31 กรกฎาคม 2559

รีวิวเกาหลี พาช้อปของมือสอง ที่ตลาดนัด Dongmyo Flea Market


ใครชอบเดินตลาดนัด และชอบของมือสองแบบมินบ้าง? ถ้าตอบว่าใช่ มินจะพาทุกคนไปเดินช้อปของมือสองที่ตลาดมือสองแหล่งใหญ่ในเกาหลี ที่ตลาด Dongmyo Flea Market กันค่ะ






ตลาดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าทงมโย เป็นย่านที่ไม่ไกลจากตลาดทงแดมุน เริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 1980 เป็นร้านค้าแผงลอยที่ตั้งอยู่ตลอดแนวกำแพงหินของศาลเจ้าทงมโยนั่นเอง และเต็มไปด้วยของมือสองมากมายเลยล่ะค่ะ และถ้าใครมาเดินเล่นที่นี่ ก็มักจะพบเห็นแต่อาจุมม่าและอาจัชชีมากกว่าวัยรุ่นเสียอีก




ของมือสองที่นี่ ถูกรวมรวบไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ที่อยู่ในสภาพดี และราคาถูก ซึ่งคนเกาหลีจะมารุมซื้อ รุมเลือกกันเลยล่ะ เรียกได้ว่า ใครดีใครได้ เพราะบางร้านขนกันมาทั้งคันรถบรรทุก พอเทของเท่านั้นแหละ รุมกันเพียบเลย ด้วยเพราะราคาถูก จึงต้องมีการแย่งชิงกันหน่อย เพราะเสื้อผ้าต่างๆ นั้น ก็จะปะปนกันไปค่ะ ทั้งสวยและไม่สวย ทั้งแบบเก่าและแบบทันสมัย เพราะฉะนั้น เล็งตัวไหนไว้ ต้องรีบฉวยก่อนโดนฉก








อย่างร้านของคุณลุงคนนี้ มาหลายถุงมากๆ แต่ยังไม่ได้เทออกมา คิดว่าพอเทแล้ว คนต้องมารุมแน่ๆ อ้อ ต้องบอกด้วยว่า พวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าที่นี่ บางร้านก็มีของใหม่ที่ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน วางขายปนๆ กันด้วยนะคะ แต่จะเป็นประเภทเก่าเก็บมากกว่าที่จะทันสมัยล่าสุด


ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าเท่านั้น ที่นี่ยังมีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือเก่า แผ่นเสียงหายาก ซีดี ดีวีดี อุปกรณ์ตกปลา และอื่นๆ อีกมากมายเลยล่ะ






ของเก่า ของสะสม ก็มีนะ



และสุดท้าย กับของกินและขนมที่หลากหลาย ก็มีขายเช่นกัน แถมถูกกว่าที่อื่นอีกด้วย


ส่วนมินมาเดินเล่น ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้ออะไร แต่ดันไปสะดุดเข้ากับเสื้อยีนส์ตัวนี้ ที่สภาพดีมากๆ ดูราคาแล้วติดป้ายไว้ว่า 7000 วอนเท่านั้น! ถูกมากเลยใชมั้ยล่ะ ก็เลยจัดมาซะเลย สวยถูกใจ แถมถูกอีกด้วย 


ใครอยากช้อปของมือสองสวยๆ ราคาถูกบ้าง ก็ลองมาเดินเล่นที่นี่กันดูค่ะ เดินทางมาง่าย ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะร้านรวงจะเยอะ ของเยอะ รวมถึงคนก็เยอะตามด้วยค่ะ



Address : Sungin-dong vicinity, Jongno-gu, Seoul
Open from : 10:00-18:00 ตลอดทั้งปี
Closed : วันปีใหม่ วันซอลลัล วันชูซอก
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน หรือ สาย 6 สีน้ำตาล ลงสถานีทงมโย (Dongmyo) ทางออกที่ 3 จากนั้นก็เดินเลียบกำแพงศาลเจ้าไปแบบนี้ ก็จะเจอตลาดนัดแล้วล่ะค่ะ และไม่ไกลจากตลาดนัดทงมโย มีร้านจาจังมยอนแบบ Local อยู่ร้านนึง ราคาถูกมากๆๆๆ เรียกได้ว่าแทบจะถูกที่สุดในเกาหลีเลยล่ะ ใครมาเดินตลาดนี้ ก็แวะไปชิมกันได้ รสชาติอาจจะไม่อร่อยล้ำ แต่ก็โอเคสมกับราคาค่ะ ชามละแค่ 2000 วอนเอง ชื่อร้าน 짱짜장 (จางจาจัง) อ่านรีวิวและวิธีไปร้าน



Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย



30 กรกฎาคม 2559

วิธีการซื้อบัตร T-money จากตู้อัตโนมัติ


จะไปเที่ยวเกาหลี ก็ต้องมีบัตรโดยสารทีมันนี่ (T-money) เพื่อสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว เพราะเป็นบัตรสารพัดประโยชน์ ที่จ่ายได้ทั้งค่ารถเมล์ รถไฟใต้ดิน รถแท็กซี่ รวมถึงใช้จ่ายแทนเงินสด ในร้านสะดวกซื้อ หรือมินิมาร์ทได้อีกด้วย และปกติเราจะสามารถซื้อบัตรทีมันนี่ได้จากมินิมาร์ทต่างๆ แต่ในขณะเดียวกัน เราสามารถซื้อได้เองจากตู้อัตโนมัติด้วยค่ะ


ตู้ขายตั๋วและเติมเงินอัตโนมัติ หรือ T-money Card Vending Machine & Charger นั้น จะตั้งอยู่ตามสถานีรถไฟใต้ดินทั่วไปค่ะ หาไม่ยาก เพราะมีอยู่ทุกๆ สถานี หน้าตาตู้เป็นแบบนี้ค่ะ **ตู้แบบนี้ไม่มีที่สนามบินนะคะ ถ้าจะซื้อจากสนามบิน แนะนำให้ซื้อในร้านมินิมาร์ทค่ะ


มาดูหน้าจอใกล้ๆ กันค่ะ ตู้นี้จะจำหน่ายบัตรทีมันนี่ ประเภท Citypass+ (อ่านรายละเอียดบัตรเพิ่มเติม) และสามารถเติมเงินที่ตู้นี้ได้ด้วย ขั้นตอนแรกคือ เลือกที่ปุ่มสีม่วงที่หน้าจอ ที่เขียนว่า Get a transit card



จากนั้นก็เลือกประเภทของบัตรที่ต้องการ จะมี 3 ประเภทคือ บัตรผู้ใหญ่ (Adult) สำหรับคนที่อายุ 19 ปีขึ้นไป (นับแบบสากล) / บัตรนักเรียน (Teen) สำหรับคนที่อายุ 13-18 ปี / บัตรเด็ก (Child) สำหรับคนที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งราคาบัตรแต่ละแบบจะราคาเท่ากัน แต่ค่าโดยสารในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ จะแตกต่างกันไปนะคะ มินแนะนำให้ซื้อให้ตรงตามกับอายุของตัวเอง เพราะหากเจอเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจ แล้วเจอว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้วใช้บัตรเด็ก เจอค่าปรับมหาโหดเลยนะคะ แต่ถ้าเป็นเด็กใช้บัตรผู้ใหญ่ได้ แต่จะเสียค่าโดยสารแพงกว่าที่ควรจะเป็น เพราะเขามีราคาสำหรับเด็กอยู่ค่ะ ส่วนมินเป็นผู้ใหญ่ ก็เลือกกดตรงบัตรผู้ใหญ่ค่ะ



บัตรจะมีในรูปแบบการ์ด และพวงกุญแจ แบบการ์ดราคา 3000 วอน แบบพวงกุญแจ 5000 วอน มินเลือกแบบการ์ดค่ะ


และทางจอขวามือ จะแสดงประเภทบัตรที่เราเลือกพร้อมราคาไว้ให้เราดูแบบนี้ ซึ่งประเภทบัตรเขียนว่า 일반용 แปลว่า บัตรโดยสารแบบปกติ (แบบผู้ใหญ่นั่นเอง)



จากนั้นก็ใส่เงิน (ธนบัตร) ลงไปในตู้ แล้วรอรับบัตรที่ช่องด้านล่างได้เลย หรือถ้าใครจะซื้อเพิ่ม ก็ทำรายการต่อได้เลย (ซื้อได้ครั้งละ 1 ใบ) ในกรณีนี้ มินซื้อบัตรเด็กเพิ่มค่ะ ก็เลือกที่ Child card จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนด้านบนเลย


จนมาถึงหน้านี้ ที่จอขวามือก็จะบอกประเภทบัตรว่าเป็นบัตร 어린이용 แปลว่า บัตรเด็กค่ะ


จากนั้นจะขึ้นหน้าจอแจ้งเตือนมาแบบนี้ค่ะ สำหรับคนที่ซื้อบัตรนักเรียนและบัตรเด็ก เพื่อการได้รับส่วนลดจากการโดยสารขนส่งสาธารณะต่างๆ จากการใช้บัตรทีมันนี่นี้ จะต้องไปลงทะเบียนอีกครั้งในเว็บไซต์ www.t-money.co.kr ก่อนค่ะ แต่ถ้าไม่ลงทะเบียน เวลาเราเอาบัตรเด็กไปใช้ มันก็จะคิดราคาปกตินะคะ พอรับทราบแล้วก็กด OK ไปเลยค่ะ


หลังจากใส่เงินในช่อง และรับบัตรเรียบร้อยแล้ว มาดูหน้าตาบัตรทั้ง 2 ประเภทที่มินซื้อกันค่ะ กล่องสีขาวเป็นบัตรผู้ใหญ่ และกล่องสีส้มเป็นบัตรเด็กค่ะ


อันนี้ด้านหลัง


แกะกล่องมาข้างในจะประกอบไปด้วย บัตรทีมันนี่ และคูปองส่วนลดที่ส่วนมากจะเป็นพวกส่วนลดเข้าชมการแสดงต่างๆ ที่ดูเหมือนน่าจะได้ใช้กันก็เห็นจะมีแค่ส่วนลด Seoul Tower 10% ที่เดียว และหน้าตาบัตรเด็กและบัตรผู้ใหญ่ก็ต่างกันนะคะ กันความสับสนเวลาหยิบมาใช้ ในกรณีที่เดินทางพร้อมเด็ก



ส่วนอันนี้หน้าตาบัตรชัดๆ ทั้งหน้าและหลัง ซึ่งบัตรทีมันนี่ไม่ได้กำหนดอายุการใช้งาน สามารถใช้ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าบัตรจะไม่อ่าน หรือพังกันไปข้าง แต่ส่วนมินคิดว่า ไม่น่าเกิน 10 ปี ก็น่าจะยังใช้งานได้ค่ะ




ใครที่กังวลในเรื่องของปัญหาการสื่อสาร ไม่รู้ว่าจะไปซื้อบัตรที่มันนี่ยังไง การซื้อบัตรด้วยตนเองผ่านตู้อัตโนมัติ ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกค่ะ 

29 กรกฎาคม 2559

Let's Eat 2 : ตามไปกินของหวาน ร้าน CAFE DUDART


ตามรอยละคร Let'e Eat ไปกินของคาวกันเยอะแล้ว มาตามรอย Let's Eat 2 กับร้านของหวานกันบ้าง ที่มีเมนูสตรอเบอร์รี่ที่หลากหลาย บอกเลยว่าถ้าใครไปเที่ยวในช่วงหน้าสตรอเบอร์รี่แล้วล่ะก็ รับรองว่าฟินแน่นอน ร้านนี้ชื่อว่า CAFE DUDART (카페두다트) เป็นร้านกาแฟที่มีสาขามากมายในเกาหลี ตอนนี้มี 35 สาขา ใครพบเจอที่ไหนก็แวะได้เลย ส่วนสาขาที่มินจะพาไป ขอแนะนำย่านที่คุ้นเคยที่สุดอย่างสาขาฮงแด ก็แล้วกันนะคะ




ในร้านตกแต่งได้อย่างเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ ในบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟกินขนม






เมนูฮิตในช่วงหน้าสตรอเบอร์รี่ ที่เห็นในละคร คือ Spring Strawberry Blooming 7500 วอน กับ Spring Strawberry Creaming 5300 วอน น่ากินทั้งคู่เลยยยยยยย


ดูวิปครีมสิ


Strawberry Waffle ก็มีนะ 5500 วอน


นอกจากเมนูตามฤดูกาลอย่างสตรอเบอร์รี่แล้ว ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่ากินอีกมายมาย ก็แวะไปลองกันดูค่ะ



Address : 88, Yeonnam-ro 1-gil, Mapo-gu, Seoul
Tel : 02-3144-3873
Website : www.cafedudart.com
Open from : 10:00-23:00
How to go : รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานีม.ฮงงิก (Hongik Univ.) ทางออกที่ 1 เดินตรงไปยาวไปเรื่อยๆ พอเจอสี่แยกก็เลี้ยวขวาไปค่ะ

Photo by Daum map

Photo by Daum map

Photo by Daum map

จากนั้นเดินตรงยาวไปจนเจอสี่แยกไฟแดงอีกที ก็เลี้ยวขวาไปยังถนน World Cup buk-ro -gil ที่หัวมุมเป็นร้าน T world

Photo by Daum map

Photo by Daum map

และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอีกครั้งตรงร้าน GS25

Photo by Daum map

เดินตามซอยเข้าไปจะเจอร้านอยู่ขวามือค่ะ

Photo by Daum map

Photo by Daum map


Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย





















Credit : ข้อมูลและภาพประกอบจาก siksinhot.com


เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือตามรอยร้านเด็ดคาเฟ่ดัง