การเดินทางท่องเที่ยวในเมืองหลวงอย่างโซลนั้น สะดวกสบายอย่างมากกับการเดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมทั้งเมือง และมีทั้งหมด 11 สาย แบ่งเป็นสาย 1-9, สาย Bundang และสาย Shinbundang แต่ละสายจะถูกกำหนดด้วยตัวเลขและสี อาทิ สาย 1 สีน้ำเงิน, สาย 2 สีเขียว เป็นต้น ทำให้ง่ายต่อการจดจำและสังเกตในขณะที่้ใช้บริการ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ก็ยังมีนักเที่ยวมือใหม่ ที่กังวลใจกับการใช้บริการรถไฟใต้ดิน หรือ ซับเวย์ (Subway) อยู่ดี ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างขณะใช้บริการ ใครที่เป็นมือใหม่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะในเอนทรี่นี้ มินจะมาอธิบายการใช้บริการรถไฟใต้ดินในประเทศเกาหลี อย่างละเอียดยิ๊บ ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ
สำหรับการใช้บริการรถไฟใต้ดินนั้น จะสามารถจ่ายค่าโดยสารได้ 2 วิธีคือ Ticket และ Card สำหรับใครที่ต้องการเดินทางแค่ครั้งเดียว สามารถซื้อตั๋วแบบ Single Journey Ticket ได้ที่ตู้อัตโนมัติในสถานี โดยตั๋วแบบนี้จะเป็นตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว ที่คิดราคาค่าโดยสารเต็ม คือเริ่มที่ 1350 วอน (ค่าโดยสารจะแปรผันตามระยะทาง หากมีการเปลี่ยนสถานีค่าโดยสารจะบวกเพิ่มลงไป) เวลาซื้อตั๋วก็สามารถมองหาตู้อัตโนมัติหน้าตาแบบนี้ได้เลย
จากนั้นเลือกภาษาอังกฤษก่อน แล้วกดรูปแรกสีส้ม
หน้าถัดไปคือเลือกสถานีปลายทางที่เราจะไป โดยสามารถกดรหัสของสถานีนั้นๆ หรือถ้าไม่รู้ก็กดเสริชได้จากตัวอักษรด้านล่าง (หน้าจอตัวอย่างจะเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ แต่พอใช้งานจริง กดเลือกภาษาอังกฤษได้เลย)
สมมติว่าเราจะไปสถานี Myeongdong ก็กดตัว M หน้าจอก็จะขึ้นแบบนี้
กดเลือกเลยค่ะ
จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไปตามจำนวน โดยสามารถจ่ายได้ทั้งธนบัตร และเหรียญ ถ้าใส่เกิน ตู้จะทอนเงินให้ค่ะ
เพียงแค่นี้ก็ได้ตั๋วแบบเที่ยวเดียวมาเรียบร้อยค่ะ
ส่วนสำหรับใครที่ต้องเดินทางหลายครั้ง หรือมาเที่ยวหลายๆ วัน มินแนะนำให้ใช้แบบ Card จะดีกว่า เพราะจะได้ส่วนลดอัตโนมัติในการเดินทางเที่ยวละ 100 วอน (จาก 1350 วอน เหลือ 1250 วอน) แถมไม่ต้องเสียเวลามาซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ ด้วยค่ะ ซึ่ง Card หรือบัตรโดยสารนั้นก็มีหลายแบบ ที่เบสิคสุดก็คือ T-money Card แบบนี้ ใช้ได้ตลอดไม่มีวันหมดอายุ ไม่ว่าจะมาเกาหลีอีกกี่ครั้ง ก็ใช้ใบเดิมได้ตลอดเลยล่ะค่ะ ซึ่งบัตรทีมันนี่นั้น สามารถซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ หรือตู้อัตโนมัติแบบด้านบนก็ได้ ราคาบัตร (แบบใหม่) 3000 วอน (รวมค่ามัดจำบัตรแล้ว) ซึ่งหากซื้อที่ตู้ ก็กดเลือกรูปสุดท้ายที่เป็นสัญลักษณ์ T-money ได้เลย อ่านรายละเอียดบัตรทีมันนี่
และบัตรทีมันนี่นั้น สามารถเติมเงินใส่บัตรได้เองตามตู้อัตโนมัติในสถานีเช่นกัน (คนละตู้กับตู้ขายตั๋ว) ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าเงินในบัตรจะหมดตอนแตะบัตร เพราะตู้เติมเงินจะตั้งอยู่ก่อนถึงชานชาลาในทุกสถานีเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นหากไม่แน่ใจว่าเรามีเงินเหลือในบัตรเท่าไหร่ และเพียงพอต่อการโดยสารต่อหรือไม่ ก่อนจะเดินไปชานชาลา หรือเปลี่ยนสายรถ ก็เช็คที่ตู้ก่อนได้นะคะ ถ้าเหลือไม่พอ ก็เติมเงินได้เลย สะดวกสุดๆ อ่านรายละเอียดวิธีเติมเงินบัตรโดยสารที่ตู้อัตโนมัติ
เอาล่ะค่ะ พอเรามีตั๋วโดยสาร และบัตรโดยสารแล้ว ก็ถึงเวลาใช้บริการเสียที ก่อนจะแตะบัตรผ่านเข้าไปยังชานชาลา เราต้องรู้ก่อนว่ารถไฟฝั่งไหนจะไปทางไหน เพราะรถไฟจะมี 2 ขบวนวิ่งสวนกัน (เหมือนบ้านเรานั่นล่ะค่ะ) เพื่อไม่เป็นการนั่งไปผิดทางผิดทิศ ก็ควรอ่านป้ายที่จะติดบอกตามเสา หรือตามกำแพงแบบนี้ให้ดีก่อน และเลือกให้ถูกฝั่งก่อนจะแตะบัตรเข้าไป เพราะบางสถานีรถไฟทั้งสองขบวนไม่ได้รอที่ชานชาลาเดียวกัน แต่อยู่คนละทิศเลยก็มี นอกจากเสียเวลาเดินวนกลับไปใหม่ในกรณีที่เดินลงมาผิดแล้ว ยังต้องแตะบัตรใหม่ เท่ากับว่าเสียเงินไปฟรีๆ ด้วยนะ
ถ้าไม่รู้ก็มาดูที่แผนที่ก่อนก็ได้นะ เขามีติดบอกไว้ทุกสถานีค่ะ
เมื่อรู้แล้วว่าเราจะต้องเข้าชานชาลาฝั่งไหน ก็มองหาประตูที่กั้นแบบนี้ และเข้าช่องที่ลูกศรสีเขียว ถ้าช่องไหนเป็นสีแดง แปลว่าสำหรับคนที่เดินสวนออกมาค่ะ
แตะบัตรโดยสาร หรือตั๋วโดยสารด้านบนแบบนี้ เพื่อเดินผ่านที่กั้นไปยังชานชาลา
หากบัตรมีเงินพอที่จะผ่านเข้าไปได้ ที่หน้าจอจะขึ้นรูปวงกลมสีเขียวแบบนี้ (ถ้าเงินไม่พอ หน้าจอจะขึ้นกากบาทสีแดง) และตัวเลขด้านล่าง จะบอกค่าโดยสาร และจำนวนเงินที่เหลือในบัตร (ในกรณีใช้บัตรโดยสาร)
สำหรับเด็กที่มีความสูงต่ำกว่าประตูนี้ (หรือต่ำกว่า 6 ปี) ก็สามารถใช้บริการได้ฟรี แต่ถ้าสูงกว่านี้ หรืออายุ 6-12 ปี ต้องซื้อตั๋วหรือบัตรโดยสารสำหรับเด็กค่ะ
เมื่อผ่านเข้ามาแล้ว ก็เดินตามทางเพื่อไปยังชานชาลาอีกที (หลายๆ สถานีพอแตะบัตรแล้ว ยังต้องเดินตามเส้นทางไปอีกค่อนข้างไกล กว่าจะเจอชานชาลา เพราะฉะนั้น เดินตามๆ เขาไป ไม่ต้องงงค่ะ)
พอเดินลงมาถึงด้านล่าง ชานชาลาที่รอรถไฟใต้ดิน ก็จะพบบรรยากาศแบบนี้ (หรืออาจเจอคนหนาแน่นมากในช่วงตอนเช้าและเย็น แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงช่วงก่อน 8:00 และหลังเลิกงาน)
ทุกชานชาลามักจะมีตู้ขายน้ำอัตโนมัติแบบนี้ด้วย ในสถานีรถไฟใต้ดินที่นี่ ไม่ห้ามการกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มใดๆ บนรถไฟค่ะ สามารถกินได้เลย แต่เก็บขยะไปทิ้งด้วยนะคะ
และที่ชานชาลา จะมีป้ายติดบอกทุกอัน ว่ารถไฟขบวนนี้จะไปทางไหน ก่อนจะขึ้นอาจจะดูอีกสักครั้งก่อนเพื่อความชัวร์ก็ดีนะคะ เพราะถ้าขึ้นผิด นอกจากจะงงแล้ว ยังเสียเวลาอีกด้วย วิธีดูคือ ที่เกาหลีจะไม่ได้บอกสถานีปลายทางนะคะ แต่จะบอกสถานีถัดไป เพราะฉะนั้น เราต้องรู้ด้วยว่าปลายทางที่เราจะไปนั้น มันผ่านสถานีอะไรบ้าง ก็สามารถดูได้จากตารางรถไฟใต้ดินจากแผนที่ในมือ จากแอพพลิเคชั่นในมือถือ หรือจากเว็บไซต์ก็ได้ตามสะดวกค่ะ ยกตัวอย่างในภาพ เช่นตอนนี้มินอยู่สถานี Gangnam-gu Office (รหัสสถานี K213) และมินต้องการจะไปสถานี Seoul Forest (รหัสสถานี K211) จากแผนที่ด้านล่าง จะเห็นว่ามันต้องผ่านสถานี Apgujeong Rodeo ก่อน
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
และจากป้ายที่บอก ลูกศรสีเหลืองชี้ว่า รถไฟขบวนนี้จะวิ่งไปทางสถานี Apgujeong Rodeo (รหัสสถานี K212) แปลว่า มินขึ้นถูกขบวนแล้วล่ะค่ะ (ไม่งงกันใช่มั้ยเอ่ย)
และระหว่างรอรถไฟ ก็จะมีจอคอยบอกว่า รถไฟจะมาถึงสถานีที่เราอยู่ตอนเวลากี่โมง (ในภาพคือรถไฟจะมาเวลา 15:39) รวมถึงบอกด้วยว่ารถไฟที่สถานีนี้ คันแรกและคันสุดท้ายจะให้บริการเวลาเท่าไหร่ค่ะ นั่นก็คือ คันแรกเริ่มเวลา 05:41 และคันสุดท้ายของสถานีนี้คือ 23:55 ซึ่งรถไฟในแต่ละสถานี จะเริ่มและหมดเวลาไม่ตรงกันนะคะ แต่ให้จำไว้โดยประมาณคือ คันแรกเริ่มประมาณ 05:30 และคันสุดท้ายประมาณ 24:00 เพื่อที่จะได้ไม่พลาดรถไฟขบวนสุดท้ายตอนดึกนะคะ (หากเป็นปูซานรถไฟมักจะหมดก่อนในโซล 1 ชม. คือหมดประมาณ 23:00)
ก่อนจะขึ้นรถไฟ ก็ต้องยืนรอหลังเส้นเหมือนบ้านเรา และควรต่อแถวให้เป็นระเบียบด้วยนะคะ อ้อ อาจต้องทำใจนิดนึงว่า คนเกาหลีค่อนข้างจะเร่งรีบมาก ในเวลาเร่งด่วน คนอาจจะเยอะและเบียดเสียดกันมาก รวมถึงเราอาจจะโดนคนด้านหลังดันได้ ก็อย่าไปถือสาให้เสียอารมณ์ เพราะถ้าอยู่ไปนานๆ หลายวัน จะชินไปเองค่ะ
บรรยากาศบนรถไฟใต้ดิน
ในรถไฟใต้ดินจะมีแผนที่บอกว่ารถไฟขบวนนี้จะผ่านสถานีไหนบ้าง และที่สถานีไหนที่มีห้องน้ำ มันเริ่ดมากจริงๆ เพราะเผื่อมีกรณีฉุกเฉินต้องเข้าห้องน้ำด่วน จะได้รู้ว่าเราลงสถานีใดได้บ้างก่อนถึงปลายทาง
และบนรถไฟใต้ดินที่นี่ ก็มีการกันที่นั่งไว้สำหรับ คนพิการ คนชรา คนท้อง และคนที่มีเด็กเล็ก ด้วยค่ะ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ท้ายๆ ขบวน ที่นั่งตรงนี้ความจริงแล้ว ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าวขึ้นมา เราสามารถนั่งได้นะคะ ไม่ผิดมารยาท แต่ว่าถ้าบุคคลเหล่านี้ขึ้นรถไฟมาเมื่อไหร่ เราต้องรีบสละที่นั่งให้ทันที ส่วนสตรีและเด็ก สำหรับคนที่นี่ ถือว่าเป็นคนแข็งแรงที่ไม่จำเป็นต้องสละที่นั่งให้ก็ได้ค่ะ
ระหว่างโดยสาร ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลงสถานีไม่ถูก เพราะบนรถไฟในปัจจุบันนี้ มีเสียงบอกทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่นเลยล่ะ สะดวกกว่าเมื่อก่อนมากๆ รวมถึงมีเสียงบอกด้วยว่า ประตูจะเปิดฝั่งไหน ซ้ายหรือขวา และบางขบวนก็มี Digital Sign Board บอกด้วยเช่นกันค่ะ
และในรถไฟใต้ดินก็มีสัญญาณ Wi-Fi ด้วยนะ (ไม่ฟรี)
เมื่อถึงสถานีปลายทางที่เราจะลงแล้ว ออกจากรถไฟมาก็มองหาป้ายบอกทางออกกันค่ะ ทางออกที่นี่จะเป็นตัวเลข เช่น Exit 1 (บางสถานีจะใช้คำว่า Way Out บางสถานีใช้คำว่า Exit) เพราะฉะนั้น เมื่อเรามาถึงปลายทางแล้ว เราต้องรู้ด้วยนะคะว่า เราจะออกทางออกไหน เพื่อไปยังสถานที่ที่ต้องการค่ะ ป้ายทางออกก็จะหน้าตาประมาณนี้
ในสถานีจะมีทั้งบันไดธรรมดา และบันไดเลื่อน ซึ่งบันไดที่เกาหลี จะต้องเดิน "ชิดขวา" เสมอนะคะ ตรงนี้ต้องจำให้แม่น เพราะช่องซ้าย ไว้สำหรับคนที่รีบเขาจะวิ่งขึ้นลงบันไดกันค่ะ ถ้าเราไม่รู้แล้วไปยืนขวาง หากมีคนรีบๆ อยู่ด้านหลังเรา โดนด่าไม่รู้ด้วยนะคะ
แต่ถ้าใครมีสัมภาระเยอะ เดินขึ้นบันไดไม่สะดวก หรือมีผู้สูงอายุ คนพิการ เดินทางมาด้วย มินแนะนำให้ใช้ลิฟต์แทนบันได โดยมองหาสัญลักษณ์ลิฟต์ภายในสถานีแล้วเดินตามลูกศรไปเลยค่ะ
หน้าตาลิฟต์ในสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ (ส่วนมากมีทุกสถานี)
และที่ถนนก็มีลิฟต์แบบนี้เช่นกัน สามารถลงลิฟต์ไปใต้ดินเพื่อขึ้นรถไฟได้เลย
รวมถึงนี่คือหน้าตาของทางเข้า-ออก สถานีรถไฟใต้ดินค่ะ
คราวนี้มาถึงคนที่ต้องการเปลี่ยนสายรถไฟบ้างนะคะ เมื่อเรานั่งมาถึงสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อแล้ว ก็มองหาป้าย Transfer แบบนี้ เราจะไปต่อรถไฟสายไหน สีอะไร ก็เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ เลย ซึ่งการเปลี่ยนสายนี้ จะเดินอยู่ในสถานีนะคะ ไม่ต้องออกไปยังถนนด้านนอก (ซึ่งบางสถานีก็เดินไกลมากกกกกกกจริงๆ แต่ไม่ต้องกลัวหลงหรือหาไม่เจอ เพราะมีป้ายบอกตลอดทาง)
ตอนขึ้นรถไฟขบวนต่อไปนั้น ก็ทำเหมือนเดิมทุกประการเลยค่ะ ต้องแตะบัตรโดยสารผ่านเข้าไปยังชานชาลาอีกครั้ง หากเราซื้อตั๋วเที่ยวเดียวมา ค่าโดยสารจะบวกไว้แล้ว ก็แตะบัตรเดินผ่านไปได้เลย ยกเว้นว่าเราจะนั่งไปลงสถานีอื่น (ในกรณีที่จะเปลี่ยนใจ) แล้วค่าโดยสารอาจจะแพงกว่าที่เราซื้อมา บัตรโดยสารนั้นอาจจะใช้ไม่ได้นะคะ เพราะเงินไม่พอ เพราะฉะนั้น จะไปลงที่ไหน ก็กดซื้อให้ถูกต้องด้วยค่ะ ส่วนหากใช้บัตรโดยสารอย่างทีมันนี่ ระบบจะหักเงินค่าเปลี่ยนสายอัตโนมัติค่ะ
เมื่อถึงปลายทาง และเดินออกจากประตูกั้นมาแล้ว หากใครที่ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวมา แล้วอยากได้เงินมัดจำคืน ก็สามารถเอาตั๋วมาคืนที่ตู้ Deposit Refund Device แบบนี้ ก่อนจะเดินออกจากสถานีไปก็ได้ค่ะ
ทำได้โดยการเสียบตั๋วไปแบบนี้
แล้วก็จะได้รับเงินมัดจำคืนมา 500 วอนค่ะ ส่วนใครที่ซื้อบัตรทีมันนี่ หรือบัตรโดยสารอื่นๆ ที่จะมีการมัดจำบัตรไว้เช่นกัน ถ้าวันสุดท้ายก่อนกลับ มั่นใจว่าไม่ได้ใช้เดินทางอีก และไม่อยากเก็บบัตรไว้ ก็มาคืนบัตรที่ตู้นี้ได้เช่นกัน โดยจะได้เงินที่คงเหลือในบัตรคืน (เงินสดที่เติมไว้) และได้ค่ามัดจำบัตรคืนอีก 2500 วอน (หักค่าธรรมเนียมบัตรไป 500 วอน) แต่ถ้าใครคิดว่าจะกลับมาเที่ยวอีก มินก็แนะนำว่า เก็บบัตรไว้เถอะค่ะ เพราะมันใช้ได้ตลอดแค่เติมเงินใส่บัตรเท่านั้น แถมยังให้เพื่อนยืมใช้ได้ด้วย เผื่อใครมาเที่ยวเกาหลี จะได้ไมต้องเสียเงินซื้อบัตรอีกไง
สุดท้ายก่อนจบเอนทรี่อันแสนยาวเหยียดนี้ มินมีภาพบรรยากาศร้านค้าต่างๆ ภายในสถานีรถไฟใต้ดินที่เกาหลีมาฝากกัน จะเห็นเลยว่า มีครบหมดทั้งร้านขายของ ร้านเครื่องสำอาง ร้านขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ให้เราแวะซื้อแวะช้อปก่อนไปเที่ยวหรือกลับจากเที่ยวได้สบายเลยละค่ะ และบอกเลยว่า แม้ในสถานีรถไฟใต้ดินเกาหลี จะมีร้านของกินมากมาย แต่ภายในสถานีสะอาดมาก ไม่มีเศษขยะ ขวดน้ำ แก้วน้ำ วางทิ้งไว้ให้เห็นเลยล่ะค่ะ เพราะทุกคนมีวินัยและมีความรับผิดชอบ เขาจึงไม่ห้ามให้กินอาหารในนี้ยังไงล่ะ
อ้อ และในสถานีรถไฟใต้ดิน ก็จะมีโทรศัพท์ฉุกเฉินแบบนี้ด้วย มีเหตุด่วนเหตุร้ายอะไร ก็กดโทรแจ้งได้เลยค่ะ
ก็ครบแล้วนะคะ สำหรับวิธีการใช้รถไฟใต้ดินแบบละเอียดสุดๆ คราวนี้ต่อให้มาเที่ยวครั้งแรก ก็สามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินได้เองอย่างง่ายๆ แบบที่ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะค่ะ ^^
Credit : ภาพประกอบบางส่วนจาก seoulnavi.com
loveเลย คร้า ขอบคุณจร้า
ตอบลบเค้ามีลิฟ ทุกสถานีมั้ยคะแอด พอดีเดินไม่ค่อยสะดวกค่ะ กำลังคิดว่าจะเอาที่เดินไปด้วย แต่ก็กลัวไม่มีลิฟทุกสถานีค่ะ
ตอบลบมินก็ไม่เคยลงทุกสถานีเนอะ แต่ส่วนมากสถานทีที่ลงบ่อยๆ ก็เห็นมีทุกที่นะคะ และส่วนตัวคิดว่ามันน่าจะมีทุกสถานีนะ
ลบสุดยอดเลยค่ะคุณมิน ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบบัตรทีมันนี่ไม่ต้องเอาไปเลือกสายแบบ Single Journey Ticket แค่เอาไปแตะเลยใช่มั้ยคะพี่มิน
ตอบลบใช่ค่ะ
ลบรบกวนหน่อยนะคะ
ตอบลบถ้าไปเรียนที่เกาหลี
ใช้บัตร T- money
จะดีกว่าใช่ไหมคะ ^^
จริงๆคนที่ไปอยู่นานๆ มันเหมือนจะมีการ์ดอื่นๆให้เลือกใช้นะคะ ของเจ้าอื่นๆที่พ่วงเอกสิทธิ์นั่นนี่มาด้วย แบบที่คนท้องถิ่นเค้าใช้กัน เพราะทีมันนี่ถูกทำขึ้นมาเพื่อนักท่องเที่ยวมากกว่า แต่แอดไม่เคยไปอยู่ เลยไม่รู้ว่ามันมีอะไรที่คนที่นั่นใช้บ้าง ถ้าได้ลองไปแล้ว ลองสอบถามเพื่อนๆ ที่นั่นก็ได้ค่ะ ว่าบ้านเค้าใช้แบบไหนกัน เผือมันมีสิทะิประโยชน์ที่มากกว่าทีมันนี่ธรรมดาค่ะ
ลบขอบคุณมากค่ะคุณมิน ข้อมูลดี เป็นประโยชน์มากค่ะ กำลังจะเดินทางไปเกาหลีครั้งแรก แล้วต้องใช้บริการรถไฟใต้ดิน ไม่กังวลแล้วค่ะ
ตอบลบพี่คะ ถ้าเราจะเปลี่ยนสายก็เดินตามป้ายไปยังชานชาลาของอีกสายแล้วมันจะไม่มีให้แตะบัตรอีกใช่ไหมคะ เพราะมันจะคำนวณจากสถานีต้นทางและปลายทาง เค้าเข้าใจถูกมั้ย
ตอบลบต้องแตะอีกค่ะ ที่ระบบคำนวฯคือคำนวนยอดรวมให้เรารู้ค่ะ ว่าถ้าจะเปลี่ยนสายไปปลายทางค่ารถรวมเท่าไหร่ เราต้องแตะทุกครั้งที่เดินผ่านที่กั้นค่ะ
ลบพี่ค่ะอยากสอบถาม ถ้าจากสถานีoryu-dong มันสายสีน้ำเงิน จะไปEwha womans univ สายสีเขียว
ตอบลบอยากสอบถามค่ะดูในแอพเหมือนจะให้เปลี่ยนสายที่sindorim เราต้องลงที่sindorimสายสีน้ำเงินเพื่อไปขึ้นsindorimสายสีเขียวถูกมั้ยค่ะ งงไปหมดช่วยตอบหน่อยค๊าา
นั่งลงไปสถานี Sindorim แล้วเปลี่ยนสายสีเขียว นั่งไป Ewha womans univ ค่ะ
ลบถ้านั่งจากสถานีsinchonเพื่อจะไปสนามบินต้องไปเปลี่ยนสายที่สถานีไหนครับ เพื่อจะต่อไปสนามบินอ่ะครับ
ตอบลบนั่งสาย 2 ไปลงสถานี Hongik univ. ค่ะ แล้วต่อ AREX ไปสนามบินได้เลยค่ะ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบขอบคุณค่ะ แต่เห็นป้ายห้องน้ำชัดๆ จังเลยค่ะ
ตอบลบรถไฟใต้ดินเกาหลีเค้าคิดราคายังไงอะคะ แบบต่อป้ายคิดเท่าไหร่ ต่อสถานี หรือคิดยังไงหรอ พอดีอยากทราบว่าประมาณกี่วอน
ตอบลบค่าบริการเค้าคิดตามระยะทางใกล้ไกล เริ่มที่ 1350 วอน (ถ้าใช้ทีมันนี่ลด 100 วอน เหลือ 1250 วอน)
ลบอยากทราบค่าโดยสาร ศึกษาและดูได้จากเว็บนี้นะคะ มันมีคำนวนให้เสร็จสรรพ http://www.smrt.co.kr/program/cyberStation/main2.jsp?lang=e
Wifi บนรถไฟฟ้าใต้ดินต้องซื้อหรอคะ แล้วซื้อที่ไหนคะ
ตอบลบWiFi บนรถ มันสำหรับคนที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเจ้านั้นๆอยู่แล้ว เมื่อไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ติดป้ายเครือข่ายเจ้าที่เราใช้ ก็จะสามารถเชื่อมต่อแล้วใช้ได้เลย ไม่ได้ซื้อที่ไหนแล้วเอาไปใช้ได้ค่ะ
ลบจะนั่งจากอินชอนไปyongsan แนะนำทีจร้า
ตอบลบศึกษาและดูเส้นทางจากเว็บนะคะ http://www.smrt.co.kr/program/cyberStation/main2.jsp?lang=e
ลบคุณมินคะ พอดีอายุ 24 ปี แล้วราคา Teenagers นี้ ตอนซื้อต้องทำยังไงถึงจะได้ราคานี้คะ
ตอบลบอายุ 24 ต้องใช้บัตรผู้ใหญ่ จ่ายราคาผู้ใหญ่ค่ะ Teenagers สำหรับต่ำกว่า 18 ปีนะคะ
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบทุกครั้งที่เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินต้องซื้อตั๋วที่ตู้ใช่ไหมค่ะ
ตอบลบถ้าขึ้นรถบัสซื้อตั๋วยังไงค่ะ
ที่เกาหลีมีบัตรโดยสารชื่อ T-money ใช้จ่ายรุไฟใต้ดินได้นะคะ ไม่ต้องไปซื้อทีละเที่ยวให้เสียเวลา ส่วนรถบัส หมายถึงรถบัสข้ามเมืองหรือรถเมล์คะ? ถ้ารถบัสข้ามเมืองก็ไปซื้อที่สถานี เหมือนหมอชิตบ้านเรา ถ้ารถเมล์ก็ใช้ทีมันนี่ได้เช่นกัน
ลบรถไฟใต้ดินสายทั่วไป ปิดประมาณเที่ยงคืน (หรือช้าเร็วกว่านั้น แล้วแต่สถานี) ส่วน AREX เปิดปิดตามเวลาที่เขียนในบล็อกเลยค่ะ รถไฟ AREX ถ้าไม่ได้นั่งแบบ Expresss ที่ไม่จอดสถานีใดเลย ต้องซื้อตั๋ว แต่ถ้านั่งแบบธรรมดา ใช้ทีมันนี่จ่ายได้เลย ส่วนตั๋วไม่แน่ใจนะคะ แต่คิดว่าน่าจะซื้อที่สถานีในสนามบินล่วงหน้าได้ค่ะ ลองสอบถามจนท.ดูนะคะ
ตอบลบมีแพลนไปเกาหลี แต่งงกับแผนที่รถไฟใต้ดินมากค่ะ แบบว่าสายไหนสีอะไร สังเกตอย่างไร ส่วนตัวเป็นคนดูแผนที่ไม่เป็นด้วย รบกวนแอดมินแนะนำหน่อยได้หรือเปล่าคะ
ตอบลบhttp://seoulcafe2013.blogspot.com/2013/02/blog-post_27.html
ลบสอบถามเรื่องบัตรรถไฟฟ้าค่าาา
ตอบลบคือเคยไปเรียนที่นู่นแล้วมี T-money อยู่ ตั้งแต่ปี 2013
เห็นตอนนี้มี cashbee card มาด้วย มันแตกกต่างกันยังไงบ้างคะ
แล้วมีแผนจะไปปูซาน เชจูด้วยค่ะ บัตรพวกนี้ใช้ได้หรือเปล่า
บัตรทีมันนี่เนี่ย มันมีหลายเจ้าทำค่ะ cashbee คือหนึ่งในนั้น ใบที่มีอยู่ใช้ได้ทั้งโซลทั้งปูซานค่ะ เชจูไม่มีรถไฟใต้ดินนะคะ เป็นเกาะ
ลบเพิ่งไปกลับมาค่ะ แต่เลือกชนิดตั๋วผิด ไปกดสีม่วงเข้า เข้าสถานีได้ แต่ทำไมออกไม่ได้ค่ะ ค่ามัดจำตั๋ว 1000 วอน ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร
ตอบลบถ้าเปลี่ยนสายเป็น airport จะเหมือนกับเปลี่ยน line ปกติมั้ยคะ แล้วมีป้ายบอกทางมั้ยคะ
ตอบลบเหมือนกันค่ะ มีป้ายบอกค่ะ
ลบถ้าจากในโซลจะไปเกาะนามิจะต้องนั่งรถอะไรไปค่ะ และใช้เวลาประมาณกี่ชั่วโมง
ตอบลบขอบคุณคะ
เสริช เกาะนามิ ในบลอกนี้ จะมีบทความรีวิวบอกวิธีไปค่ะ
ลบจะพาลูกไปเที่ยว อายุเกือบ 6 ขวบ สูง 116 cm ต้องซื้อตั๋วยังไงคะ ต้องซื้อเที่ยวต่อเที่ยวมั้ยคะ เราเคยไปใช้แต่ทีมันนี่ตลอด แต่กับเด็กไม่ทราบข้อมูลเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ
ตอบลบซื้อบัตรเด็ก (Child) สำหรับคนที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จากตู้อัตโนมัติค่ะ รายละเอียด
ลบhttp://seoulcafe2013.blogspot.com/2016/07/t-money.html
ขอบคุณคับแอด ได้ความรู้และความเข้าใจมากขึ้นมากเลยคับ
ตอบลบอยากทราบว่าเวลาเปลี่ยนสายต้องแตะบัตรอีกครั้งเพื่อเข้าไปยังสายนั้นๆ มันจะคิดค่าโดยสารใหม่เลยรึเปล่าคะ อย่างสมมุติว่าสายแรกราคาเริ่มที่1,250วอน(T-Money) แต่ถ้านั่งไกลๆเรทการคิดจะเพิ่มตามที่ระบบคำนวนไว้ แล้วถ้าเปลี่ยนสายแตะเข้าไปสายใหม่ มันจะคิดเป็นเรทระยะทางต่อจากเดิมจนกว่าจะถึงปลายทางหรือว่าก็คิดราคาเริ่มต้นใหม่ของรถไฟใต้ดินหลายสาย ที่ราคา1,250วอน เหมือนกันคะ ถ้ามาตอบจะขอบคุณมากคร่า
ตอบลบขอบคุณมากค่าาา แต่ยังมีเรื่องสงสัยอีกนิดหน่อยพอจะตอบอีกได้ไหมคะ�� ถ้าวันนึงเราเดินทางแค่ภายในโซลย่านใกล้ๆกันแต่เดินทางจะไปจุดเดียวแต่ต้องเปลี่ยนสาย2-3สาย กว่าจะถึงที่หมายถึงได้แตะออกจากสถานีใต้ดิน แบบนี้ถ้าเริ่มคิดราคาที่1,250วอน แต่เปลี่ยนหลายๆสายภายในการเดินทาง1ครั้งมันจะคิดเท่าเดิมตลอดสายเพราะว่าไม่ไกลมากหรือคิดเรทเพิ่มตามกฏคะ เพราะเราลองดูการคำนวนในNever Map มันจะบอกทั้งเวลาและราคาแม้จะเปลี่ยนหลายๆสายมันก็คิดราคาไม่เกิน1,250-1,350วอนอ่ะค่ะ เหมือนมันจะคิดเป็นรอบในราคาประมาณนี้มากกว่ารึเปล่าคะ
ลบอยากสอบถามว่าถ้าใช้บัตร t-money เเล้ว ต้องซื้อบัตรอีกไหมคะ
ตอบลบ2019 เงิน / ลืมเกี่ยวกับการรับเงินกู้
ตอบลบรับบัตร ATM และบัตรเครดิตของคุณในราคาที่ไม่แพง
* เราขายบัตรนี้ให้กับลูกค้าของเราและผู้ซื้อที่สนใจทั่วโลก
บัตรนี้มีขีด จำกัด ในการถอนรายวันที่ $ 5,000 และสูงถึง $ 50,000 การใช้จ่าย
จำกัด ในร้านค้าและไม่ จำกัด บน POS *
* email blankatm156@gmail.com
* เว็บไซต์: https://blankatm001.wixsite.com/blankatmhacker
* คุณสามารถโทรหาเราหรือ whatsapp ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับการรู้แจ้งเพิ่มเติม
+1 (301) 329-5298
* ระวังผู้หลอกลวงและผู้ปลอมแปลงปลอมแปลงให้เรา แต่พวกเขาไม่ได้มาจาก
ติดต่อเราติดต่อผ่านทางนี้เท่านั้นติดต่อ *
เราเป็นของจริงและถูกกฎหมาย ........... 2019 เงิน / ลืมเกี่ยวกับการรับเงินกู้
ขอวิธีขึ้นรถไฟใต้ดิน SRT หน่อยครับ
ตอบลบเพื่อแนะนำตัวเองอย่างถูกต้องฉันชื่อมิสเตอร์ไมเคิลเบนสันเป็นผู้ให้กู้ส่วนตัวฉันให้เงินกู้ขั้นต่ำ 5,000 ยูโรหรือเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น ๆ สำหรับเงินกู้จำนวนใด ๆ ในอัตราดอกเบี้ย 3% นี่คือโอกาสทางการเงินสำหรับคุณ ประตูรับเงินกู้ 2021 ของคุณอย่างรวดเร็ว มีผู้คนมากมายที่มองหาโอกาสทางการเงินหรือความช่วยเหลือจากทั่วทุกมุมและใน Places และพวกเขายังหาไม่ได้ แต่นี่คือ โอกาสทางการเงินอยู่ใกล้แค่เอื้อมดังนั้นคุณจึงไม่ควรพลาดโอกาสนี้ บริการนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคล บริษัท นักธุรกิจและสตรีและมีจำนวนเท่าใดก็ได้ที่คุณต้องการสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราทางอีเมล: MICHEALBENSONLOANAGENCY@GMAIL.COM, ติดต่อ@Michealbensonagency.com
ตอบลบแบบฟอร์มการขอสินเชื่อและส่งคืนเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: https://michealbensonagency.com/,Whatsapp:+593962046134.
ชื่อเต็ม .................
เบอร์โทรส่วนตัว ................
ประเทศ ..................
ที่อยู่ ................
สถานะ ...............
ปี ..............
คุณเคยสมัครมาก่อนหรือไม่ .............
สถานะ ..............
จำนวนเงินกู้ที่ต้องการ ..................
ระยะเวลากู้ ................
อาชีพ.................
รายได้ต่อเดือน .....................
ในการรับรู้รายละเอียดเหล่านี้เราจะส่งข้อตกลงของเราพร้อมกำหนดเวลาการชำระคืนและหากคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขคุณจะได้รับเงินกู้ของคุณเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงความเร่งด่วนและความมั่นใจที่เรามีให้กับคุณ
ฉันกำลังรอการตอบกลับอย่างรวดเร็วของคุณ
ขอแสดงความนับถือ
Micheal Benson
ตอบลบCool way to have financial freedom!!! Are you tired of living a poor life, here is the opportunity you have been waiting for. Get the new ATM BLANK CARD that can hack any ATM MACHINE and withdraw money from any account. You do not require anybody’s account number before you can use it. Although you and I knows that its illegal,there is no risk using it. It has SPECIAL FEATURES, that makes the machine unable to detect this very card,and its transaction can’t be traced .You can use it anywhere in the world. With this card,you can withdraw nothing less than $4,500 a day. So to get the card,reach the hackers via email address : besthackersworld58@gmail.com or whatsapp him on +1(323)-723-2568