ เพราะจัดมานานหลายปีแล้ว และได้รับความสนใจทุกปี และแน่นอนว่าคนมหาศาลมากๆ เลยค่ะ ใครที่จะมาขอให้เตรียมใจมาก่อนเลยนะคะว่าจะต้องมาเจอกับฝูงมหาประชาชนที่เยอะมากๆ คือนับหมื่นเรือนแสนก็ว่าได้ และทุกคนก็จะมาเดินกันเต็มถนนริมหาดไปหมด จนต้องมีการเบียดเสียดกันที่เรียกได้ว่ายิ่งกว่ารถเมล์ไทย ถ้าใครไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบการเบียดเสียด ถามใจตัวเองก่อนมานะคะ ส่วนใครจะพาคนสูงอายุหรือเด็กเล็กมา อันนี้ก็ไม่ค่อยแนะนำ เพราะมันมีความไม่สะดวกในหลายๆ อย่างมากค่ะ ทั้งการเดินทาง ทั้งผู้คนที่เบียดเสียด ทั้งห้องน้ำ และอื่นๆ แต่ถ้าคิดว่าไม่เป็นปัญหา ก็จัดไปค่ะ


ถ้าใครอยากได้ที่นั่งชมดอกไม้ไฟปูซานแบบโลเคชั่นดีๆ แต่ไม่ต้องเสียเงินซื้อบัตรนั่งแถวหน้า แนะนำให้มาไวๆ ค่ะ มาแต่หัววันเลย แล้วหาผ้าปูไปปูจับจองพื้นที่ในโซนที่เขาอนุญาตให้เข้าไปชมได้ค่ะ แบบในภาพ ซึ่งตอนแรกมินจะเข้าไปหาที่นั่งบ้าง แต่บอกเลยว่าถ้ามาช้าแบบมินไม่มีที่ว่างแล้วค่ะ อย่าได้เสี่ยงเข้าไปเลยเชียว เพราะกว่าจะเดินกลับออกมาได้ ทุลักทุเลมากกกกกกก แถมคนลุกเข้าลุกออกไปห้องน้ำกันตลอดเวลาเลย


อีกโลเคชั่นที่เป็นจุดชมดอกไม้ไฟปูซานที่ดีก็คือ ชั้นสองของร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ที่อยู่ริมหาดค่ะ ซึ่งมีมากมายหลายร้าน อยู่ที่ว่าจะมาจับจองพื้นที่ทันมั้ยเท่านั้นเอง เพราะคิดว่าต้องมาเร็วมากๆ และนั่งยาวไปจนถึงสามทุ่ม แปลว่าอาจจะต้องสั่งอาหาร หรือกาแฟทานตลอดหลายชั่วโมงเหมือนกัน อย่างร้านนึงที่มินเคยไปมาก่อนหน้านี้ก็คือ Angel in us Coffee ค่ะ จะอยู่ริมหาดเลยและวิวดีมากๆ 


จากชั้นสองของร้านจะเห็นสะพานควางอันชัดเจน ซึ่งดอกไม้ไฟปูซานก็จะจุดบริเวณนี้ล่ะค่ะ ถ้าใครมาทันก็ลองมาจับจองที่ร้านนี้ดู ส่วนมินครั้งนั้นมาช้าค่ะ ก็เลยต้องไปหามุมดีๆ ที่ริมถนนแทน



ออกมาเดินตรงถนนริมหาด ก็จะมีเพื่อนเยอะมาก ตรงนี้แนะนำว่าเดินๆ หามุมที่คิดว่าโอเคแล้วยืนหรือนั่งปักหลักตรงนั้นเลยค่ะ ถ้าเจอที่ว่างที่ยืนได้แล้ว อย่าเดินหรือลุกไปไหนเลยเชียว โดนแย่งที่ได้เลย ซึ่งมินก็เลือกยืนริมฟุตบาทค่ะ ตรงจุดที่ไม่มีเสาบัง แต่ต้องทำใจอย่างนึงว่าจะมีเต้นท์ของงานบังแบบนี้ แต่ก็ยังมองเห็นดอกไม้ไฟนะคะ ถือว่าไม่แย่


ได้เวลางานเริ่ม ดอกไม้ไฟก็ถูกจุดแบบรัวๆ เลยล่ะค่ะ จากริมถนนที่ยืนดูอยู่นี้ก็จะเห็นประมาณนี้ (แคปภาพมาจากวิดีโอเลยไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยถ่ายรูปค่ะ) ก็ไม่แย่เห็นมะ แค่เต้นท์บังนิดหน่อย แต่ดอกไม้ไฟจะถูกจุดสูงขึ้นไปอยู่แล้ว แค่อาจจะได้ภาพที่ไม่สวยนัก ไม่เคลียร์ แต่ว่าถ้าดูด้วยสองตาแล้ว แค่นี้ก็สวยมากแล้วจริงๆ ค่ะ



ยืนดูเพลินมากๆ เลย สวยสมคำร่ำลือ สวยสมกับที่ดั้นด้นมา สวยสมกับความเหนื่อยล้าค่ะ มินใช้เวลาถึง 5 ปีเลยนะคะกว่าจะได้กลับมาชมเทศกาลดอกไม้ไฟปูซานอย่างที่เคยตั้งใจไว้ ได้เห็นแบบนี้ก็หายเหนื่อย มิชชั่นคอมพลีทจริงๆ 



จนมาถึงช่วงท้ายๆ งานที่การแสดงดอกไม้ไฟปูซานใกล้จะจบ เจ้าหน้าที่จะเปิดเต้นท์ที่กั้นไว้ ให้เราแทรกตัวเข้าไปชมใกล้ๆ หน้าหาดได้ค่ะ! ดีงามมากจริงๆ ถึงตอนนี้ก็วิ่งสิคะ!


ได้มายืนดูดอกไม้ไฟปูซานแบบใกล้ชิด แม้จะเป็นแค่ช่วงท้าย แต่ก็สวยมากกกกกกกกกกกจริงๆ พอได้ดูตรงนี้แล้ว บอกเลยว่าสวยกว่าดูริมถนนหลังเต้นท์จริงๆ เพราะเห็นชัดๆ เต็มๆ ไม่มีอะไรบัง ใครที่ซื้อบัตรก็จะได้ชมมุมนี้แหละค่ะ ซึ่งใครซื้อออนไลน์ไม่ทัน เหมือนว่าที่หน้างานก็ยังมีขายนะคะ ลองเดินๆ ดูได้




สวยมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะ มินถ่ายด้วยกล้องมือถือธรรมดานะคะ เพราะไม่มีกล้องโปรกะเค้า รูปอาจจะไม่ได้ชัด HD เท่าไหร่





ลงแบบคลิปวิดิโอให้ชมกันเต็มๆ ค่ะ



จบงานเทศกาลดอกไม้ไฟปูซาน คราวนี้ล่ะค่ะ นรกมีจริง! เพราะผู้คนจะต่างเบียดเสียดกันเดินออกจากงาน ซึ่งคนเยอะมากกกกกกกกกกกก แต่เขามีการดูแลจัดการดีนะคะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยกั้นทางเดินให้ ไม่เดินชนกันมั่วซั่ว เราก็เดินตามๆ เขาไปค่ะ ก็จะถึงถนนใหญ่ ตอนนี้ก็ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ มินแนะนำว่าถ้าใครพอจะรู้เส้นทางกลับที่พัก แนะนำนั่งรถเมล์คนจะน้อยกว่าในสถานีรถไฟใต้ดินที่แออัดสุดๆ คือรถเมล์คนแน่นก็จริง แต่คนมันไม่เยอะเท่ารถไฟใต้ดินค่ะ มินเองก็นั่งรถเมล์กลับที่พักเหมือนกัน และรถก็ติดสุดๆ ไปเลย


มาถึงที่พักได้ หมดพลังเลยค่ะ หิวด้วยเลยเดินมาหาอะไรกินใกล้ที่พัก ดีหน่อยมินพักย่านซอมยอนร้านอาหารเยอะและยังมีแบบเปิด 24 ชั่วโมงด้วย ได้ข้าวผัดกิมจิกับจัมปงผัดมากินคนละจานกับเพื่อน อร่อยดีค่ะ


มินนอนค้างที่ปูซาน 1 คืน เพื่อเที่ยวต่ออีก 1 วัน แต่ถ้าใครจะกลับโซลเลยก็ได้ แต่แนะนำให้จองเที่ยวรถขากลับมาก่อนนะคะ เพราะคืนนั้นหลังจบเทศกาลดอกไม้ไฟปูซาน จะมีคนกลับเข้าโซลเลยเยอะมากๆ ถ้าไม่จองเที่ยวรถมาก่อน เต็มแน่นอนคอนเฟิร์ม! ขนาดมินกลับอีกวันนึง ยังได้ขึ้นรถเที่ยว 21:30 เลยค่ะ (ไม่ได้จองมาก่อน) ถึงโซลเที่ยงคืนไปเลยจ้าาาา


ใครกำลังวางแพลนที่จะไปเที่ยวเทศกาลดอกไม้ไฟปูซานปีนี้ ก็วางแผนทั้งการเดินทางและการไปยังสถานที่จัดดีๆ ค่ะ สำหรับมินแล้วการได้มาชมสักครั้งมินก็ถือว่าคุ้มดีนะคะ ดอกไม้ไฟสวยมาก อลังการมากจริงๆ แต่คนก็เยอะและเบียดจนเพลียเลยเหมือนกัน ถ้าถามว่ามินประทับใจกับดอกไม้ไฟปูซานมั้ย? ก็บอกเลยว่าประทับใจมากๆ และดีใจที่ได้มาชม แต่ถ้าถามว่าจะมาอีกมั้ย? ก็บอกเลยว่า ไม่ไปแล้วค่ะ 55555555 เข็ดคนเลยทีเดียว คือดอกไม้ไฟสวยมากนะคะ แต่ครั้งเดียวพอ เหนื่อย เมาคน >.< แต่ก็ไม่แน่นะ มินอาจจะอยากกลับไปชมอีกสักครั้งในปีใดปีหนึ่งก็ได้ค่ะ ^^

24 ตุลาคม 2562

Halloween in Korea 2019 ฮาโลวีนที่เกาหลี เที่ยวที่ไหนดี?


Peek-a-Boo! ขอกล่าวคำทักทายต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน (Halloween) ที่กำลังจะมาถึงกันสักหน่อยค่ะ เทศกาลฮาโลวีน หรือเทศกาลวันปล่อยผีของฝรั่ง กลายเป็นเทศกาลสนุกสนานสำหรับคนทั่วทั้งโลกไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ก็อยากจะออกมาปาร์ตี้กันในช่วงเวลานี้ เพราะนอกจากจะได้แต่งตัวแฟนซีกันแล้วนั้น หลายๆ ประเทศยังมีกิจกรรมสุดสนุกรออยู่ด้วย ซึ่งที่เกาหลีเองก็เช่นกัน เพราะเทศกาลฮาโลวีนที่เกาหลีนั้นน่าสนใจไม่แพ้ใครเลยค่ะ แถมยังพร้อมใจกันจัดงานต้อนรับเทศกาลกันหลายที่เลย ฮาโลวีนที่เกาหลี ปี 2019 นั้นจะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ 



1. Escape Halloween Psycho Circus Korea เทศกาลดนตรี EDM ในธีมฮัลโลวีน! ที่ยกขบวนดีเจชื่อดังมามากมาย สนุกสนานไปกับบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวและลึกลับ พร้อมแดนซ์กันให้ยับ! ในยามค่ำคืนกับดีเจคนโปรด ใครเป็นขาแดนซ์ งานนี้ห้ามพลาด!




Date : 25-26 October 2019
Time : 14:00-23:00
Place : Seoul Grand Park
Admission : บัตรราคา 150,000 วอน สามารถซื้อบัตรได้ที่บูธขายตั๋วหน้างานใกล้กับประตูทางเข้า เวลาขายบัตร 13:00-21:00


2. Itaewon Halloween Festival เทศกาลปาร์ตี้ฮาโลวีนที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี ต้องมาที่อิแทวอน เพราะนอกจากผู้คนจะพร้อมใจกันแต่งตัวแฟนซีเป็นผีต่างๆ มาฉลองเทศกาลกันที่ถนนอิแทวอนแล้วนั้น คลับบาร์ต่างๆ ที่นั่นก็จัดงานเทศกาลฮาโลวีนกันทุกที่เช่นเดียวกัน ใครเป็นสายปาร์ตี้ต้องมาที่นี่เลย




Date : 25-26 October 2019
Place : Itaewon Street


3. Kingdom Halloween Event อีกหนึ่งเทศกาลฮาโลวีนที่คนให้ความสนใจและเป็นที่นิยมมาก คือเทศกาลฮาโลวีนที่ฮงแด เหล่าวัยรุ่นวัยมันส์จะออกมาแต่งตัวเป็นผีต่างๆ กันอย่างสนุกสนานทุกปี และปีนี้พิเศษสุด! เพราะเราจะได้พบกับ ผีซอมบี้จากซีรีส์ดัง Kingdom ที่จะออกมาหลอกหลอนผู้คนที่ถนนฮงแด สามารถพบเหล่าซอมบี้ได้เวลา 20:00-01:00 (วันเสาร์ 17:00-01:00)




Date : 25-26 October 2019
Place : Hongdae Street


4. Zombie Run Festival เทศกาลวิ่งหนีผีซอมบี้! เทศกาลสนุกๆ ที่สามารถไปร่วมวิ่งกันได้ เป็นอีกงานที่มีชื่อเสียงมากของวัยรุ่นเกาหลี ด้วยการจำลองสถานการณ์ให้เราต้องวิ่งหนีผีซอมบี้เพื่อเอาชีวิตรอดเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร แค่คิดก็สนุกแล้ว! งานนี้ต้องมีการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน และรับสมัครแบบเป็นทีม 10 คน และแต่ละคนจะต้องวิ่งเพื่อหนีจากซอมบี้ให้ได้ พร้อมกับทำภารกิจหาวัคซีน ในเวลา 1 ชั่วโมง ใครที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจแนะนำให้มาที่งานนี้เลย




Date : 26 October 2019
Time : 17:00-18:30
Place : Lotte World Tower
Admission : บัตรราคา 55,000 วอนต่อคน (ตอนนี้บัตรจำหน่ายหมดแล้วค่ะ)


5. Lotte World Horror Halloween ถ้าอยากสนุกกับเทศกาลฮาโลวีนแบบจัดเต็ม ก็ต้องมาที่สวนสนุกนี่ล่ะ สวนสนุกล็อตเต้จัดเทศกาลต้อนรับฮาโลวีนให้กับคนที่มาเที่ยวสวนสนุกได้ระทึกขวัญไปกับโซนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์ผีสิง เขาวงกต วอร์ดซอมบี้ บังเกอร์ผี ให้ได้ผจญภัยในรูปแบบใหม่ สนุกสนานและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน




Date : 30 August - 17 November 2019
Time : 9:30-22:00 (Fri.- Sun. 9:30-23:00)
Place : Lotte World
Admission : บัตรค่าเข้ามีหลายราคา สามารถเช็คได้ที่นี่ 


6. Everland Zombie Buster Blood City อีกหนึ่งสวนสนุกที่จัดงานเทศกาลฮาโลวีน และปีนี้ก็กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลประจำปี Blood City ที่จะให้เราได้ตื่นเต้นไปกับเหล่าซอมบี้ ให้เหมือนว่าเราได้ก้าวเข้าสู่หนึ่งในฉากของซีรีส์ The Walking Dead! พร้อมระทึกไปกับเครื่องเล่น T-Express ที่มีเหล่าซอมบี้นั่งไปด้วย!




Date : 30 August - 17 November 2019
Time : 10:00-22:00 
Place : Everland
Admission : บัตรค่าเข้ามีหลายราคา และมักจะมีส่วนลด สามารถเช็คส่วนลดต่างๆ ได้ที่นี่ 


7. Trickeye or Treat Halloween เปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นแบบเบาๆ บ้าง ไปถ่ายรูป 3D และ AR ที่ Trick Eye Museum ฮงแดกัน สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ ที่เสมือนจริง พร้อมธีมฮาโลวีนต้อนรับเทศกาล งานนี้ใครสายถ่ายรูปต้องจัดเลย!



Date : 11-31 October 2019
Time : 9:00-21:00 (เข้าได้ถึง 20:00) 
Place : Trick Eye Museum Hongdae
Admission : ผู้ใหญ่ 15000 วอน เด็กต่ำกว่า 18 ปี 12000 วอน 

เทศกาลฮาโลวีนที่เกาหลี ก็มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เราได้ร่วมเฉลิมฉลองกันมากมาย ใครสายไหนก็เลือกได้เลยตามใจ ไม่ว่าจะสายแดนซ์ สายปาร์ตี้ สายวิ่ง สายเที่ยว สายถ่ายรูป มีครบหมดเลยค่ะ ถ้าไปเที่ยวเกาหลีช่วงเทศกาลฮาโลวีนพอดี อย่าพลาดที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ให้ได้เลยนะ รับรองว่าจะต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน

23 ตุลาคม 2562

รีวิวเกาหลี พาเที่ยวดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ อุทยานแห่งชาติแนจางซาน (Naejangsan National Park)


สวัสดีค่ะทุกคนนนนน โซลคาเฟ่พาเที่ยววันนี้จะพาทุกคนไปดูใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ที่เกาหลีกันค่ะ เพราะฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้ตามแนวเทือกเขาต่างๆ ใบไม้ก็เริ่มจะเปลี่ยนสีแล้วด้วย อีกไม่นานเราก็จะได้เห็นใบไม้สีเหลืองแดงไปทั่วทั้งเมือง ใครมีแพลนจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ในปีนี้แล้วนั้น มินขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ อุทยานแห่งชาติแนจางซาน (Naejangsan National Park) ที่รับรองว่าสวยไม่แพ้อุทยานแห่งชาติซอรัคซานเลยล่ะค่ะ


อุทยานแห่งชาติแนจางซาน Naejangsan National Park (내장산국립공원) เป็นอุทยานที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของจังหวัดชลลาบุคโด และเป็นอุทยานที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่สองรองจากอุทยานแห่งชาติซอรัคซานในการมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีของชาวเกาหลี ซึ่งความโดดเด่นของที่นี่ก็คืออุโมงค์ต้นเมเปิ้ลหลากสีที่จะมาชมกันได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตอนนี้นั่นเองค่ะ (แนจางในภาษาเกาหลีแปลว่า 'มีความลับมากมาย') 



การเดินทางมาเที่ยวในครั้งนี้ของมิน มินใช้ บริการ 1 Day Tour จาก KKday  ค่ะ เพราะว่าแนจางซานนั้นค่อนข้างจะไกลจากโซลพอสมควร การเดินทางไปเองจะลำบากนิดหน่อยและต้องต่อรถไปยังอุทยานอีก มินก็เลยเลือกใช้บริการทัวร์เพื่อความสะดวก เพราะมีรถบัสรับส่งถึงที่ พร้อมไกด์คอยแนะนำ ใครสนใจไปทัวร์กับ KKday สามารถคลิกไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ >> http://bit.ly/2pFgEeZ  ซึ่งตอนนี้เขากำลังมีโปรโมชั่น Awesome Autumn ด้วยนะ เพียงจองเดย์ทัวร์ชมใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ใส่โค้ด KKAUTUMN10 รับส่วนลด 10% ไปเลย **หมดเขต 31 ตุลาคม 62 ระยะเวลาเดินทางถึง 31 ธันวาคม 62



แต่ถ้าใครจองไม่ทันสิ้นเดือนนี้ เขาก็ยังมอบส่วนลดให้อยู่นะ โดยใส่โค้ด KKAUTUMN7 ก็ได้ส่วนลดไปเลย 7% ค่ะ ส่วนลดนี้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 1-7 พฤศจิกายน 62 เพราะฉะนั้นใครที่วางแผนกำลังจะเดินทางไปเที่ยว แล้วสนใจเดย์ทัวร์แบบนี้ แนะนำให้รีบจองจะได้ส่วนลดก่อนใครค่ะ


จองวันเดย์ทัวร์ เที่ยวแนจางซาน >> http://bit.ly/2pFgEeZ
จองวันเดย์ทัวร์ เที่ยวซอรัคซาน >> http://bit.ly/2p5f7Pa
จองวันเดย์ทัวร์ เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีรอบกรุงโซล >> http://bit.ly/2W50uHV

มินเลือกจุดขึ้นรถใกล้กับที่พักก็คือฮงแดค่ะ รถที่ให้บริการจะเป็นรถบัส มีเพื่อนร่วมเดินทางเยอะเลย และมีไกด์คอยทำหน้าที่ดูแลเรา 1 คนค่ะ ไกด์น่ารักมากๆ ดูแลดี๊ดี 



มีขนมปังกับน้ำดื่มแจกคนละ 1 ชุดด้วยเป็นอาหารเช้า ด้วยความที่ต้องออกเดินทางแต่เช้าจึงไม่มีเวลาทานอาหารเช้าจากที่พัก ดีที่ได้ขนมปังมาไม่งั้นหิวแน่ๆ ค่ะ ใครจะเตรียมเสบียงใส่เป้ไปด้วยก็ได้นะ



วิวระหว่างทาง ออกจากเมืองสู่ชนบท

ระยะทางจากโซลไปยังแนจางซานจะใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ โดยระหว่างทาง (ครึ่งทาง) จะมีการจอดแวะที่จุดพักรถ 1 ครั้ง เพื่อให้เราเข้าห้องน้ำ หรือหาซื้ออะไรมาทานบนรถเป็นอาหารกลางวันได้ คนขับจะให้เวลาเราประมาณ 20 นาที ลงรถได้รีบเข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ และอย่าลืมจำรถตัวเองให้ดีนะเพราะรถบัสจะมาจอดเยอะมากๆ อย่าขึ้นผิดคันล่ะ



นั่งต่อมาอีกราวๆ ชั่วโมงครึ่ง (แน่นอนว่าหลับตลอดทาง) ก็ถึงอุทยานแห่งชาติแนจางซานแล้วค่ะ เย้!! ทางเข้ามาไกลทีเดียวเชียว ถ้าเดินทางมาเองคงลำบากและเสียเวลารอรถเมล์แน่ๆ


มินมาถึงแนจางซานประมาณ 11:30 ค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ เลย ทั้งคนเกาหลีเองและต่างชาติ (คนจีนเป็นส่วนใหญ่) ซึ่งบริเวณหน้าทางเข้าจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงมีโรงแรมด้วยนะ (โมเทล) ใครที่เดินทางมาเองสามารถมาแวะค้างคืนได้




จากนั้นไกด์ก็จะพาเราเดินเข้าไปยังอุทยานกันค่ะ พวกเราก็เดินตามๆ กันไป พยายามจดจำเพื่อนร่วมทางที่มารถคันเดียวกับเราไว้ด้วยนะคะ จะได้ไม่หลงกัน


แค่ทางเดินเข้าไป ใบไม้เปลี่ยนสีที่เห็นก็สวยแล้วอ่ะ ไกด์บอกว่าช่วงที่มินมานั้นเป็นช่วงที่พีคที่สุดของแนจางซานพอดี (วันที่ไปคือวันที่ 2 พฤศจิกายน) และเมื่อไหร่ที่เราได้เห็นใบไม้สีเหลือง แดง เขียว พร้อมๆ กันแล้วนั้น แปลว่านี่คือสวยที่สุดของฤดูแล้วค่ะ





เดินมาประมาณ 20 นาที (ไกลพอสมควร) ก็จะมาถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติแนจางซานค่ะ ซึ่งในทัวร์นี้จะรวมค่าเข้าเรียบร้อยแล้ว


ผ่านทางเข้าเข้าไปเพื่อไปรอขึ้นรถบัสไปยังเขาแนจางซานกันค่ะ ไกด์ก็จะให้ตั๋วรถบัสมาแบบนี้


วิวสวยๆ ระหว่างยืนรอรถบัส






พอรถบัสมาก็ขึ้นรถบัสมายังเขาแนจางซาน รถจะมาจอดที่บริเวณใกล้ๆ สถานีเคเบิ้ลคาร์ค่ะ


ไกด์ก็จะให้เวลาเราจากตรงนี้ในการเดินเที่ยว 4 ชั่วโมง หรือใครอยากจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปบนเขาก็ได้ แต่ค่าโดยสารเคเบิ้ลคาร์จะไม่รวมในแพ็คเกจทัวร์ ต้องจ่ายเองไป-กลับ คนละ 8000 วอน ส่วนตัวมินเองตัดสินใจว่าจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปค่ะ เพราะอยากรู้ว่าด้านบนเป็นยังไงบ้าง แต่จริงๆ แล้วมินแนะนำว่าเดินเที่ยวแค่ด้านล่างก็พอแล้วค่ะ มีจุดสวยๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ เพราะคนจะรอต่อคิวขึ้นเคเบิ้ลคาร์เยอะมากกกกก อาจจะทำให้เสียเวลาเที่ยวไปอีกค่ะ


ต่อคิวรออยู่ครึ่งชม.ได้ ก็ได้ขึ้นเคเบิ้ลคาร์เสียที ตรงจุดนี้วิวก็สวยอยู่นา ซึ่งจริงๆ เราสามารถเดินทางเท้าขึ้นเขาก็ได้นะ ใช้เวลาราวๆ ครึ่งชม.เช่นกัน ใครกำลังขาไหวไปก่อนเลยจ้าาาา


วิวสวยๆ ของใบไม้เปลี่ยนสีจากเคเบิ้ลคาร์ค่ะ



มาถึงยอดเขาแล้ววววววว ตอนนี้เริ่มหิวกันแล้วค่ะ เพราะบ่ายโมงแล้วยังไม่ได้กินอะไรกันเลย มองหันซ้ายขวาเจอร้านค้าเล็กๆ เลยจัดบะหมี่ถ้วยกับออมุกมากินกันสองคนกับเพื่อนค่ะ เหมือนมาปิกนิกบนยอดเขาเลย ฟินไปอีกแบบ เพราะอากาศด้านบนค่อนข้างเย็น ได้บะหมี่ร้อนๆ นี่คือดี!


อิ่มแล้วได้เวลาไปปีนเขากันแล้วล่ะค่ะ เส้นทางปีนเขาแนจางซานนั้น ระยะทางรวม 11 กิโลเมตร จะเดินผ่านทั้งหมด 8 ยอดเขา ใช้เวลารวมเดินไปกลับประมาณ 7 ชั่วโมง แน่นอนว่ามินมีเวลาไม่มากขนาดนั้น และเอาจริงไม่ได้ถนัดปีนเขาเล้ยยยยย แค่อยากมาลองดูเฉยๆ ใครที่ไม่เคยปีนเขามาก่อนแบบมิน ก็ลองดูภาพเพื่อตัดสินใจกันก่อนนะคะ เพราะเส้นทางเดินเขาจะประมาณนี้คือแคบและชันในบางช่วง บางช่วงก็ลาดชันมากต้องใช้ความกล้าและความชำนาญพอสมควร ซึ่งมินก็...ไม่มีค่ะ 55555 เดินๆ ไปนี่กลัวลื่นมากอะ เลยเดินชมวิวไปเรื่อยๆ อยู่สักครึ่งชม.ได้ก็เดินกลับค่ะ ไม่ไหวจริง >.< ยอมใจอาจุมม่ามากๆ กำลังขาแข็งแรงสุดๆ





นี่คือเทือกเขาแนจางซานในมุมสูง ที่มินกับเพื่อนเคยไปปีนมาแล้ว แม้จะระยะทางสั้นๆ ก็ตาม กลับมาดูรูปในอินเตอร์เน็ต ก็รู้สึกว้าวกับตัวเองเหมือนกันนะ เอ๊ะ....ชั้นเคยเดินมาแล้วนะ อะไรงี้ 55555

Photo by kkday

เดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อมาต่อคิวเคเบิ้ลคาร์กลับลงไปเดินเที่ยวต่อด้านล่าง ขาลงคนไม่เยอะเท่าขาขึ้นค่ะ สบายๆ มีวิวขาลงมาฝากด้วยนะ สวยมากๆ เลย



ลงมาถึงข้างล่างแล้วมินก็เหลือเวลาอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ค่ะ ก็เลยเดินเล่นถ่ายรูปแถวๆ นั้น ไม่ได้เดินไปไกลมากกลัวเดินกลับออกมาที่จุดนัดพบไม่ทัน แต่บรรยากาศก็จัดว่าดีอยู่นะคะ ใครไม่อยากเสียเวลาขึ้นไปยอดเขา แนะนำว่าเดินเล่นด้านล่างได้เลย 4 ชั่วโมงนี่คือเหลือๆ




ใบเมเปิ้ลสีเหลืองแดงเต็มไปหมดเลยยยยยยยยย



ลองเดินลึกเข้าไปบ้าง ที่อุทยานแห่งชาติแนจางซานจะมีวัดด้วยนะคะ คือวัดแบคยังซา (Baekyangsa Temple) และ วัดแนจัง (Naejang Temple) แต่มินเวลาเหลือไม่เยอะแล้วก็เลยเดินเล่นรอบๆ แทนไม่ได้เดินเข้าไปถึงในตัววัดค่ะ แอบเสียดายเหมือนกัน






และถ้าใครมีเวลา แนะนำให้เดินไปให้ถึงศาลาอูฮวาจอง (Uhwajeong Pavilion) ด้วยนะคะ เพราะที่นี่คือไฮไลท์ของแนจางซานเลย สวยมากๆ

Photo by kkday

อุทยานแห่งชาติแนจางซาน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ที่มินอยากจะแนะนำให้มาเที่ยวกันค่ะ หากว่าเบื่อไปเที่ยวซอรัคซานแล้ว ลองมาแนจางซานบ้างก็น่าสนใจนะคะ เพราะสวยไม่แพ้กันเลยล่ะ (ส่วนตัวมินชอบทั้งสองที่เลย) และไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทาง เพราะมีทัวร์ดีๆ จาก KKday คอยอำนวยความสะดวกให้เรา ส่วนตัวมินประทับใจนะคะเพราะมันสะดวกสบายจริงๆ อ่ะ ขึ้นรถปุ๊บก็หลับปั๊บเลย ตื่นมาอีกทีถึงแล้ว ขากลับนี่คือหลับยาวถึงโซลเลยค่ะบอกเลย เพราะเหนื่อย+เพลียมากๆ ถ้าเดินทางมาเองคงกลับลำบากอยู่เหมือนกัน ใครยังลังเลไม่รู้ว่าจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ที่ไหนดี มาที่นี่เลยค่ะ อุทยานแห่งชาติแนจางซาน ที่บอกเลยว่าสวยมากจริงๆ