31 มกราคม 2558

10 เมนูของหวานน่าลองในร้านกาแฟ


อย่างที่รู้ๆ กันนะคะ ว่าร้านกาแฟในเกาหลีนั้นมีเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ทั้งร้านใหญ่ ร้านเล็ก ร้านที่มีแบรนด์ มีสาขา และร้านเล็กๆ อินดี้ๆ ที่มีร้านเดียว สาขาเดียว แต่ต้องบอกตามตรงจากประสบการณ์ส่วนตัว ของคนรักกาแฟอย่างมินคือ ร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ๆ ในเกาหลี ที่เป็นของประเทศเกาหลีเองนั้น จุดขายของเขากลับไม่ใช่รสชาติของกาแฟ เหมือนร้านแบรนด์นอก หรือร้านกาแฟเล็กๆ ค่ะ แต่จุดขายของเขาอยู่ที่บรรยากาศของร้านที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยทำงาน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น รวมถึงความสะดวกสบายต่างๆ ภายในร้าน เพราะร้านจะมีขนาดใหญ่ โอ่อ่า ที่นั่งมากมาย มี Free Wi-Fi ทุกที่ มีที่เสียบชาร์ตแบต สามารถนั่งนานๆ ได้ จะนั่งจิบกาแฟ นั่งทำงาน อ่านหนังสือก็ได้ หรือจะนัดประชุมคุยงานก็มีห้อง Meeting Room ไว้รองรับ ขอเพียงสั่งเครื่องดื่มรึขนมทานเท่านั้น (คอนเซ็ปแนวเดียวกับร้านสตาร์บัคส์) แถมมีสาขาเยอะแยะมากมายทั่วประเทศ แค่ในโซลไม่ว่าจะไปย่านไหนก็เจอ เพราะมีเป็นร้อยๆ สาขา แตกต่างจากร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะนั่งไม่เยอะ ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าร้านใหญ่ (แต่กาแฟมักจะอร่อยกว่า) และมีสาขาเดียว หรือบางร้านก็มี 2-3 สาขาตามแต่ร้าน 

และนอกไปจากจุดขายที่ว่ามาทั้งหมดแล้วนั้น จุดขายที่สำคัญอย่างหนึ่งของร้านกาแฟใหญ่ๆ ก็คือ "ของหวาน" ค่ะ เพราะแต่ละร้านที่มินจะยกตัวอย่างมานั้น ล้วนแล้วแต่มีของหวานมากมายให้เลือก บางอย่างก็มีขายตลอด แต่บางอย่างก็มีขายตามฤดูกาล รวมถึงพอเปลี่ยน Season ก็มักจะมีเมนูใหม่ๆ ออกมาให้ลิ้มลองกันเสมอ เกริ่นมายาวเชียว เพียงเพื่อจะบอกว่า วันนี้มินมี 10 เมนูของหวานน่าลองในร้านกาแฟ มาฝากกัน ไปดูกันค่ะว่า เมนูไหนน่ากินบ้าง เผื่อใครจะตามไปชิมค่ะ

1.เริ่มที่ของหวานน่าลองเมนูแรก Cheesecake Choco S'more ชีสเค้กราดช็อกโกแลตและมาชเมลโลจากร้าน Caffe bene ราคา 7500 วอน ร้านนี้กาแฟรสชาติอร่อยทีเดียวค่ะ



2.Chocolate Caramel Baguette Ball ขนมปังที่ราดด้วยคาราเมลและช็อกโกแลต กินคู่กับวิปครีม ของหวานน่าลองจาก Hollys Coffee ราคา 6500 วอน เมนูนี้เหมือนจะยังไม่มีในไทย แต่ถ้าใครสนใจไปร้านในไทยก่อนเพื่อซ้อมมือ ก็อ่านที่นี่เลย อ่านรีวิวสาขาในไทย



3.Honey Butter Bread Chocolate ฮันนี่เบรดราดด้วยช็อกโกแลตและวิปครีม ราคา 4800 วอน จากร้าน Coffine Gurunaru ร้านที่มีฮันนี่เบรดอร่อยที่สุดสำหรับมิน



4.มาถึงของหวานน่าลองของร้าน Angel in us Coffee บ้าง Salty Caramel Apple Tart ทาร์ตแอปเปิ้ลที่ราดด้วยคาราเมล ราคา 5500 วอน 



5.ร้าน Twosome+ Coffee ก็มีของหวานที่น่าสนใจอย่าง Chocolate Caramel Tart หรือทาร์ตช็อกโกแลตแบบเน้นๆ ราคา 6500 วอน 



6.Iced Honey Bread ฮันนี่เบรดที่โปะด้วยไอศกรีมและวิปครีม ของหวานจากร้าน Zoo Coffee ราคา 6500 วอน 



7.ของหวานน่าลองจากร้าน Tom n Toms Coffee คือ Red Bean Cream Cheese Pretzel เพรทเซลไส้ถั่วแดงกับชีส ราคา 3700 วอน ร้านนี้ก็มีสาขาในไทย ส่วนจะมีเมนูนี้ให้ลองมั้ย ต้องลองไปกันดูค่ะ



8.มาที่ร้าน Cafe Mango Six บ้าง กับของหวานอย่าง Carrot Cake เค้กแครอทที่หน้าตาน่ากิน ราคา 6500 วอน



9.White Bean Sesame Waffle วาฟเฟิลผสมถั่วขาวและงาดำ ของหวานเพื่อสุขภาพสุดๆ จากร้าน Cafe Droptop อีกหนึ่งร้านที่กาแฟอร่อย ราคา 7000 วอน



10.สุดท้ายของของหวานที่น่าลองคือ Strawberry Waffle วาฟเฟิลที่เต็มไปด้วยสตรอเบอร์รี่สด ราคา 15000 วอน จากร้าน Beans Bins Coffee อันนี้มินขอยกมือด้วยคนเลยว่า "มันน่าลองสุดๆ ค่ะ"



ใครที่หลงใหลในของหวานต่างๆ มีโอกาสไปเที่ยวเกาหลีแล้ว ก็ลองแวะไปชิมกันดู เพราะร้านกาแฟเหล่านี้ จะมีเมนูน่ากินอีกมากมายเลยล่ะ นี่แค่ยกตัวอย่างนะ ของจริงเยอะกว่านี้อีก ไปพิสูจน์กันได้ ส่วนเรื่องรสชาติไม่ขอการันตีนะคะ เพราะยังลองชิมไม่ครบ ใครถูกใจเมนูไหน ไว้มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

30 มกราคม 2558

ตามรอย EXO Showtime : ร้านต็อกบกกี 홍대조폭떡볶이


홍대조폭떡볶이 (ฮงแดโจพกต็อกบกกี) คือหนึ่งในร้านต็อกบกกียอดนิยมในย่านฮงแด ร้านนี้ใช้ถ่ายรายการ EXO Showtime แถมออกรายการทีวีมากมาย การันตีความอร่อย มีเพียง 3 สาขา อยู่ที่ฮงแดสองสาขา อีกสาขาอยู่ที่คังนัมค่ะ แน่นอนว่า EXO มาถ่ายทำรายการกันที่สาขาฮงแด สาขาแรกของร้าน รวมถึงรายการ Running Man เทปฮงแด ก็เคยมาที่ร้านนี้เช่นเดียวกันค่ะ


홍대조폭떡볶이 ชื่อของร้านนั้น แปลว่า Gangster Tteokbokki ค่ะ ซึ่งร้านนี้ได้ถูกเลือกให้เป็นร้านต็อกบกกีที่ "อร่อยที่สุด" ในฮงแด เพราะว่าถูกปากถูกใจคนเกาหลีเขาล่ะค่ะ ส่วนตัวมินเคยทาน แต่ซื้อมาทาน ไม่ได้นั่งทานที่ร้าน ต็อกบกกีอร่อยที่สุดจริงมั้ย มินก็ไม่รู้ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบเมนูนี้อยู่แล้วค่ะ >.< แต่ว่าของทอดก็อร่อยดีนะ เอาล่ะ เดี๋ยวจะพาไปดูในร้านกัน ซึ่งปกติถ้าไม่นั่งทานในร้าน หรือไม่ซื้อกลับ เขาก็มีโต๊ะยาวๆ อยู่หน้าร้านอย่างที่เห็นในภาพ สำหรับไว้ยืนกินค่ะ ใช่แล้ว พี่เกาเขายืนกันตรงนี้เลย


ร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ นี่อาจเป็นเหตุผลที่คนมักจะยืนกินหน้าร้านมากกว่า ไม่ก็ซื้อกลับ เพราะขี้เกียจรอคิวด้วยล่ะมั้งคะ

Photo by coconuthouse.tistory.com

Photo by regmaymay.pixnet.net

มาดูหน้าตาพระเอกของเรากัน ต็อกบกกีค่ะ ราคา 3000 วอน เมนูเดียวกับที่ EXO มาลองชิมกัน

Photo by socar.tistory.com

ส่วนอันนี้คิมบัพ ราคา 3000 วอน น่ากินทีเดียว คิมบัพที่เกาหลีรสชาติคล้ายๆ กันทุกร้าน ไม่ต่างกันมากค่ะ สำหรับมินคือ ร้านไหนก็อร่อย 5555

Photo by socar.tistory.com

หรือจะเป็นเมนูนี้ดี โอเด้ง 2000 วอน

Photo by amuteun.wordpress.com

จานนี้คือซุนแดค่ะ แบบมีเครื่องในด้วย 3000 วอน

Photo by socar.tistory.com

สุดท้ายกับของทอดค่ะ เลือกได้ 5 ชิ้น ราคา 3000 วอน เช่นกัน

Photo by wjsrkf77

ใครอยากลองเมนูไหน ก็มาตามรอยกันได้เลยจ้า

Address : 60 Eoulmadang-ro, Mapo-gu, Seoul  
Tel : 02-337-9933
Open from : 11:00-06:00
How to go : ใช้เส้นทางไปตึก Sangsangmadang เช่นกัน อ่านที่นี่  และจากหน้าตึก มองไปฝั่งตรงข้ามถนนก็จะเห็นร้านต็อกบกกีแล้วล่ะค่ะ แค่ข้ามถนนไปเท่านั้นเอง

Photo by Daum Map

Photo by Daum Map


Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
























หรือมาอีกเส้นทาง รถไฟใต้ดินสาย 6 สีน้ำตาล ลงสถานีซังซู (Sangsu) ทางออกที่ 1 จากนั้นเดินตรงยาวไปตามถนน จะผ่านร้าน Kyo Bakery  เดินมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยก ที่หัวมุมเป็นร้าน DONKIN' DONUTS  ให้เลี้ยวไปทางขวา จากนั้นเดินตรงยาวไปเรื่อยๆ จะผ่าน Cafe DROPTOP ผ่านสวนสาธารณะเล็กๆ พอเดินมาเห็น 7-eleven เลยไปหน่อยเดียว จะเจอร้านอยู่ขวามือ และมองไปข้างหน้าจะเป็นตึก Sangsangmadang นั่นเองค่ะ


Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย



















เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 3




28 มกราคม 2558

ร้านไอศกรีม Snow Spoon สนุกไปกับไอศกรีมที่หลากหลาย


*ร้านนี้ปิดไปแล้วนะคะ

วันนี้นั่งๆ ทำงานอยู่ มินก็นึกถึงร้านไอศกรีมร้านนึงขึ้นมา และนึกขึ้นได้ว่าร้านนี้เคยแนะนำลงทวิตเตอร์ไปนานมากแล้ว และหลายคนก็คงจะลืมไปแล้วเช่นกัน ก็เลยจะมาย้อนความจำแล้วเขียนลงบล็อกให้อ่านกันอีกที เผื่อใครพลาดไป ร้านที่ว่านี้คือ Snow Spoon (스노우스푼) ค่ะ


ความจริงแล้วร้านมีหลายสาขา แต่มินจะพาไปดูสาขาฮงแด เพราะว่าไปง่าย แถมยังได้ตามรอยรายการ Running Man Ep.178 และ ละครเรื่อง Mary Stayed Out All Night อีกด้วย



สาขาฮงแดนี้ เปิดเมื่อปี 2010 ค่ะ เป็นร้าน Frozen Yogurt & Coffee เมนูหลักๆ ของร้านคือไอศกรีม ทำมาจากส่วนผสมที่นำเข้าจากอิตาลี มีทั้งซอฟไอศกรีม ไอศกรีมเจลาโต้ และไอศกรีมแท่ง เรียกได้ว่า ถูกใจคนรักไอศกรีมมากๆ เลยล่ะ


ภายในร้านตกแต่งได้อย่างสวยงาม ด้วยสีขาว ดูเรียบง่ายและหรูหรา แตกต่างจากร้านไอศกรีมทั่วไป ที่จะเน้นสีสันสดใส ทำให้ดูไม่หวานแหววจนเกินไปค่ะ ร้านมีขนาดกว้างขวาง และมีสองชั้นด้วยกัน




 นอกจากนี้เขายังมีพื้นที่ตรงระเบียงชั้นสอง ไว้สำหรับคนสูบบุหรี่ด้วยนะ


สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือซอฟไอศกรีม หรือ Frozen Yogurt ที่เป็นไอศกรีมแบบโฮมเมด มีส่วนผสมของผลไม้ถึง 90% มีหลายรสชาติมากๆ 



สองรสชาติใหม่ล่าสุด มินอยากชิมรสไวน์มากๆ เลย อิอิ


ซอฟไอศกรีมที่นี่จะเป็นแบบให้กดได้เอง อยากได้มากน้อยแค่ไหนตามใจ โดยจะคิดราคาเป็นกรัมค่ะ คือพอกดไอศกรีมใส่ถ้วยแล้ว ก็นำไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ เขาจะมีตาชั่งไว้ ราคาก็กรัมละ 2600 วอน เหมือนจะไม่แพงใช่มั้ยคะ แต่ถ้ากดเยอะ รึใส่ท้อปปิงมาก รับรองว่าถ้วยนึงอาจถึง 300 บาทได้ เพราะฉะนั้น ตอนกด ตอนตัก ก็อย่าเพลินล่ะ


เลือกไอศกรีมรสที่ชอบได้แล้ว ก็มาตักท้อปปิงราดไซรัปต่างๆ ได้ที่นี่เลย


ท้อปปิงก็มีให้เลือกเยอะมากๆ ไม่ว่าจะช็อกชิพ โอรีโอ เยลลี่ คอนเฟล็ก อัลมอนด์ มะพร้าว เวเฟอร์ หรือผลไม้อย่าง สับปะรด เชอร์รี่ มะม่วง เป็นต้นค่ะ 



มาลองดูไอศกรีมที่กดมาแล้วบ้างดีกว่า น่ากินทั้งนั้นเลยยยยยย อันแรกคือซอฟครีมรสธรรมดา


รสบลูเบอร์รี่


รสมะม่วง น่าลองมั้ยล่ะ


หลากรสชาติ ทั้งรสธรรมด เลมอน ชาเขียว สตอร์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และช็อกโกแลต


อันนี้ก็หลากรสเช่นกัน แบบใส่ท้อปปิงด้วย ที่เห็นสีฟ้า คือรสใหม่ค่ะ รสบลูโซดา 


นอกจากนี้ เขาก็ยังมีไอศกรีมเจลาโต้ด้วย ซึ่งก็น่ากินไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ






มีโคนสามแบบด้วยกัน


สุดท้ายกับเมนูไอศกรีมที่น่าลองมากๆ นั่นก็คือไอศกรีมแท่งค่ะ จะมีสองแบบคือ Snow Stick เป็นรสชาติทั่วไป ราคาแท่งละ 3300-4000 วอน


กับที่ออกใหม่ล่าสุดคือ Fruit Stick อันนี้ทำจากผลไม้แท้ๆ มีส่วนผสมของเนื้อผลไม้แทรกอยู่ด้วย ราคา 2500-4000 วอน



นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ทำจากไอศกรีมอีกหนึ่งอย่าง ก็คือ Gelato Sand หรือ ไอศกรีมบิสกิตนั่นเอง ชิ้นละ 3500 วอน



ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ต้องบอกว่าร้านนี้เขาเต็มไปด้วยของหวานที่ชวนให้ลิ้มลองมากมายจริงๆ เมนูเย็นๆ อย่างพัตบิงซู ก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวบิงซู หรือสตอร์เบอร์บิงซู ก็มีให้ชิมทุกฤดู แต่ถ้าใครไปช่วง Summer ล่ะก็ จะได้พบกับเมนูพิเศษอย่าง Snow Bingsu ถ้วยนี้ค่ะ


รวมถึง Grapefruit Bingsu ถ้วยนี้ด้วย


ใครที่ชอบเบเกอร์รี่ ก็อย่าน้อยใจไป เพราะที่นี่ก็มี Waffle และ Magaron ด้วยนะคะ ใครชอบทานอะไร เลือกได้เต็มที่เลย เรียกได้ว่าถ้ามากับกลุ่มเพื่อน ไม่ต้องเถียงกันเลยล่ะ เพราะมีให้เลือกเยอะมาก



ไม่เพียงแต่ของหวานเท่านั้น ร้านนี้ก็มีเครื่องดื่มด้วยนะคะ ยกตัวอย่างก็เช่น Caramel Mocha แก้วนี้ ที่หากินไม่ได้ที่ร้านไหน


หรือจะเป็น Strawberry Smoothie ก็มีค่ะ


ร้านนี้เป็นร้านนึงที่คนรักไอศกรีมไม่ควรพลาดจริงๆ เพราะมีให้เลือกมากมายตามความชอบ แถมยังดังถึงขนาดเคยลงนิตยสารญี่ปุ่นด้วย แบบนี้ไม่มาลองไม่ได้แล้วล่ะ ^^



Address : 70, Eoulmadang-ro, Mapo-gu, Seoul
Tel : 02-333-0451
Websitewww.snowspoon.co.kr
Facebook : www.facebook.com/snowspoonyogurt
Open from : Weekdays 11:00-01:00,  Weekends 11:00-02:00
How to go : ใช้เส้นทางไปตึก Sangsangmadang ได้เลยค่ะ เพราะร้านจะอยู่ตรงข้ามเยื้องกันกับตึก ดูเส้นทางได้ที่นี่



Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย























Credit : ภาพประกอบจาก Snow Spoon, seoulnavi.com, visitseoul.net