4 ตุลาคม 2562

รีวิวเกาหลี พาเที่ยวป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress) เมืองซูวอน มรดกโลกจาก UNESCO


ในเดือนตุลาคมจะมีเทศกาลใหญ่ที่เมืองซูวอนค่ะ เป็นเทศกาลประจำปีที่ชาวเมืองให้ความสำคัญและให้ความสนใจมากๆ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังเมืองซูวอนเพื่อเข้าร่วมเทศกาลนี้ด้วย เทศกาลที่ว่านี้ก็คือ 'เทศกาลวัฒนธรรมซูวอน ฮวาซอง (Suwon Hwaseong Cultural Festival)' วันนี้มินก็เลยจะมาพาทุกคนไปเที่ยวชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ของป้อมปราการฮวาซอง เพื่อต้อนรับเทศกาล ที่เมืองซูวอน จ.คยองกีโด กันค่ะ


มินเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่นี่สองครั้ง ครั้งแรกปี 2016 และครั้งที่สองคือปี 2018 ที่ตั้งใจจะไปในช่วงเทศกาลพอดี ก็เลยจะมีภาพช่วงเทศกาลมาฝากเล็กๆ น้อยๆ นะคะ เพราะว่าไปถึงเย็นแล้วงานก็ใกล้เลิกเต็มที แต่ก็ได้เห็นความสวยงามของกำแพงหินและป้อมฮวาซองในเวลากลางคืนแทนค่ะ


เล่าความเป็นมาสักนิด ป้อมปราการฮวาซอง หรือ Hwaseong Fortress (수원 화성) เป็นป้อมที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ชองโจ (정조) หรือพระเจ้าลีซานที่เราคุ้นเคยกันดีกับซีรีส์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1794-1796 ใช้เวลาสร้างถึง 2 ปีด้วยกัน วัตถุประสงค์หลักจริงๆ คือสร้างเพื่อรองรับการย้ายเมืองหลวงใหม่ไปอยู่ที่เมืองซูวอนนั่นเอง


ป้อมฮวาซอง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี 1997 โดยกำแพงป้อมได้ถูกสร้างล้อมรอบเมืองซูวอนเอาไว้ มีความยาวถึง 5.52 กิโลเมตร และมีประตูประจำอยู่ทั้ง 4 ทิศ คือ Janganmun Gate (ทิศเหนือ), Paldalmun Gate (ทิศใต้), Changnyongmun Gate (ทิศตะวันออก) และ Hwaseomun Gate (ทิศตะวันตก) ซึ่งป้อมปราการแห่งนี้จัดได้ว่ามีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมากเลยค่ะ



การเดินทางไปยังเมืองซูวอนก็ไม่ยากค่ะ สามารถไปได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟใต้ดิน มินเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสาย 1 (สีน้ำเงิน) จากสถานี Seoul ไปลงยังสถานี Suwon ใช้เวลาแค่ 35 นาที จากนั้นเดินตามป้ายสีเหลืองไปยังทางออกที่ 4 ซึ่งจะอยู่ติดกับ AK Plaza แบบนี้



เดินลงบันไดเลื่อนไปและเลี้ยวซ้ายเดินผ่าน AK Plaza จะเจอป้ายรถเมล์อยู่หน้าโรงแรม Novotel Suwon (ใกล้กับ Information Tourist Center) ขึ้นรถเมล์สาย 11 หรือ 13 แล้วไปลงที่ป้าย Paldalmun Gate (팔달문)




พอมาถึงประตู Paldalmun Gate ประตูทางทิศใต้ ซึ่งจะเป็นวงเวียนที่เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของป้อมฮวาซอง ซึ่งป้อมมีขนาดใหญ่และกว้าง การจะเดินเที่ยวให้ครบทั้งหมดนั้นจะใช้เวลาราวๆ 3-4 ชั่วโมง หากอยากเที่ยวให้ทั่ว มินแนะนำให้เริ่มจากพอลงรถเมล์มาถึงหน้าประตูนี้แล้ว ให้เดินเข้าซอยข้างๆ ร้านขายยาสีเขียวตามภาพค่ะ (หรือหากใครขี้เกียจเดิน แนะนำให้ขึ้นรถเมล์ที่หน้าร้านขายยา สาย 1, 2-2, 60, 700-2 ลงที่ป้าย Changnyongmun Gate (창룡문) ได้เลยค่ะ)




ถนนเส้นนี้ชื่อว่า Paldalmun Street ตลอดทางจะมีร้านขายของต่างๆ ใครอยากเดินเที่ยว หรือแวะช้อปก็สามารถเดินได้เลยเพลินๆ






เดินตรงยาวไปเรื่อยๆ จนถึงคลองซูวอนชอน ข้ามสะพานข้ามคลอง แล้วเดินตรงเข้าตลาด Jidong Market ไปเลยค่ะ


ทางเข้าตลาด Jidong Market 

เดินทะลุผ่านตลาดไปจนถึงทางแยก ก็เลี้ยวซ้ายไปค่ะ จะเริ่มมองเห็นกำแพงหินอยู่ไม่ไกล ก็เดินตรงไปแล้วขึ้นเนินเพื่อเดินเลียบกำแพงไปได้เลย จากนั้นเดินยาวตามกำแพงไปจนเจอประตูทางทิศตะวันออก Changnyongmun Gate ก็สามารถซื้อตั๋วเข้าชมป้อมฮวาซองได้ที่บริเวณนั้นเลยค่ะ

ประตู Changnyongmun Gate


ส่วนมินด้วยความที่เดินทางมาถึงก็บ่ายแก่ๆ แล้ว คำนวณเวลาทั้งวันน่าจะไม่มากพอให้เดินเที่ยวให้ทั่วป้อมฮวาซอง มินเลยเลือกเที่ยวชมเพียงฝั่งเดียวคือฝั่งตะวันออก โดยเริ่มจาก ประตู Paldalmun Gate มินขึ้นรถเมล์ที่หน้าร้านขายยาสีเดียวด้านบนเช่นกัน ขึ้นสาย 64, 65, 66, 46, 13, 11, 62-1, และ 112 ไปลงที่ป้าย Janganmun Gate (장안문) แล้วเดินต่อไปอีกเล็กน้อย ก็จะเจอกับประตูทางทิศเหนือ Janganmun Gate ประตูนี้ค่ะ


มินเดินเลียบกำแพงไปทางขวาเรื่อยๆ ก็มาเจอกับจุดขายตั๋วค่ะ ก็จัดการซื้อตั๋วเข้าชมให้เรียบร้อย ค่าเข้าผู้ใหญ่ 1000 วอน





ได้ตั๋วและแผนที่มาจาก TIC เรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมจะเดินเที่ยวป้อมฮวาซองแล้วล่ะค่ะ



ตามมาเดินเที่ยวชมป้อมไปพร้อมๆ กันเลย มินเดินขึ้นเนินเลียบกำแพงหินไปเรื่อยๆ ซึ่งถนนข้างๆ นั้น เป็นทางไปยังโรงเรียนต่างๆ ค่ะ ไม่ต้องแปลกใจหากเดินมาแถวนี้แล้วจะเจอเด็กนักเรียนเต็มไปหมดเลยล่ะ



จุดแรกที่เดินมาเจอเลยก็คือศาลาและหอสังเกตการณ์ Banghwasuryujeong Pavilion ค่ะ เป็นจุดชมวิวที่เราขึ้นไปด้านบนได้ด้วยนะ




ข้างบนจะมีทหารเฝ้าอยู่ (ไม่ใช่ทหารจริง) ที่เราสามารถขอถ่ายรูปกับเขาได้ด้วย จริงๆ คุณลุงยิ้มแย้มดีนะคะ แต่มินขอถ่ายรูปเขาคนเดียว คุณลุงก็รีบเก๊กท่าขรึมให้ดูเป็นทหารขึ้นมาเลย น่ารักมากๆ


จากศาลาตรงนี้ก็จะมองเห็นสวนแบบนี้ค่ะ



ออกจากศาลา ก็เดินตามแนวกำแพงต่อไป กำแพงหินนี้ดูแข็งแกร่งและสวยงามมากๆ วิวระหว่างทางก็สวยเช่นกัน ถ้าใครมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี ก็น่าจะได้เห็นบรรยากาศที่สวยยิ่งขึ้นค่ะ






เดินลึกเข้าไปก็จะมาเจอกับศาลาบัญชาการ Jangdae ที่มีพื้นที่ไว้สำหรับฝึกศิลปะการต่อสู้ ตรงนี้เราจะได้เห็นการตกแต่งภายในของป้อมฮวาซองได้ชัดเจนขึ้นค่ะ








ถ้าสังเกตจะเห็นด้วยว่า ป้อมปราการฮวาซองนั้นได้ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐโดยจะมีรูสี่เหลี่ยมเป็นขนาดที่พอดีสำหรับใช้เป็นจุดยิงปืนหรือยิงธนูสำหรับช่วงเวลาที่ต้องสู้รบ





จากจุดนี้ เดินต่อไปก็จะพบกับหอสังเกตการณ์ Gongsimdon ที่เป็นหอสังเกตการณ์ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกของป้อมฮวาซองเลยล่ะค่ะ มีรูปร่างเป็นทรงกลม มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก



อีกจุดนึงที่ถัดไปไม่ไกลก็คือ ป้อมปราการยิงธนู Nodae ตั้งอยู่บนกำแพงเพื่อให้ผู้ปกป้องป้อมปราการคอยยิงธนูใส่กองทหารข้าศึก





จากป้อมธนู มินเดินวนมาจนถึงประตู Changnyongmun Gate ประตูฝั่งทิศตะวันออกแล้วค่ะ ต้องบอกว่าเดินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว ใช้เวลาเดินมาชั่วโมงกว่าๆ เกือบสองชั่วโมงได้ เพราะระยะทางค่อนข้างไกลทีเดียว เดินเรื่อยๆ แวะชมวิว แวะถ่ายรูป ก็ใช้เวลาไปพอสมควรเลย มินก็เลยตัดสินใจจบทริปชมป้อมฮวาซองแค่ที่ประตูนี้ค่ะ ไม่ได้ไปอีกแค่ประตูเดียวคือ ประตูทางทิศตะวันตก Hwaseomun Gate




ถ้าใครมีเวลาไม่พอที่จะเดินแต่อยากชมความงดงามของป้อม มินแนะนำให้ขึ้นรถ Hwaseong Fortress Tourist Trolley แทนค่ะ มีให้บริการตั้งแต่ 10:00-16:30 ราคาผู้ใหญ่คนละ 4000 วอน (ไม่มีให้บริการในวันที่ฝนตกหรือหิมะตก) ใครสนใจสามารถ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่


ซึ่งต้องบอกด้วยว่า การเดินเที่ยวชมป้อมนั้นอาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือคนที่กำลังขาไม่ค่อยแข็งแรง เพราะนอกจากจะเดินขึ้นเนินเขาไปเรื่อยๆ แล้วนั้น บันไดต่างๆ ก็ค่อนข้างสูงและชันมากทีเดียวค่ะ


และปีที่แล้วมินได้กลับไปที่นี่อีกครั้ง เลยมีโอกาสได้เห็นป้อมฮวาซองในตอนตะวันใกล้ตกดิน บรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ






ทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศของขบวนแห่ของชาวเมืองซูวอนที่จัดอย่างยิ่งใหญ่มากๆ ในช่วงเทศกาลวัฒนธรรมซูวอน ฮวาซอง เมื่อปีที่แล้วที่มินมีโอกาสได้ไปชมมาค่ะ ขบวนมีการจัดแห่ไปรอบเมืองเลย เป็นขบวนที่ใหญ่และคนเยอะมากจริงๆ ไม่ใช่แค่ชาวเมืองซูวอนเท่านั้นที่มาชม นักท่องเที่ยวเองก็เยอะไม่แพ้กันเลยค่ะ











ขบวนจะไปสิ้นสุดที่ประตู Paldalmun Gate และมีพิธีอย่างยิ่งใหญ่ เสียดายที่มินเดินกลับไปไม่ทัน เลยไม่มีโอกาสได้ชม มีแค่ภาพประตูเมืองสวยๆ มาฝากแทนค่ะ



ถ้าพอจะมีเวลาว่างสักหนึ่งวัน มินก็อยากแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่กันดู เพราะป้อมปราการฮวาซองนั้น ยิ่งใหญ่และสวยงามมากจริงๆ จะมาเที่ยวช่วงเทศกาลพอดีที่กำลังมีในตอนนี้เลย หรือจะมาเที่ยวในช่วงอื่นก็ได้เช่นกัน เพราะป้อมฮวาซอง เมืองซูวอนนั้น เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ



เวลาเปิดทำการ : เดือนมีนาคม - ตุลาคม 9:00-18:00
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 9:00-17:00
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1000 วอน, นักเรียนและทหาร 700 วอน, เด็ก 500 วอน
เว็บไซต์www.swcf.or.kr/english/
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 หรือสาย Bundang ลงสถานี Suwon ทางออกที่ 4 แล้วนั่งรถเมล์สาย 11, 13 แล้วไปลงที่ป้าย Paldalmun Gate (팔달문)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น