30 ตุลาคม 2558

Monster Cupcakes ร้านคัพเค้กที่มีคอนเซ็ปต์ฮัลโลวีน


Monster Cupcakes (몬스터 컵케이크) เป็นร้านขายคัพเค้กร้านดัง ที่มีคอนเซ็ปต์ฮัลโลวีนค่ะ มี 2 สาขาเท่านั้นคือ ฮงแดและอิแทวอน ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี 2012 ส่วนสาขาฮงแดเพิ่งจะเปิดในปี 2014 นี่เองค่ะ แอบบอกด้วยว่า ร้านนี้ YG Family มักจะมาอุดหนุนกันด้วยนะ ใครที่อยากหาคาเฟ่นั่งที่เก๋ไก๋รับเทศกาลฮัลโลวีนนี้ หรืออยากตามรอยจีดราก้อน BIGBANG แล้วล่ะก็ มาร้านนี้เลยค่ะ


ในร้านจะตกแต่งด้วยธีมฮัลโลวีน เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเลยล่ะ




และไม่ใช่แค่การตกแต่งร้าน แต่ที่ร้านยังมีคัพเค้กที่เข้ากับบรรยากาศฮัลโลวีนอีกด้วย ซึ่งมีขายตลอดปี ไม่ใช่แค่เทศกาลฮัลโลวีนเท่านั้น เป็นเอกลักษณ์ของร้านที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ค่ะ



มาดูหน้าตาคัพเค้กในร้านกันดีกว่า ว่าจะเก๋ไก๋ หรือน่ากลัวแค่ไหน





คัพเค้กราคาชิ้นละ 4000-5000 วอนค่ะ ราคาแรงนิดนึงแลกกับดีไซน์



คัพเค้กลูกตา กับนิ้วมือ กล้ากินอ๊ะป่าววววว



เนื้อเค้กด้านในค่ะ


อันนี้หัวกะโหลก กับ Monster ออกแนวน่ารัก


ส่วนเครื่องดื่มในร้านก็เก๋ไม่แพ้กัน จะมาในถุงเหมือนถุงเลือด เป็นเครื่องดื่มจำพวก Ade ราคา 5500 วอน มี 6 รสชาติ 6 สีด้วยกัน




หรือจะเป็นอันนี้ดี Milk Shake กับ Chocolate Shake แก้วละ 6300 วอน มีลูกตาพร้อมนิ้วมือ บรื๋อออออออ



มีคุ้กกี้นิ้วมือด้วย! ซื้อฝากเพื่อนเก๋ๆ


ส่วนอันนี้เป็นภาพจากอินสตาแกรมของ G.D. ที่เคยซื้อคัพเค้กของร้านนี้ไปค่ะ



ใครอยากไปลองชิมที่ร้านบ้าง ก็จัดไปเลยค่ะ หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้นะ เขาก็จะใส่กล่องแบบนี้



Address : 150-1, Wausan-ro, Mapo-gu, Seoul
Tel : 02-790-1108
Website : blog.naver.com/monster1102
Open from : 9:00-23:00
How to go : สาขาฮงแด รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานีม.ฮงงิก (Hongik Univ.) ทางออกที่ 8 ออกมาจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาไปเลย เดินตรงไปตามถนนจนสุดทาง พอเจอแยกที่มีร้าน CU อยู่ให้เลี้ยวไปทางซ้าย ไปทางเดียวกับร้านฮงซึจูกุมิ และร้านอาหารอินเดีย KHAJURAHO เลยค่ะ เดินเลยร้านอาหารอินเดียไปเรื่อยๆ จนสุดถนนเลย ก็จะเห็นร้าน Monster Cupcakes ตรงหน้าเลยจ้า

Photo by Daum Map

Photo by Daum Map


Map คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


















เนื้อหานี้อยู่ในหนังสือตามรอยร้านเด็ดคาเฟ่ดัง















Credit : ภาพประกอบจาก Monster, qplace.kr, mangoplate.com, siksinhot.com

29 ตุลาคม 2558

COFFEE BAY



COFFEE BAY ร้านกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยม  เพราะว่าได้เป็นสปอนเซอร์ของละครหลายๆ เรื่องด้วยกันคือ Empire of Gold, The Queen of Office, Ugly Alert, Prime Minister and I, Healer และล่าสุดกับ Who Are You School 2015 ชื่อ COFFEE BAY นั้น ก็มาจาก COFFEE + BAKERY เพราะที่ร้านเน้นขายกาแฟพรีเมี่ยม ควบคู่ไปกับเบเกอร์รี่ที่ทำสดใหม่ทุกวันนั่นเอง ร้านเปิดสาขาแรกในปี 2011 ก่อนที่ในปัจจุบัน จะมีสาขามากมายทั่วประเทศกว่า 450 สาขา รวมถึงมีสาขาในต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และจีน ที่เมือง เสิ่นหยาง ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ อีกด้วยค่ะ และก็กำลังพยายามที่จะขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นเป้าหมายค่ะ


ส่วนเครื่องดื่มในร้านนั้น เขามี Premium Coffee ในราคาไม่แพง อยู่ที่ 2500-3700 วอนเท่านั้น ถูกเหลือเชื่อ! ส่วนเมนูเฟรบเป้ของที่ร้านจะเรียกว่า Franobe อยู่ที่ 3500-4000 วอน Tea 3000-3800 วอน เมนูสมูธตี้ หรือ Smoobella ราคา 4300 วอน และ Juice 4000-43000 วอนค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีเบเกอรรี่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง เบเกิ้ล แซนด์วิช ฮันนี่เบรด มัฟฟิน เค้ก คุ้กกี้ และบิงซู เรียกได้ว่า เป็นร้านที่เน้นเบเกอร์รี่จริงๆ



ชมเว็บไซต์ร้าน คลิกที่นี่

27 ตุลาคม 2558

รีวิวเกาหลี พาเที่ยวเกาะนามิ เกาะที่สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง


เกาะนามิ หรือ Namiseom (남이섬) เกาะที่คนไทยทุกคนรู้จักกันดี และฮอตฮิตมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวญี่ปุ่น ด้วยอิทธิพลมาจากละครดังอย่าง Winter Love Song หรือ ในภาษาเกาหลีคือ Winter Sonata (겨울연가) ที่นำแสดงโดยพระเอกดังตลอดกาลอย่าง เบยองจุน นับจากวันนั้นถึงวันนี้ เกาะนี้ก็เป็นที่รู้จักมานานถึง 13 ปีแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลงเลย เพราะเมื่อไหร่ที่ถึงฤดูใบไม้ร่วง หลายๆ คนก็มักจะเลือกมาเที่ยวที่นี่ เพราะว่าเกาะนี้จะสวยที่สุดในช่วงนี้นั่นเองค่ะ

Photo by namisum.com

Photo by namisum.com

ส่วนตัวมินเองได้เคยไปที่นี่มาแล้วเช่นกัน แต่ก็เมื่อ 5 ปีก่อน เมื่อตอนไปเกาหลีครั้งแรก หลังจากนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกเลยค่ะ และเมื่อเห็นภาพของเกาะนามิในช่วงพีคของฤดูใบไม้ร่วง นั่นก็คือช่วงนี้ (ปลายเดือนตุลาคม) นั้น ก็ทำเอาชักอยากจะกลับไปอีกแล้วสิ ^^

Photo by namisum.com

Photo by namisum.com

Photo by namisum.com

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับเกาะนามินี้กันสักนิดดีกว่านะคะ เกาะนามินั้นเป็นผลมาจากการสร้างเขื่อนชางพยอง (Cheongpyeong) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1965 ตั้งอยู่ในเมืองคาพยอง จังหวัดคยองกีโด รูปร่างของมันเหมือนพระจันทร์ครึ่งดวง (บ้างก็ว่าเหมือนใบไม้) มีพื้นที่รวมทั้งหมดถึง 462,809 ตารางเมตร ชื่อเกาะมาจากที่ว่าที่นี่เคยใช้เป็นที่ฝังศพของ 'นายพลนามิ' ที่นำชัยชนะอันยิ่งใหญ่จากการจัดการกับพวกกบฏ ในช่วงของกษัตริย์องค์ที่ 7 ของราชวงศ์โชซอน พระนามว่า 'กษัตริย์เซโจ' ที่ครองราชย์ในปี 1455-1468

Photo by namu.wiki

และในเดือนธันวาคม ปี 2010 เกาะนามิก็ได้ถูกกำหนดให้เป็น UNICEF Child Friendly Park ซึ่งเป็นแห่งแรกของเกาหลี และเป็น 1 ใน 14 แห่งของโลก ที่เกาะนามิได้รับเลือกก็เป็นผลมาจากการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องให้กับองค์การยูนิเซฟ และมีการทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมสำหรับเด็ก เช่น Nami Island International Children’s Book Festival (Nambook) และนอกจากนี้ เกาะนามิยังได้รับการกำหนดให้เป็น 'Easy Place' จากองค์กรสิทธิมนุษยชนคนพิการในเกาหลี (PWDK) อีกด้วยนะคะ เนื่องจากที่นี่สะดวกในการเข้าถึงสำหรับทุกคนรวมถึงคนพิการ แถมยังมีวีลแชร์สำหรับคนพิการ ไว้บริการฟรีอีกด้วยค่ะ


ที่นี่ห่างจากตัวเมืองโซล 63 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากชานเมืองโซล และเพียง 30 นาทีจากเมืองชุนชอน เกาะนี้มีชื่อเสียงสำหรับต้นไม้ที่สวยงามไปทั่วทั้งเกาะ และเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงโซล ทำให้คู่รักหลายๆ คู่และครอบครัว นิยมมาเที่ยวกัน ส่วนตอนที่มินไปนั้น ก็พอจะเห็นสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่สวยเท่าตอนพีคๆ (มินไปต้นเดือนพฤศจิกายน) จะเป็นยังไงบ้าง ตามมาดูกันค่ะ...เมื่อเรานั่งเรือเฟอร์รี่มาถึงเกาะแล้ว ก็จะเจอทางเข้าแบบนี้ที่คุ้นเคย ตอนนั้นที่ไป บนเกาะมีงานวัฒนธรรมจากประเทศไทยพอดี


เกาะนามิ ถ้าจะให้อธิบายเป็นคำพูด มันก็คือสวนสาธารณะกว้างๆ นั่นเองค่ะ ทั้งหมดของเกาะเป็นพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้ คุณสมบัติพิเศษของเกาะแห่งนี้ก็คือ ไม่มีเสาโทรศัพท์ เนื่องจากสายไฟฟ้าทั้งหมดถูกสร้างไว้ใต้ดิน เพื่อที่ต้องการคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ และเพื่อทัศนียภาพที่สวยงาม






ในบริเวณตรงกลางของเกาะ มีสนามหญ้าพื้นที่ประมาณ 316,320 ตารางวา ซึ่งเป็นทั้งพื้นที่ในการพักผ่อน สถานที่ฝึกอบรม และสถานที่ตั้งแคมป์ ที่นิยมมากในช่วงฤดูร้อน เพราะที่นี่จะจัดงาน Rainbow Island Music & Camping Festival เป็นประจำทุกปี ในเดือนมิถุนายน




และภายในเกาะ นอกจากจะเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนอีกด้วย เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างที่พัก เช่นวิลล่ารีสอร์ท และบังกะโล เรียกได้ว่าใครอยากจะมาพักค้างคืนที่เกาะนี้ก็ย่อมได้ค่ะ








ใครที่มาคนเดียว หรืออกหักรักคุดมา ถ้าใจไม่แข็งพอ อย่ามาที่นี่ เพราะจะพบเจอคู่รักสวีตหวานมากมายยยยยเต็มไปหมดเลยล่ะ นี่คือตัวอย่าง





และแน่นอนว่า ถ้ามาที่เกาะนี้ ถ้าไม่พูดถึงรูปปั้นเบยองจุนแล้วล่ะก็ คงจะเชยเป็นแน่แท้ มินเองก็ถ่ายภาพมาเป็นที่ระลึกสักเล็กน้อย เพราะเอาเข้าจริงๆ รูปปั้นนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะนามิไปโดยปริยาย ใครมาคนเดียว ไปถ่ายรูปคู่ฟินๆ กับรูปปั้นเบยองจุนแทนก็ได้นะ




หากเดินเล่นไปเรื่อยๆ ก็สามารถแวะพักเหนื่อย จิบกาแฟ หาของกิน หรือซื้อของที่ระลึกได้ เพราะในเกาะแห่งนี้ ก็มีร้านให้บริการค่ะ


หรือถ้าใครเดินเมื่อยแล้ว เขาก็มี Electric Tour Bus, UNICEF Train และจักรยานไว้บริการด้วยนะ สำหรับรถบัสจะพาทัวร์ทั่วๆ เกาะ ประมาณ 20-30 นาที ค่าบริการ 5000 วอนต่อคน ส่วนรถไฟเที่ยวละ 2000 วอน


Photo by kimsujung.com

ส่วนจักรยานนั้น เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นคู่ (ใช่สิ! เอ๊ะ ชั้นใส่อารมณ์ทำไม 55555) แล้วอยากปั่นจักรยานเล่นชมวิวชิลๆ สามารถติดต่อเช่าได้ที่ Bike Center ด้านในเกาะเลย

ค่าเช่าจักรยาน มี 5 ประเภทด้วยกันคือ
- Single 30 นาที 3000 วอน / 1 ชั่วโมง 5000 วอน
- Couple 30 นาที 6000 วอน / 1 ชั่วโมง 10000 วอน
- Family-Serve 30 นาที 10000 วอน
- Electric Tri-way 30 นาที 10000 วอน / 1 ชั่วโมง 18000 วอน
- Sky-bike ต่ำกว่า 12 ปี 2000 วอน / 13 ปีขึ้นไป 3000 วอน


บรรยากาศในช่วงที่มินไป ก็อย่างที่บอกค่ะ ใบไม้เริ่มร่วงบ้างแล้ว แต่ยังคงสีสันให้ได้เห็นบ้างพอชื่นใจ (แม้จะไม่ฟินสุดก็ตาม) แต่อากาศก็ดี ออกไปทางเริ่มหนาวๆ นิดๆ แล้วล่ะ ถ้าใครจะมาช่วงเดียวกับมินนี้ ก็ยังไม่ถึงกับผิดหวังมากมาย แต่ถ้าคาดหวังว่ามันจะต้องสวยมากๆๆๆ เหมือนในรูปที่เคยเห็นแล้วล่ะก็ บอกเลยว่า ผิดหวังแน่ๆ ค่ะ ไม่เชื่อลองดู (ภาพค่อนข้างมัว พราะตอนที่ไปหมอกลงเยอะมาก)












ก็เก็บภาพมาได้เท่าที่เห็น เสียดายเหมือนกันค่ะที่ไปไม่ทัน ส่วนบริเวณทิวสนจุดถ่ายรูปสุดฮิตนั้น ก็ไม่สวยเท่าที่คิดไว้เลย ฮืออออออ โปรดย้อนกลับไปดูที่ภาพแรกของเอนทรี่นี้ แล้วจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน


แต่ก็เอาเถอะค่ะ ได้มาเห็นเท่านี้ก็ยังดีเนอะ (ปลอบใจตัวเอง) ไว้มีโอกาสมินจะต้องกลับไปช่วงพีคๆ ให้ได้เลย เพราะฉะนั้นแล้วอย่ามัวลังเล รีบไปด่วนๆ ไม่งั้นจะเสียใจแบบมินนะ


ความจริงแล้ว เกาะนามินั้นเที่ยวได้ทุกฤดูแหละค่ะ ไม่ได้จำกัดว่าต้องมาแค่ช่วงใบไม้ร่วง เพียงแต่มันจะนิยมสุดๆ ในช่วงนี้นั่นเอง เพราะอย่างที่เห็นว่า ใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งเกาะมันสวยมากจริงๆ (ถ้ามาทัน) และถ้าจะมาเที่ยวฤดูอื่น อย่างฤดูหนาว พื้นที่ก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะ มินว่าก็สวยไปอีกแบบนะ เพียงแต่ต้องทนอากาศหนาวสักหน่อยนะคะ

Photo by egghousenamisum.com

Photo by seoulnski.com

หรือถ้ามาช่วงฤดูร้อน ก็จะเจอต้นไม้เป็นสีเขียวไปหมด หรือในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เช่นกัน เพียงแต่อาจจะมีสีสันของดอกไม้เพิ่มเข้ามาค่ะ

Photo by egghousenamisum.com

Photo by blog.namisum.com

Photo by blog.namisum.com

นอกจากนี้แล้วเกาะนามิยังอยู่ใกล้กับ Gapyeong Top Land สถานที่เล่นกีฬาทางน้ำ สกีน้ำ รวมถึงบันจี้จัมพ์ด้วย ถ้ามาเที่ยวหน้าร้อน ก็แวะที่นี่ได้เลย เพราะเป็นช่วงที่นิยมที่สุดในการเล่นกีฬาทางน้ำค่ะ



Address : 1024, Bukhangangbyeon-ro, Gapyeong-eup, Gapyeong-gun, Gyeonggi-do
Tel : 031-582-2186
Website : namisum.com
Open from : ทุกวัน 7:30-21:30
Admission : นักท่องเที่ยว 8000 วอน ถ้าเข้าหลัง 18:00 (เดือนธันวาคม - มีนาคม) หรือหลัง 19:00 (เดือนเมษายน - พฤศจิกายน) เหลือ 4000 วอน, เด็กอายุต่ำกว่า 36 เดือน เข้าฟรี
How to go : เกาะนามิ มาได้หลายวิธีนะคะ เริ่มจากที่ง่ายที่สุดและประหยัดที่สุดคือ รถไฟสาย Gyeongchun ขึ้นได้ที่สถานี Sangbong (รถไฟใต้ดินสาย 7 สีเขียวขี้ม้า) รถไฟสายนี้จะวิ่งจากโซลไปเมืองชุนชอน นั่งไปลงที่สถานีคาพยอง (Gapyeong) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 2250 วอน (ใช้ทีมันนี่ได้ เหลือ 2150 วอน) 

วิธีต่อมาคือ รถไฟ ITX-Cheongchun สามารถขึ้นได้จาก 2 สถานีคือ สถานี Yongsan หรือ สถานี Cheongnyangni (รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน) ไปลงที่สถานี Gapyeong สถานีเดียวกันกับวิธีแรก หากขึ้นจากสถานี Yongsan ต้นทาง จะใช้เวลา 55 นาที ค่าโดยสาร 4800 วอน ถ้าขึ้นจาก สถานี Cheongnyangni จะใช้เวลา 40 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 4000 วอน *รถไฟที่มาจากสถานีต้นทาง จะมีตั้งแต่เวลา 6:00-22:00

อีกวิธีคือ รถบัส ขึ้นได้ที่สถานีรถบัส Dong Seoul Bus Terminal (รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Gangbyeon) ไปลงยังสถานี Gapyeong Bus Terminal ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 6400 วอน *รถบัสมีตั้งแต่เวลา 06:35-22:05

และทั้ง 3 วิธีนี้ ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหนก็ตาม ต้องนั่งรถแท็กซี่จากหน้าสถานี ไปยังท่าเรือเกาะนามิ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที แล้วแต่ว่ามาจากทางไหน (ในกรณีที่รถติดในช่วงที่คนมาเที่ยวกันมาก อาจใช้เวลานานกว่านี้เล็กน้อย) ค่ารถอยู่ที่ 3600-5000 วอน

และวิธีสุดท้ายคือ Shuttle Bus จากโซลไป สามารถขึ้นได้ 2 จุด คือ
- อินซาดง รถไฟใต้ดินสาย 1 ลงสถานีจงกัค (Jonggak) ทางออก 3 ป้ายรถบัสจะอยู่ถัดจากสวนสาธารณะทับกล (Tapgol) รถออกเวลา 9:30 (มีวันละ 1 รอบ)
- ประตูนัมแดมุน ที่ป้ายรถเมล์ Sungnyemum Square อยู่ตรงประตูเมือง ตรงข้ามตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market) รถออกเวลา 9:30 (มีวันละ 1 รอบ)
** ส่วนขากลับจากเกาะนามิ ขึ้นได้ที่ด้านหน้าของบูธขายตั๋ว รถออกเวลา 16:00 (มีวันละ 1 รอบ)

ให้บริการทุกวัน *หมายเหตุ - งดให้บริการในช่วงเทศกาลชูซอก ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 15000 วอน (ไปกลับ) 7500 วอน (เที่ยวเดียว) / เด็ก (อายุ 24 เดือน-12 ปี) 13000 วอน (ไปกลับ) 6500 วอน (เที่ยวเดียว) รถบัสนี้จะไปจอดที่ท่าเรือเลยค่ะ

และเมื่อมาถึงบริเวณบูธขายตั๋วตรงท่าเรือแบบนี้แล้ว เราต้องซื้อตั๋วเข้าเกาะนามิ (รวมค่าเรือเฟอร์รี่แล้ว) แล้วไปรอขึ้นเรือเพื่อไปยังเกาะอีกทีค่ะ (ซื้อที่ช่อง Foreigner) 

Photo by kimsujung.com

เรือเฟอร์รี่ จะให้บริการทุกวัน เป็นรอบๆ ทุกๆ 10-30 นาที แล้วแต่ช่วงเวลา 
ขาไป มีเวลา 7:30-18:00 *เวลา 07:30-09:00 เรือจะมาทุกๆ 30 นาที / เวลา 09:00-18:00 เรือจะมาทุกๆ 10-20 นาที
ขากลับ มีเวลา 9:00-21:40 *เวลา 09:00-18:00 เรือจะมาทุกๆ 10-20 นาที / เวลา 18:00-21:40 เรือจะมาทุกๆ 30 นาที

Photo by kimsujung.com

Photo by kimsujung.com

วิวระหว่างนั่งเรือไปเกาะค่ะ วันนั้นหมอกลงเยอะมาก มองแทบไม่เห็น


ถึงเกาะแล้ว


ระหว่างนั่งเรือมา จะมองเห็น Tower สูงๆ ไกลๆ ด้วย อันนั้นคือ Zip-wire ค่ะ หากการนั่งเรือข้ามไปมันธรรมดา ลองอันนี้มั้ยล่ะไม่เหมือนใครดี 


Photo by zipwirekorea

ถ้านึกไม่ออกว่ามันเป็นยังไง ใครดูรายการ We Got Married อีทึก กับ คังโซระ น่าจะจำได้นะคะ อันนี้แหละ ^^ รวมถึงคู่ของกวางซู กับ ลีนน์ฮุง จากรายการ If You Love ของประเทศจีนด้วย ค่าบริการ 38000 วอน (รวมค่าเข้าเกาะนามิแล้ว) ให้บริการทุกวัน 09:00-19:00 (เดือนเมษายน-ตุลาคม) และ 09:00-18:00 (เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม) *อาจงดให้บริการในวันที่อากาศไม่อำนวย 


Photo by zipwirekorea

เอาเป็นว่าใครสะดวกจะมาด้วยวิธีไหน หรืออยากมาเที่ยวฤดูไหน ก็ตามแต่ใจกันเลยนะคะ ถึงแม้ว่าเกาะนามิจะดูเชยไปแล้ว เพราะใครๆ ก็มากัน แต่เชื่อมินเถอะว่าหากได้มาเกาหลี ยังไงก็ต้องลองแวะมาที่นี่ดูสักครั้งค่ะ