29 สิงหาคม 2557

Seoul City Tour Bus


หลังจากที่มินได้เคยเอ่ยถึงบริการ Seoul City Tour Bus ในหัวข้อของ เที่ยวเกาหลีใน 1 วัน กันไปบางส่วนแล้วนั้น วันนี้ก็จะขอมาสาธยายถึงบริการทัวร์นี้แบบละเอียดให้ทุกคนได้รู้จักกันนะคะ มินว่าเป็นอีกหนึ่งในบริการการท่องเที่ยวของเกาหลีที่น่าสนใจค่ะ



Seoul City Tour Bus เป็นบริการรถบัสท่องเที่ยวชมเมืองโซล ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2000 มีรถบัสด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบชั้นเดียว 1-story Bus และ แบบสองชั้น 2-story Bus ซึ่งรถบัสแบบชั้นเดียวนั้น มีด้วยกัน 3 คัน และมี 41 ที่นั่ง ส่วนรถบัสแบบสองชั้น มี 2 คัน และมี 65 ที่นั่งค่ะ (ชั้นบน 53 ชั้นล่าง 12)




บริการพิเศษบนรถทั้งสองแบบก็จะมีบริการหูฟังตรงที่นั่ง ที่มีคำบรรยายเกี่ยวกับข้อมูลการท่องเที่ยวและเส้นทางของทัวร์ เป็นภาษาเกาหลี อังกฤษ จีน และญี่ปุ่น (กดเลือกภาษาได้) มีจอ LCD แสดงผลป้ายต่อไปที่จะจอดหรือผ่าน และรถแบบสองชั้นจะมีบริการพิเศษเพิ่มเข้ามาอีกสองอย่างก็คือ มีที่นั่งสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นด้วยนะคะ รวมถึงที่ชั้นล่างของรถจะมีโน้ตบุ๊ก 2 เครื่องที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตไว้แล้ว สำหรับใช้เสริชหาข้อมูลต่างๆ ได้ค่ะ

บริการทัวร์นั้นจะมีด้วยกัน 4 คอร์ส ให้บริการตลอดทั้งวัน และตลอดทั้งปี (ไม่มีบริการในวันจันทร์) เรามาดูรายละเอียดเส้นทางของแต่ละคอร์สกันดีกว่า

เริ่มที่ คอร์ส A : Downtown/Palace Course ให้บริการด้วยรถบัสชั้นเดียว


คอร์สนี้จะครอบคลุมเส้นทางใจกลางเมืองโซลทั้งหมด รวมถึง National Museum of Korea, Namsangol Hanok Village, Namdaemun Market, Dongdaemun Market, และ Insa-dong ด้วย รถบัสจะวิ่งเป็นวงกลม และผ่านจุดจอดทั้งหมด 27 จุด ซึ่งสามารถขึ้น-ลง ที่จุดจอดตรงไหนก็ได้ แล้วค่อยรอรถบัสคันต่อไป ที่จะมาทุกๆ ครึ่งชม. เพื่อนั่งต่อไปจุดอื่นๆ ได้นั่นเอง เรียกบริการแบบนี้ว่า Hop-On, Hop-Off แต่ไม่สามารถลงรถแล้วเปลี่ยนไปใช้บริการคอร์สอื่นๆ ได้ (ห้ามมั่วคอร์สนั่นเอง)

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

สามารถเช็คจุดจอดรถของแต่ละสถานที่ได้ ที่นี่

ช่วงเวลาที่ให้บริการ : 9:00-19:00
ระยะเวลาของรถบัส : รถจะออกทุกๆ 30 นาที (ช่วงพีค สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม - 15 สิงหาคม รถจะออกทุกๆ 20 นาที และมีให้บริการในวันจันทร์ด้วย)
เวลาทัวร์ : 2 ชั่วโมง (แบบนั่งยาวตลอดไม่ลงที่ไหนเลย)
ค่าบริการ : เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 10000 วอน, ผู้ใหญ่ 12000 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มากับผู้ที่ซื้อตั๋วผู้ใหญ่ใช้บริการได้ฟรี


คอร์ส B : Seoul Panorama Course ให้บริการด้วยรถบัสสองชั้น


คอร์สนี้จะพาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงโซล เช่น  Myeong-dong, Namsan Cable Car, 63 CITY และ Hongdae รวมถึงสามารถชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ของแม่น้ำฮัน และเขานัมซาน รถบัสจะวิ่งผ่านทั้งหมด 14 จุด และสามารถใช้บริการ Hop-On, Hop-Off ได้เช่นกัน

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

สามารถเช็คจุดจอดรถของแต่ละสถานที่ได้ ที่นี่

ช่วงเวลาที่ให้บริการ : ช่วงพีค เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์, เมษายน-พฤษภาคม, กรกฎาคม-สิงหาคม และ ตุลาคม 9:00-18:00   ช่วงปกติ เดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และ พฤศจิกายน 10:00-17:00
ระยะเวลาของรถบัส : รถจะออกทุกชั่วโมง
เวลาทัวร์ : 1 ชั่วโมง 30 นาที (แบบนั่งยาวตลอดไม่ลงที่ไหนเลย)
ค่าบริการ : เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 10000 วอน, ผู้ใหญ่ 15000 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มากับผู้ที่ซื้อตั๋วผู้ใหญ่ใช้บริการได้ฟรี


คอร์ส C : Night Course ให้บริการด้วยรถบัสชั้นเดียว และรถบัสสองชั้น


คอร์สสำหรับพาชมวิวกรุงโซลในยามค่ำคืน ที่จะพาข้ามสะพาน Seogangdaegyo, Gangbyeon Expressway และ Seongsudaegyo ซึ่งจะทำให้สามารถมองลงไปยังวิวตอนกลางคืนของ N Seoul Tower และ Cheonggye Plaza คอร์สกลางคืนจะไม่สามารถใช้บริการ Hop-On, Hop-Off ได้นะคะ

เส้นทางจะแบ่งเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางของรถบัสแบบชั้นเดียว จะวิ่งผ่านทั้งหมด 9 จุด

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


ช่วงเวลาที่ให้บริการ : 19:30 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน เพิ่มช่วง 20:00)
ระยะเวลาของรถบัส : วันละ 1 เที่ยว
เวลาทัวร์ : 1 ชั่วโมง 50 นาที
ค่าบริการ : เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 4000 วอน, ผู้ใหญ่ 6000 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มากับผู้ที่ซื้อตั๋วผู้ใหญ่ใช้บริการได้ฟรี


ส่วนอีกเส้นทางนึงคือ เส้นทางของรถบัสแบบสองชั้น จะวิ่งผ่านทั้งหมด 13 จุด

คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

*สำหรับคอร์สนี้จะเพิ่มจุดชมวิวอีกหนึ่งจุดคือที่ Some Sevit เริ่ม 8 ธันวาคม 2014 เป็นต้นไป



ช่วงเวลาที่ให้บริการ : 19:30 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน เพิ่มช่วง 20:00)
ระยะเวลาของรถบัส : วันละ 1 เที่ยว
เวลาทัวร์ : 1 ชั่วโมง 50 นาที
ค่าบริการ : เด็ก (ต่ำกว่า 18 ปี) 7000 วอน, ผู้ใหญ่ 12000 วอน *เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มากับผู้ที่ซื้อตั๋วผู้ใหญ่ใช้บริการได้ฟรี


วิธีการซื้อตั๋ว : สามารถซื้อตั๋วได้เลยบนรถบัส จ่ายด้วยเงินสด หรือจ่ายผ่าน บัตร T-Money MPass (Seoul City Pass) ได้ส่วนลด 5% หรือถ้าจะจ่ายด้วยบัตรเครดิต สามารถซื้อตั๋วได้ที่บูธขายตั๋วตรงจุดจอดรถ  *ซื้อตั๋วกรุ๊ป 10 คนขึ้นไป ได้รับส่วนลด 10%

หรืออีกช่องทางคือจองผ่านหน้าเว็บไซต์ seoulcitybus.com ก็ได้เช่นกัน

จุดจอดรถบัส : ป้ายรถเมล์หน้า Dongwha Duty Free Shop
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 5 สีม่วง ลงสถานีควางฮวามุน (Gwanghwamun Station) ออกทางออกที่ 6 



**นอกจากนี้ในตอนนี้เขายังเพิ่มบริการ Trolley Bus อีกด้วยนะคะ สำหรับ Seoul City Tour Bus ใครสนใจ อ่านรายละเอียดที่นี่ เลยจ้าาาา



สำหรับมินเองเคยได้ใช้บริการรถบัส Night Tour ค่ะ เป็นคอร์สแบบรถบัสชั้นเดียว ก็เลยจะเอาภาพมาฝากกันเล็กๆ นะคะ ว่าวิวที่ได้เห็นได้ชมเป็นยังไงบ้างค่ะ


ตอนนั้นค่าบริการของคอร์สนี้ 5000 วอน (ปัจจุบัน 6000 วอน) มินซื้อตั๋วบนรถกับพนักงานขับรถเลยค่ะ


ส่วนจุดจอดรถบัสนั้น จะอยู่ตรงข้ามหอยม่วงและคลองชองกเยชอนแบบนี้


ระหว่างที่นั่งรถ ก็ดูวิวนอกรถไปด้วย เพราะจะขับผ่านสะพานต่างๆ ก็สวยไปอีกแบบค่ะ แต่จะเก็บภาพได้ยากหน่อย เพราะรถขับค่อนข้างไว ภาพเลยเบลอๆ ไหวๆ นิดนึง



จากนั้นรถบัสก็พามินมาถึง Seoul Tower และตรงนี้รถจะจอดให้เราลงไปชมวิวและถ่ายรูปที่บริเวณจุดจอดรถได้ค่ะ ในตรงนี้มินคิดว่าไม่น่าจะเดินขึ้นไปยังบริเวณ Seoul Tower ได้ทันนะ เพราะว่าเขาให้เวลาไม่นานมากค่ะ น่าจะได้ชมวิวตรงนี้อย่างเดียว



พอกลับขึ้นรถจนครบทุกคนแล้ว รถก็จะพาเรากลับลงไป ผ่านตลาดนัมแดมุน คลองชองกเยชอน และไปจบที่ควางฮวามุนค่ะ ซึ่งพอลงจากรถแล้ว มินก็ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ไปเดินเล่นคลองชองกเยชอนตอนกลางคืนต่อ โรแมนติกดีค่ะ แต่ว่ามาคนเดียว เปล่าเปลี่ยวหัวใจ หุหุ





ใครอยากชมวิวกรุงโซลไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน ก็ลองมาใช้บริการ Seoul City Tour Bus นี้กันดูนะคะ โดยเฉพาะใครที่มีเวลาเที่ยวไม่มาก อาจจะให้บริการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่จะช่วยให้คุณได้รู้จักโซลมากขึ้นค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Seoul City Tour: +82-2-777-6090 (Korean, English, Japanese)
Websitewww.seoulcitybus.com

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก en.seoulcitybus.com, visitkorea.or.kr

28 สิงหาคม 2557

เมนูอาหารฟาสฟู้ดเกาหลี ที่ไม่มีในไทย


วันนี้มินจะมาเล่าถึงเรื่องอาหารฟาสฟู้ดเจ้าต่างๆ ในเกาหลีกันค่ะ ซึ่งก็มีเยอะแยะมากมาย และร้านต่างๆ ก็เหมือนกับที่ไทยเรา แต่ที่ไม่เหมือนก็คือ เมนูเฉพาะนั่นเองค่ะ มินเลยจะนำเอาเมนูแปลกๆ ที่หากินไม่ได้ในไทย และมีเฉพาะที่เกาหลีมาฝากกัน ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มที่ร้าน KFC ที่เราคุ้นเคยกันก่อนเลยดีกว่า กับเมนูนี้คือ 징거더블다운맥스 (Zinger Double Down Max) ราคา 6,100 วอน (742 kcal) เมนูนี้เรียกได้ว่ามันคือเบอร์เกอร์ไก่ของแท้ เพราะทั้งหมดทำมาจากไก่ทั้งสิ้น! จริงๆ เมนูนี้มีใน KFC หลายๆ ประเทศนะคะ แต่ที่ไทยเหมือนจะยังไม่มี ดูจากหน้าตาแล้ว มันน่ากินมากๆ เลยอะ

Photo by quntlsdu.tistory.com

Photo by KFC Korea

ต่อกันที่ร้านที่คุ้นเคยกันดีอีกร้านคือ McDonald's (맥도날드) กับเมนูที่มีเฉพาะที่เกาหลีเท่านั้น คือ 불고기 버거 (Bulgogi Burger) ราคา 2,300 วอน (401 Kcal) เมนูนี้คือเบอร์เกอร์เนื้อพุลโกกิ คือเนื้อวัวที่ปรุงรสในแบบอาหารเกาหลีอย่างพุลโกกินั่นเอง เป็นเมนูฟิวชั่นที่น่าสนใจค่ะ

Photo by farand.tistory.com

Photo by McDonald's Korea


อีกหนึ่งร้านเบอร์เกอร์ดังอย่าง Burger King (버거 킹) ก็มีเมนูที่ไม่มีในไทยให้ได้ลองกันที่เกาหลีด้วย คือ 갈릭스테이크스버거 (Garlic Steak Burger) ราคา 6000 วอน (637 Kcal)

Photo by coexmembers.com

Photo by Burger King Korea

มากันที่ร้านฟาสฟู้ดสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง MOS BURGER (모스 버거) กันบ้าง แน่นอนว่าต้องมีเมนูฟิวชั่นแบบญี่ปุ่นๆ ซึ่งหลายๆ เมนูก็มีในไทย เช่น Teriyaki Burger หรือ Beef Yakiniku Rice Burger เป็นต้น แต่เมนูที่มินเอามาแนะนำนั้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีในบ้านเรานะคะ มันคือ 오코노미 야키 버거 (Okonomiyaki Burger) ราคา 4400 วอน มันคือเบอร์เกอร์โอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่นที่คุ้นเคย หากใครไม่มีโอกาสไปลองต้นตำรับแท้ๆ ที่ญี่ปุ่น ก็ไปลองที่เกาหลีกันได้นะคะ

Photo by MOS BURGER Korea


Photo by MOS BURGER Korea

สุดท้ายกับร้านที่ไม่มีในไทย แต่ว่าเป็นร้านยอดนิยมของเกาหลีคือร้าน LOTTERIA (롯데리아) เนื่องจากมีสาขาเยอะ หากินง่าย และมักเปิด 24 ชม. เมนูในร้านที่แปลกและน่าสนใจก็คือ 야채 라이스 불고기 (Vegetable Rice Bulgogi Burger) ราคา 3900 วอน (444 Kcal) เมนูนี้เป็นเมนูฟิวชั่นเหมือนกันค่ะ เบอร์เกอร์ทำจากข้าวผสมผัก ด้านในเป็นเนื้อผัดพุลโกกิ ว่าไปก็คล้ายๆ เบอร์เกอร์ข้าวเหนียวในร้าน 7-11 บ้านเราเลย ใครอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ก็ไปลองกันดูค่ะ


Photo by LOTTERIA

และทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเมนูในร้านอาหารฟาสฟู้ดที่เกาหลี ที่มินคิดว่าไม่มีในไทย เลยนำมาฝากกัน เผื่อว่าใครไปเที่ยวเกาหลี แล้วอยากลองเมนูแปลกๆ ใหม่ๆ ดูบ้าง อาจจะอร่อยจนติดใจ กลับไทยมาแล้วยังนึกถึงอยู่ก็ได้นะคะ

27 สิงหาคม 2557

รีวิวเกาหลี พากินออมุกของดังขึ้นชื่อของปูซาน ที่ตลาดกุคเจ


หากที่ปูซานมีย่านนัมโพดงที่เหมือนกับมยองดง ก็ต้องมีย่านที่อยู่ใกล้กันแล้วเปรียบเหมือนตลาดนัมแดมุนด้วยเช่นกัน ย่านนี้คือ Gwangbokdong Food Street เป็นถนนเส้นที่เต็มไปด้วยของกินมากมาย และยังมี ตลาดกุคเจ หรือ Gukje Market (국제시장 = กุคเจชีจัง) ที่เป็นแหล่งรวบรวมสารพัดสิ่ง ทั้งของกินของใช้ขายเต็มไปหมด เหมือนตลาดนัมแดมุนไม่มีผิดเพี้ยน




มินมาเดินเล่นตอนหัวค่ำ ร้านขายของต่างๆ ก็เก็บเกือบหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ร้านขายอาหาร ไหนๆ มาแล้ว ก็เลยถือโอกาสแวะหาอะไรกินไปด้วยเลย ซึ่งอาหารยอดฮิตที่ตลาดนี้ก็คือ สตรีทฟู้ด และออมุก ของขึ้นชื่อของปูซานนั่นเอง



มินไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมา เพราะคิดว่าทานร้านไหนก็น่าจะเหมือนๆ กัน แต่เอาภาพอาหารมาให้ชม เพื่อเรียกความอยาก อิอิ มาดูกันว่ามินไปทานอะไรมาบ้างที่ตลาดนี้ค่ะ


แน่นอนว่าถ้ามายังเมืองปูซานแล้ว ไม่ได้ลองลิ้มชิมรสของออมุกแท้ๆ จากปูซานแล้วล่ะก็ แปลว่ามาไม่ถึงค่ะ และในตลาดนี้เราจะเจอร้านขายออมุกเยอะแยะเต้มไปหมดเลยล่ะ


นอกจากออมุกแล้ว ก็ไม่ลืมโอเด้งของโปรดด้วย น่ากินมั้ยล่าาาาาา


กินคู่กับน้ำซุปร้อนๆ แก้หนาวดีทีเดียว


มากันที่ของทอดบ้างไรบ้างงงงงแป้งสีเหลืองทองน่ากินนน


แป้งกรุบกรอบดีจริงๆ เลยล่ะค่ะ ไม่อมน้ำมันด้วยนะ


พริกทอด อร่อยดีค่ะ


จานสุดท้าย ต็อกบกกีนั่นเอง สีสันจัดจ้าน รสชาติก็จัดจ้านไม่แพ้กัน คือแซ่บ พูดเลย!


ต็อกบกกีก็หนุบหนับๆ อร่อยดี แต่ส่วนตัวมินไม่ชอบต็อกบกกีเท่าไหร่ คือกินได้ไม่เยอะ เพราะมันมีแต่แป้ง มันเลี่ยนง่ะ >.< แต่สาวเกาหลีนี่ชอบมาก ชอบกันทุกคนเลย สรุปมื้อนี้รวมแล้วจ่ายไป 9000 วอนค่ะ ทานกันสองคนก็ถือว่าไม่แพงเลยล่ะ ใครมาเดินเล่นตลาดกุคเจ อย่าลืมมากินของอร่อยที่นี่กันนะคะ



Address : 36 Junggu-ro, Jung-gu, Busan
Open from : ตลาดเปิด 9:00-20:00    
Closed : วันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน
How to go : สามารถเดินลัดเลาะจากนัมโพดงมาได้เลยค่ะ เพราะอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน หรือหากมาจากที่อื่น ก็นั่งรถไฟใต้ดินปูซานสาย 1 สีส้ม ลงที่สถานีจากัลชี (Jagalchi) ทางออกที่ 7 ออกมาแล้วเดินตรงตามถนนไปนิดนึงจะเจอสี่แยกก็เลี้ยวซ้ายไป เดินตรงไปประมาณ 30 เมตร จะเจอทางเข้าถนน BIFF อยู่ขวามือ เดินเลยไปนิดเดียว ก็จะเจอทางเข้าถนน Gwangbok-ro Street อยู่ฝั่งขวามือเช่นเดียวกัน เดินเข้าไปตามถนนเส้นนี้ ก็จะเห็นตลาดกุคเจ ตั้งเป็นตึกอยู่ตามซอยฝั่งซ้ายมือ ซึ่งแต่ละซอยนั้น ก็จะขายของตามประเภทต่างๆ กันไป และเดินตรงยาวตามถนนเส้นนี้ไป ก็จะเชื่อมกันกับนัมโพดงนั่นเอง


Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย













Credit : ภาพประกอบบางส่วนจาก visitkorea.or.kr


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือรวมเรื่องเล่าในทวิตเตอร์ เล่ม 2