7 สิงหาคม 2561

ต้อนรับฤดูหนาวกับโปรโมชั่นเด็ด ประกันเดินทาง MSIG TRAVEL EASY


เวลาเราเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีหรือที่อื่นๆ นอกจากข้อมูลท่องเที่ยวที่จำเป็นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญไม่แพ้กันเลย ก็คือ ประกันภัยการเดินทาง ค่ะ จากประสบการณ์ตรงของมินเอง บอกเลยว่าประกันภัยการเดินทางสำคัญมากจริงๆ เพราะในระหว่างที่เราเดินทางท่องเที่ยวอยู่นั้น เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า จะเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ตั้งแต่สนามบินไปจนถึงที่หมาย เพราะฉะนั้น การทำประกันภัยการเดินทางท่องเที่ยวไปก่อน จึงเป็นวิธีที่ทำให้มินอุ่นใจก่อนเดินทางค่ะ



วันนี้มินก็เลยมีประกันภัยการเดินทางเจ้านึงมาแนะนำ นั่นก็คือ MSIG TRAVEL EASY เพื่อนเดินทางตัวจริง นอกจากจะมีแผนการคุ้มครองที่คุ้มค่าแล้วนั้น เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายก็ยังสบายกระเป๋าอีกด้วย เริ่มต้นเพียง 190 บาท (สำหรับแผน Easy Visa)

ซึ่งตอนนี้เขาก็มีโปรโมชั่นเด็ดรับฤดูหนาว เพียงซื้อประกันภัยการเดินทาง MSIG ทั้งแบบรายเที่ยวและแบบรายปี รับ SIM2FLY ฟรี!! อันนี้ดีมากๆ เลย เพราะได้ซิมไปใช้เล่นเน็ตที่เกาหลีได้เลยค่ะ



เงื่อนไข
ซื้อประกันเดินทางแบบรายเที่ยว ภายในวันที่ 1 พ.ย. 62 - 31 ม.ค. 63 ตั้งแต่ 1000 บาทขึ้นไป
- รับ SIM2FLY มูลค่า 399 บาท 1 ชิ้น /ท่าน เพียงกรอกโค้ด datasim

หรือเลือกรับเป็น
- Starbuck e-Coupon สูงสุด 800 บาท เพียงกรอกโค้ด Coffee11
- Lotus Gift Voucher สูงสุด 800 บาท เพียงกรอกโค้ด Lotus11

**หมายเหตุ - เลือกรับเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง



*********************************************************


และสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ก็แนะนำประกันเดินทางแบบรายปี เพราะคุ้มกว่าหากเดินทางเยอะ แถมตอนนี้ก็มีโปรโมชั่นแถม SIM2FLY มูลค่าสูงสุด 899 บาท ฟรี!! เช่นกันค่ะ



และสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ก็แนะนำประกันเดินทางแบบรายปี เพราะคุ้มกว่าหากเดินทางเยอะ แถมตอนนี้ก็มีโปรโมชั่นแถม SIM2FLY มูลค่าสูงสุด 899 บาท ฟรี!! เช่นกันค่ะ

เงื่อนไข
ซื้อประกันเดินทางแบบรายปี ภายในวันที่ 1 พ.ย. 62 - 31 ม.ค. 63 
- แผนประกัน Easy1 รับ Starbuck e-Coupon มูลค่า 1200 บาท + SIM2FLY มูลค่า 899 บาท
- แผนประกัน Easy2 รับ Starbuck e-Coupon มูลค่า 700 บาท + SIM2FLY มูลค่า 899 บาท

- แผนประกัน Easy3 รับ  Starbuck e-Coupon มูลค่า 700 บาท + SIM2FLY มูลค่า 399 บาท
เพียงกรอกโค้ด Coffee11

หรือ
- แผนประกัน Easy1 รับ Lotus Gift Voucher  มูลค่า 1200 บาท + SIM2FLY มูลค่า 899 บาท
- แผนประกัน Easy2 รับ Lotus Gift Voucher  มูลค่า 700 บาท + SIM2FLY มูลค่า 899 บาท

- แผนประกัน Easy3 รับ Lotus Gift Voucher  มูลค่า 700 บาท + SIM2FLY มูลค่า 399 บาท
เพียงกรอกโค้ด Lotus11


หมายเหตุ
* บัตรกำนัลสตาร์บัคส์  e-coupon จะถูกส่งเป็น SMS ไปที่เบอร์มือถือของผู้ซื้อประกัน หลังจากวันที่สมัครทำประกันภัยการเดินทาง ภายใน 15 วันทำการ
* บัตรกำนัล Lotus gift voucher จะถูกส่งไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้ หลังจากวันที่สมัครทำประกันภัยการเดินทาง ภายใน 30 วันทำการ 


ใครที่กำลังจะเดินทาง หรือมีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวแล้วนั้น มินแนะนำประกันภัยการเดินทาง MSIG TRAVEL EASY เจ้านี้เลยค่ะ เพราะมินก็ใช้อยู่เช่นกัน ซื้อง่าย ซื้อทางออนไลน์ได้เลย จ่ายเงินสะดวก รับกรมธรรม์รวดเร็วผ่านทางอีเมล แถมหากเกิดกรณีเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลที่ต่างประเทศไม่ต้องสำรองจ่าย (เฉพาะโรงพยาบาลในเครือ) และมีเบอร์โทรฉุกเฉินให้เราติดต่อได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงทั่วโลก ไม่ว่าเราจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน เกิดปัญหาในระหว่างเดินทาง กระเป๋าหาย เที่ยวบินล่าช้า หรือเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุต่างๆ การมีประกันภัยการเดินทางจะช่วยให้เราแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และคุ้มครองค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับเราอีกด้วย เรียกได้ว่าอุ่นใจทุกการเดินทางเลยล่ะค่ะ



สนใจซื้อประกันภัยการเดินทาง MSIG TRAVEL EASY >> คลิกที่นี่เลย 


4 สิงหาคม 2561

วิธีใช้ตู้ล็อกเกอร์ในสถานีรถไฟใต้ดินเกาหลี


จริงๆ แล้วมีหลายคนเคยถามมินมาว่าจะใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ที่อยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินเกาหลียังไง มินเองก็ไม่มีโอกาสได้ลองใช้สักที ก็เลยไม่ได้มารีวิว แต่บังเอิญที่ไปเกาหลีล่าสุดมา มีโอกาสได้ลองใช้พอดีค่ะ ก็เลยเกิดรีวิวนี้ขึ้นมา โดยมินจะรีวิวให้อ่านกันอย่างละเอียดทุกขึ้นตอนเหมือนเดิมค่ะ


ตู้ล็อกเกอร์ในภาษาเกาหลี เรียกว่า 물품보관 (มุลพุมโบกวานฮัม) ค่ะ มีอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดิน สถานีใหญ่ๆ หรือสถานีที่คนใช้บริการเยอะๆ (ไม่ได้มีทุกสถานี) สามารถหาได้ไม่ยาก ถ้ามีอยู่ก็จะเห็นได้ชัดเจน เป็นตู้ในลักษณะแบบนี้



ขนาดของล็อกเกอร์ก็จะมี 3 ขนาดตามนี้ค่ะ 
- ขนาดเล็ก (소) กว้าง 380mm สูง 270mm ลึก 520mm
- ขนาดกลาง (중) กว้าง 380mm สูง 570mm ลึก 520mm
- ขนาดใหญ่ (대) กว้าง 380mm สูง 870mm ลึก 520mm


ส่วนค่าบริการ จะคิดราคาดังนี้ ตู้ขนาดเล็ก/กลาง/ใหญ่ จะคิดค่าบริการ 4 ชั่วโมงแรก 2000/3000/4000 วอน ตามลำดับ และจะมีชาร์จค่าบริการเพิ่มหากเกินกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป โดยคิดเพิ่มอีก 2000/3000/4000 วอน และคิดเพิ่มทุกๆ 4 ชั่วโมงในราคาเดียวกัน รวมถึงหากเกิน 12 ชั่วโมง ก็จะคิดเพิ่มอีก 2000/3000/4000 วอน ตามลำดับ และหลังจาก 12 ชั่วโมง จะคิดเพิ่มอีกทุกๆ 12 ชั่วโมงค่ะ ไม่งงใช่มั้ย?

ยกตัวอย่าง - สมมติเช่าไปใช้เวลารวม 5 ชั่วโมง นั่นหมายถึงเราต้องจ่ายเพิ่มจากเดิมอีก 2000/3000/4000 วอน ตามแต่ขนาดกระเป๋า หรือหากเช่าไป 10 ชั่วโมง ก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 4000/6000/8000 ตามลำดับ และหากเช่าไป 24 ชั่วโมง ก็แปลว่าต้องจ่ายเพิ่ม 8000/12000/16000 วอนนั่นเองค่ะ

แต่ถ้าเราเช่าไปไม่เกิน 4 ชั่วโมงตามกำหนด เราก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม จ่ายเพียงแค่ค่าบริการตอนแรกเท่านั้น

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

คราวนี้มาดูวิธีการใช้บริการกันค่ะ โดยไปที่จอทัชสกรีนของตู้นะคะ แล้วกดเลือกภาษาอังกฤษ เพื่อง่ายต่อการใช้ค่ะ


จากนั้นให้เลือกที่ Keep เพื่อทำการฝากของ


ขั้นตอนที่ 1 : เลือกตู้ล็อกเกอร์ที่เราต้องการ โดยสีน้ำเงินในจอคือตู้ที่ยัง "ว่าง" และเราสามารถใช้ได้ จากในภาพจะเห็นว่า มีแค่เพียงตู้ล็อกเกอร์ขนาดเล็กและขนาดกลางเท่านั้นที่ใช้ได้นะคะ นอกนั้นเต็มหมดแล้ว มินจึงเลือกตู้หมายเลข 215 คือตู้ขนาดกลางค่ะ


ขั้นตอนที่ 2 : ตั้งพาสเวิร์ดของเรา 6 ตัว (ตัวเลข) เลขอะไรก็ได้ที่เราจำง่าย และต้องจำให้ได้ห้ามลืมด้วยนะคะ


ขั้นตอนที่ 3 : ใส่พาสเวิร์ดอีกครั้งเพื่อยืนยัน


ขั้นตอนที่ 4 : จะเห็นว่าค่าบริการคือเริ่มที่ 3000 วอนสำหรับตู้ขนาดกลางนะคะ (ฝากได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง) ถ้าเกินต้องจ่ายเพิ่มถึงจะเอาของออกได้ ทีนี้เรามาเลือกวิธีจ่ายเงินกันค่ะ โดยสามารถจ่ายได้ด้วยเงินสด, บัตรทีมันนี่, บัตรเครดิต และจ่ายทางมือถือ (อันนี้สำหรับคนเกาหลี) มินเลือกจ่ายด้วยเงินสดค่ะ


ขั้นตอนที่ 5 : ทำการจ่ายเงินค่ะ หากจ่ายเงินสด ก็ใส่ธนบัตรที่ตู้ได้เลย โดยสามารถจ่ายด้วยธนบัตร 1000, 5000, และ 10000 เท่านั้น รวมถึงไม่สามารถจ่ายด้วยเหรียญได้



ขั้นตอนที่ 6 : กด YES เพื่อรับใบเสร็จ แนะนำว่าให้เอาใบเสร็จด้วยนะคะ เพราะมันจะมีเวลาบอกเราว่าเราเริ่มใช้บริการตอนไหน จะได้ทราบว่าเราใช้เกินเวลาหรือยัง หรือเกินไปเท่าไหร่ (ง่ายกว่าจำ) รวมถึงหากมีปัญหาอื่นๆ เช่น ล็อกเกอร์เปิดไม่ได้หรือมีข้อผิดพลาดใดๆ ใบเสร็จนี่ล่ะค่ะที่จะช่วยยืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ว่าเราใช้บริการจริง เพราะฉะนั้น ใบเสร็จสำคัญค่ะ


หน้าตาใบเสร็จจะเป็นแบบนี้ ตรงสี่เหลี่ยมสีแดงที่มินทำไว้คือเวลาที่เริ่มใช้บริการค่ะ นั่นก็คือ 16:16:37 น.


หลังจากที่เราจ่ายเงินและรับใบเสร็จเรียบร้อย ตู้ล็อกเกอร์หมายเลขที่เราเลือกไว้ จะเด้งเปิดออกมาเองค่ะ ไม่ต้องเดินหาเลย เราก็เอาสัมภาระของเราใส่ไว้ข้างในแบบนี้ 


จากนั้นก็ปิดตู้ให้เรียบร้อยจนมีเสียงล็อกค่ะ


จากนั้นก็สามารถไปเที่ยวต่อได้แบบสบายตัว ไม่มีสัมภาระเกะกะอีกต่อไป ถึงเวลาก็มาเอาของคืนที่ตู้เดิม ง่ายมากๆ เลย ทีนี้มาดูวิธีเอาของออกจากตู้กันบ้างค่ะ เริ่มจากไปที่จอเหมือนเดิม

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกภาษาอังกฤษเหมือนเดิม แล้วเลือก Retrieve เพื่อคืนของ


ขั้นตอนที่ 2 : เลือกที่ล็อกเกอร์ของเรา อย่างของมินก็คือหมายเลข 215 ก็กดไปเลยค่ะ


ขั้นตอนที่ 3 : กด YES เพื่อยืนยันในการขอคืนของ


ขั้นตอนที่ 4 : ใส่พาสเวิร์ดของเราที่ตั้งไว้ 6 ตัว จากนั้นตู้ล็อกเกอร์ก็จะเด้งเปิดเหมือนตอนเอามาฝากเลยค่ะ ก็หยิบของออกและปิดตู้ไว้ตามเดิม


และหากว่าเราฝากเกินเวลา ก่อนที่จะได้ของออกมา หน้าจอจะบอกให้เราจ่ายเงินเพิ่มค่ะ โดยสามารถจ่ายด้วยวิธีต่างๆ เหมือนตอนเอามาฝากเลย ใครสะดวกจ่ายแบบไหนก็เลือกแบบนั้น แล้วหลังจากที่จ่ายเงินแล้ว ตู้ถึงจะเด้งเปิดให้เราค่ะ

จบรีวิวการใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ในเกาหลีแล้วนะคะ ซึ่งตู้ล็อกเกอร์ที่มินใช้บริการคือที่สถานีรถไฟใต้ดินฮงแดค่ะ เปิดให้บริการ 5:00-24:00 (ส่วนสถานีอื่นๆ มินไม่แน่ใจว่าเวลาเหมือนกันมั้ยนะคะ) ใครที่อยากจะฝากสัมภาระ หรือแม้แต่กระเป๋าเดินทาง ก็ลองมาใช้บริการกันดู ไม่ยากและก็ไม่แพงเลยล่ะค่ะ ^^