รวมตลาดนัดกลางคืนเกาหลี Seoul Bamdokkaebi Night Market ปี 2018

กลับมาแล้ว กับตลาดนัดกลางคืน หรือ Seoul Bamdokkaebi Night Market 2018 (서울밤도깨비야시장이) ซึ่งในปีนี้ ตลาดนัดจะเริ่มตั้งแต่ 30 มีนาคม ไปจนถึง 28 ตุลาคม เลยล่ะค่ะ และปีนี้ก็จัดด้วยกันทั้งหมด  6 สถานที่ด้วยกัน ใครอยู่ใกล้ที่ไหน ตามไปเที่ยวที่นั่นได้เลย

1. @Yeouido World Night Market (여의도 월드나이트마켓) ตลาดนัดกลางคืนที่ยออึยโด มีทั้งฟู้ดทรัก ให้ชิมอาหารอร่อยๆ นานาชาติ มีของน่ารักๆ ขาย รวมถึงมีการแสดง ดนตรี ให้ชม สำหรับมานั่งปิกนิกยามค่ำคืนที่สนุกสนาน แถมได้ชมวิวสวยๆ ริมแม่น้ำฮันอีกด้วย

*มีทุกวันศุกร์, เสาร์ เวลา 18:00-23:00 ที่บริเวณ Mulbit Square, Yeouido Hangang Park

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานียออึยนารุ (Yeouinaru) ทางออกที่ 2 เดินต่อไปประมาณ 600 เมตร หรือรถเมล์สาย 261, 262, 461, 753, 5534, 5633, 5713, 6623, และ 7007-1 ลงที่ป้าย Yeouinaru Park

2. @DDP Youth Runway Market (DDP 청춘런웨이마켓)  ตลาดนัดกลางคืนที่ DDP  เพลิดเพลินไปกับดนตรี, แฟชั่น และอาหารอร่อยๆ จากฟู้ดทรัก รวมถึงร้านรวงต่างๆ และสวนกุหลาบไฟ LED Rose Garden ที่จะเปิดไฟให้ชมทุกคืนไปจนถึง 31 ธันวาคม 2563 

*มีทุกวันศุกร์, เสาร์ เวลา 18:00-23:00 ที่บริเวณ Dongdaemun Design Plaza (DDP)

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 2, 4, 5 ลงสถานี Dongdaemun History & Culture Park ทางออกที่ 1 หรือรถเมล์สาย N13, 105, 152, 301, 7212, 9403 ลงที่ป้าย  Dongdaemun History and Culture Park

3. @Cheonggyecheon Time Slip Market (청계천 타임슬립마켓)  ตลาดนัดกลางคืนที่คลองชองกเยชอน ตลาดนัดกลางคืนที่ไม่ซ้ำใคร เพราะจัดขึ้นเลียบคลองชองกเยชอนยาวไปตามทาง มีทั้งโซนฟู้ดทรัก, โซนงานแฮนด์เมด และโซนกิจกรรม ที่นอกจากจะเดินเล่นกินของอร่อยแล้ว ยังสามารถนั่งชมบรรยากาศของคลองชองกเยชอนยามเย็นและยามค่ำได้อีกด้วย

*มีทุกวันเสาร์ เวลา 17:00-22:00, วันอาทิตย์ เวลา 16:00-21:00 ที่บริเวณ Cheonggyecheon

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Gwanghwamun ทางออกที่ 5 หรือรถเมล์สาย 150, 160, 260, 270, 273, 370, 470, 705, 710, 2500, 9701 ลงที่ป้าย Jongro 1-ga

4. @Cheonggye Plaza Season Market (청계광장 시즌마켓)  ตลาดนัดเฉพาะฤดูกาลที่คลองชองกเยชอนเช่นเดียวกัน แต่ต่างจากตลาดกลางคืนด้านบนตรงที่ ตลาดนี้จะเป็นตลาดเฉพาะกิจ ที่มีแค่บางวันเท่านั้น มีฟู้ดทรัก และของแฮนด์เมดขายเหมือนกัน แต่กิจกรรมที่นี่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

*มีเฉพาะวันที่ 19-21 พฤษภาคม, 18-20 สิงหาคม, 15-17 กันยายน และ 13-15 ตุลาคม 2018 เวลา 18:00-23:00 ที่บริเวณ Cheonggye Plaza (ตรงหอยม่วง)

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Gwanghwamun ทางออกที่ 5 หรือรถเมล์สาย 101, 150, 402, 405, 501, 506, 1711, 7016 ลงที่ป้าย City Hall-Seoul Shinmun

5. @Banpo Romantic Moonlight Market (반포 낭만달빛마켓)  ตลาดนัดกลางคืนที่สวนสาธารณะตรงสะพานพันโพ เดินเที่ยวตลาด ช้อปปิ้งชิมอาหารอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก น้ำพุสายรุ้ง และดนตรี

*มีทุกวันศุกร์, เสาร์ เวลา 18:00-23:00 ที่บริเวณ Dalbit Square, Banpo Hangang Park

ตารางเปิดน้ำพุ (รอบละ 20 นาที)

เมษายน - มิถุนายน / กันยายน - ตุลาคม มีรอบ 12:00, 20:00, 20:30, 21:00 (เสาร์-อาทิตย์, วันหยุด เพิ่มรอบ 19:30)

กรกฎาคม - สิงหาคม มีรอบ 12:00, 19:30, 20:00, 20:30, 21:00 (เสาร์-อาทิตย์, วันหยุด เพิ่มรอบ 21:30)

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 3, 7, 9 ลงสถานี Express Bus Terminal Station ทางออกที่ 8-1 แล้วเดินตามถนนไปค่อนข้างจะไกลพอสมควร หรือถ้าไม่อยากเดินก็แนะนำให้นั่งรถเมล์สาย 405, 740 ลงป้าย Banpo Hangang Park-Some Sevit ก็จะถึงสถานที่จัดงานและสะพานพันโพเลย

อีกวิธีคือเมื่อนั่งรถไฟใต้ดินมาที่สถานี Express Bus Terminal Station แล้ว ให้ออกทางออกที่ 6 แล้วรอขึ้นรถ Shuttle Bus ที่จะพาไปยัง Some Sevit (อยู่ติดกับสะพานพันโพ) เช็คตารางเวลารถบัส

6. @Oil Tank Culture Park Forest Picnic Market (문화비축기지 개요)  ตลาดนัดกลางคืนที่สวน Oil Tank Culture Park เป็นสถานที่ใหม่ในปีนี้ค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศในเมือง มาเป็นการปิกนิกในป่า! ที่มีทั้งฟู้ดทรักและร้านขายของแฮนด์เมด พบความหลากหลายของกิจกรรมที่มีธีมด้านสิ่งแวดล้อมและการรีไซเคิล รวมถึงฟังดนตรีเพราะๆ และการแสดงต่างๆ ได้ที่นี่

*มีทุกวันเสาร์, อาทิตย์ เวลา 16:00-21:00 ที่บริเวณ Oil Tank Culture Park

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 6 ลงสถานี Digital Media City ทางออกที่ 3 เดินตรงยาวเลียบถนนใหญ่ไปทาง World Cup Stadium ประมาณ 900 เมตร ก็จะถึง

ตลาดนัดกลางคืนที่เกาหลี ก็เป็นอีกสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ยิ่งใครเป็นขากินแล้วด้วยนั้น จะต้องถูกอกถูกใจกับของอร่อยๆ ตามฟู้ดทรักเป็นพิเศษ แถมยังมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งของแฮนด์เมด และของน่ารักๆ อีกมากมาย ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมด้วยการแสดงดนตรี และอื่นๆ ให้ได้ชมกันฟรีๆ ตลาดเปิดยาวตลอดทั้งปี ยกเว้นแค่ช่วงฤดูหนาว ไปเที่ยวเกาหลีรอบนี้ อย่าลืมจดใส่ลิสกันไว้ด้วยนะคะ

รายละเอียดเพิ่มเติม >> www.bamdokkaebi.org


Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก Seoul Bamdokkaebi Night Market

5 จุดไฮไลท์ชมดอกซากุระในโซล

เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ก็แปลว่าสีสันของดอกไม้ต่างๆ กำลังจะมา รวมไปถึงดอกพ็อตโกต หรือดอกซากุระเกาหลีอีกด้วย และที่ประเทศเกาหลีก็มีเทศกาลชมดอกซากุระหลายแห่ง สถานที่ที่รู้จักกันดีเพราะโด่งดังและนิยมที่สุดเลยก็คือที่จินแฮ แต่ถ้าใครมีเวลาเที่ยวน้อย ไม่อยากเดินทางออกนอกเมืองไปไกล ในโซลเองก็มีทั้งเทศกาลดอกซากุระ และจุดชมดอกซากุระหลายแห่ง จากที่มินได้เคยไปตระเวนชมมานั้น ก็เลยเลือก '5 จุดไฮไลท์ชมดอกซากุระในโซล' มาแนะนำกันวันนี้ค่ะ

แน่นอนว่าที่แรก ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะมีงานเทศกาลดอกซากุระที่นิยมและใหญ่ที่สุดในโซลด้วย นั่นก็คือที่ Yeouido นั่นเองค่ะ ต้นซากุระจะอยู่บริเวณถนนตรงด้านหลังและด้านหน้าของอาคารรัฐสภา (National Assembly Building) ด้วยต้นซากุระกว่า 1400 ต้น ที่เรียงรายอยู่ริมถนนยาวเลียบแม่น้ำฮัน จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ไม่ควรพลาด อ่านรายละเอียดงานเทศกาล

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลอ่อน ลงสถานี National Assembly ทางออกที่ 1 หรือ 6

สถานที่ถัดมา ก็เป็นอีกที่ที่จัดงานเทศกาลซากุระเช่นกัน และผู้คนโดยเฉพาะวัยรุ่นก็นิยมไปกันมากค่ะ นั่นก็คือที่ Seokchon Lake ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับสวนสนุก LOTTE WORLD โดยมีฉากหลังเป็นตึก LOTTE WORLD TOWER ตึกที่สูงที่สุดในโซลด้วย ที่นี่มีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ริมทะเลสาบเป็นวงกลม สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวันเลยล่ะ อ่านรายละเอียดงานเทศกาล

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว หรือสาย 8 สีชมพู ลงสถานีชัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 3 แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบประมาณ 200 เมตร

จุดไฮไลท์ต่อไปก็คือที่ Kyunghee University แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้จัดเป็นเทศกาลเหมือนสองที่แรก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม เพราะนอกจากจะมีต้นซากุระกว่า 200 ต้นที่เรียงรายอยู่ริมถนนจนยาวเข้าไปถึงในตึกของมหาวิทยาลัยแล้วนั้น อาคารต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ยังสวยงามอีกด้วย จัดว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในเกาหลี และคนทั่วไปก็สามารถเข้ามาเดินเล่นภายในมหาวิทยาลัยได้ด้วย จึงทำให้มีคนนิยมมาชมดอกซากุระกันมากมายเมื่อถึงฤดูของมัน

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน ลงสถานีฮวีกี (Hoegi) ทางออกที่ 1 จากนั้นรอรถบัสที่ป้ายหน้าทางออก ขึ้นรถบัสขนาดเล็กสีเขียวสาย 동대문01 (ใช้ทีมันนี่จ่ายได้ 900 วอน) รถบัสนี้จะเป็นรถบัสวิ่งระยะสั้น จากสถานีรถไฟใต้ดินไปยังหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย จากนั้นก็เดินต่อไปอีกนิดหน่อย ก็จะถึงจุดชมซากุระ

ต่อด้วยอีกสถานที่ ที่เมื่อมินได้ไปมาด้วยตนเองแล้วค้นพบว่า ที่นี่ก็มีดอกซากุระสวยไม่แพ้ที่อื่นเลย ที่นี่คือ Yangjaecheon Stream หรือคลองยางแจชอน อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตานักท่องเที่ยวเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าเป็นที่ใช้ถ่ายทำเรื่อง Who Are You School 2015 อาจจะร้องอ๋อกันก็ได้ ส่วนมากที่นี่จะมีแต่คนเกาหลีนิยมมา ใครที่ไม่ค่อยชอบความแออัดพลุกพล่าน ก็แนะนำให้มาที่นี่แทน รับรองว่าสวยไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะได้ชมดอกซากุระแล้ว ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติกลางเมืองหลวงอีกด้วย

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม หรือสาย Bundang สีเหลือง ลงสถานีโดกค (Dogok) ทางออกที่ 4 เดินตรงตามถนนยาวไปทางไปคลอง ประมาณ 400 เมตร


และจุดไฮไลท์ที่สุดท้ายที่อยากจะแนะนำก็คือที่ Children’s Grand Park ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยต้นซากุระเรียงรายเป็นอุโมงค์ซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิเช่นกัน เป็นสถานที่นิยมของชาวเกาหลีที่มากันแบบครอบครัว รวมไปถึงเด็กวัยรุ่น เพราะมีทั้งสวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ด้านใน รวมถึงเป็นสถานที่นิยมในการมาปิกนิกอีกด้วยค่ะ

How to go : รถไฟใต้ดินสาย 7 สีเขียวขี้ม้า ลงสถานี Children’s Grand Park ทางออกที่ 1


เห็นมั้ยคะว่าในโซลก็ยังมีสถานที่สวยๆ ให้ชมดอกซากุระหลายที่ ยิ่งถ้าไปทันในช่วงฟูลบลูมแล้วด้วยนั้น รับรองว่าจะได้ภาพที่สวยกว่าที่มินถ่ายมาแน่นอน หากมีเวลาเที่ยวน้อย มินก็แนะนำให้ลองไปชมยังสถานที่ที่แนะนำไปข้างต้น รับรองว่าจะถูกใจจนถ่ายรูปเพลินเลยล่ะค่ะ

ตารางดอกไม้ & ดอกพ็อตโกต (ซากุระ) บาน ปี 2018

หลายคนกำลังรอตารางดอกไม้และดอกซากุระเกาหลี (พ็อตโกต) บานของปีนี้กันอยู่ใช่มั้ยคะ เนื่องจากมินตารางงานยุ่งมากเลย เลยอัพเดตช้าไปหน่อยต้องขออภัย และก็เลยถือโอกาสอัพเดตรวบยอดไว้ในหน้าเดียวกันเลยก็แล้วกันนะคะ

เริ่มที่ตารางดอก Forsythia หรือ 개나리 (แคนารี) และดอก Azalea หรือ 진달래 (จินดัลแร) บานกันก่อนเลย เพราะในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ทั้งสองนี้จะบานก่อนเพื่อน เริ่มราวๆ กลางเดือนหรือปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งจะเริ่มบานในช่วงเวลาไหน ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาคนะคะ โดยจะบานตั้งแต่ทางใต้ของประเทศไล่ขึ้นไปทางเหนือ หากใครมีแพลนไปเที่ยวช่วงปลายๆ เดือนมีนาคม มินก็ขอแนะนำให้ไปชมดอกไม้ทั้งสองชนิดนี้ค่ะ

ดอก Forsythia  จะเริ่มบาน ที่เกาะเชจูเป็นที่แรก ในวันที่ 12 มีนาคม ตามมาด้วยทางใต้ที่เมืองปูซาน เริ่มบาน 14 มีนาคม และเมืองแทกู ยอซู ควางจู และทางใต้ จะเริ่มบานช่วง 16-20 มีนาคม ส่วนทางตอนกลางและเมืองชอนจู แทจอน ชองจู จะเริ่มบานช่วงวันที่ 22-26 มีนาคม และทางตอนเหนือ รวมถึงเมืองโซล อินชอน ชุนชอน และคังนึง จะเริ่มบานวันที่ 26 มีนาคม - 1 เมษายน และคาดว่าทางตอนกลางและตอนเหนือ ดอก Forsythia จะบานเต็มที่และสวยที่สุดในช่วง 1-9 เมษายนค่ะ

และเทศกาลชมดอก Forsythia ที่น่าสนใจก็คือเทศกาล Gurye Sansuyu Festival ที่เมืองกูเร จ.ชลลานัมโด วันที่ 17-25 มีนาคม 2018 ค่ะ อ่านรายละเอียด

สำหรับใครที่ไม่อยากเดินทางไปไกล ก็แนะนำที่นี่ค่ะ เทศกาล Eungbongsan Forsythia Festival ที่เขาอึงบงซาน เมืองโซล เป็นเทศกาลที่ได้รับความสนใจและนิยมมาก เพราะเดินทางสะดวก และดอกไม้ก็สวยไม่แพ้เมืองกูเรเลยล่ะค่ะ เทศกาลมีวันที่ 6-8 เมษายน 2018 อ่านรายละเอียด

ต่อด้วยตาราง ดอก Azalea ซึ่งจะบานหลังดอก Forsythia นิดหน่อยค่ะ แต่ก็จะบานไล่ๆ กัน เป็นอีกหนึ่งชนิดของดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่คนเกาหลีให้ความสนใจ

ดอก Azalea จะเริ่มบานตามแนวภูเขาเริ่มจากทางตอนใต้เช่นเดียวกัน เริ่มที่เกาะเชจู เริ่มบานวันที่ 15 มีนาคม ตามด้วยเมืองปูซานในช่วงวันเดียวกัน และทางใต้ จะเริ่มบานช่วงวันที่ 16-23 มีนาคม ทางตอนกลาง จะเริ่มบานวันที่ 25-31 มีนาคม และสุดท้ายทางตอนเหนือของประเทศ รวมถึงโซล ชุนชอน และคังนึง จะเริ่มบานในวันที่ 27 มีนาคม - 2 เมษายนค่ะ

เทศกาลชมดอก Azalea ที่น่าสนใจก็จะมี เทศกาล Hapcheon Hwangmaesan Royal Azalea Festival ที่ Hwangmaesan County Park เมืองฮาปชอน จ.คยองซังนัมโด จะมีขึ้นวันที่ 28 เมษายน - 13 พฤษภาคม 2018 ค่ะ อ่านรายละเอียด 

และสุดท้ายกับตารางพยากรณ์ดอกพ็อตโกต (ซากุระเกาหลี) กันบ้างนะคะ ซึ่งก็จะเริ่มบานเริ่มจากทางใต้เช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงย่างเข้าสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายนค่ะ ใครที่อยากไปชมดอกซากุระเกาหลีโดยเฉพาะ ก็แนะนำให้ไปช่วงต้นๆ เดือนเมษายนก็จะเป็นช่วงที่ได้ทันเห็นพอดีค่ะ แต่ถ้าเป็นในโซลก็จะช่วงวันหยุดสงกรานต์บ้านเราจะเป็นช่วงพีคที่สุดของปีนี้ค่ะ

ดอกพ็อตโกต หรือซากุระเกาหลีนั้น จะเริ่มบานที่เกาะเชจูในวันที่ 25 มีนาคม และไล่ขึ้นมาทางตอนใต้ที่เมืองปูซาน เริ่มบานวันที่ 28 มีนาคม เมืองแทกูวันที่ 30 มีนาคม และเมืองควางจูวันที่ 2 เมษายนค่ะ ส่วนในทางตอนกลาง เมืองชอนจูเริ่มบาน 4 เมษายน เมืองแทจอน 3 เมษายน และเมืองชองจู 4 เมษายน มากันที่ทางตอนเหนือ เมืองคังนึงเริ่มบาน 4 เมษายน เมืองชุนชอน 10 เมษายน และที่โซล จะเริ่มบานในวันที่ 8 เมษายนค่ะ และในโซลรวมถึงตอนกลางและตอนเหนือ คาดว่าจะพีคสุดในช่วงวันที่ 10-17 เมษายนถ้าใครอยากไปให้ตรงช่วงฟูลบลูมพอดี ก็แนะนำช่วงสงกรานต์นี่ล่ะค่ะ (แต่หากมีฝนตก ดอกไม้อาจจะร่วงก่อนเวลาที่พยากรณ์ไว้)

และแน่นอนว่าเทศกาลชมดอกซากุระที่โด่งดังและนิยมมากที่สุดก็คือ เทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 1-10 เมษายน ที่เมืองชางวอน จ.คยองซังนัมโด อ่านรายละเอียด

ใครที่สนใจหรือว่ามีแพลนจะไปเที่ยวชมซากุระที่จินแฮพอดี Gtrip Korea เขามีบริการพาเที่ยวด้วยนะคะ สะดวกสบายด้วยรถรับส่ง ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปเองและเบียดเสียดกับผู้คนที่มากมาย แถมมีไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยวด้วย ที่สำคัญตอนนี้เขามีส่วนลดพิเศษมาให้ 5% เมื่อแจ้งหรือใส่โค้ด SEOULCAFE5 ตอนจอง จองได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 เมษายน 2561 ค่ะ

ช่องทางการจอง >> https://goo.gl/3Vugce
LINE : @gtripkorea
Facebook : http://facebook.com/gtripkorea  

นอกจากที่เมืองจินแฮแล้ว ในโซลก็ยังมีจุดชมดอกซากุระสวยๆ อีกหลายที่นะคะ ติดตามอ่านได้ใน '5 จุดไฮไลท์ชมดอกซากุระในโซล'

*หมายเหตุ ตารางพยากรณ์ดอกไม้บานอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศต่างๆ รวมถึงความแตกต่างของอุณหภูมิและระดับน้ำฝน

Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก visitkorea.or.kr, klook.com, chulsa.kr, gurye.go.kr, samsungnanocityoy.com, news.joins.com